“ประยุทธ์” ลั่นปล่อย สปช. โหวตร่างรัฐธรรมนูญอย่างอิสระ ยันเคารพการตัดสินใจ แต่ถ้าโหวตคว่ำเพียงเพราะไม่เป็นประชาธิปไตย คิดว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชน แจงจำเป็นต้องออกแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนช่วยผู้มีรายได้น้อย หวังกองทุนหมู่บ้านเม็ดเงินถึงประชาชนอย่างแท้จริง ฮึ่มอย่าทุจริตเด็ดขาด
วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่ง ว่า นับจากห้วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่พวกเราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจในการเดินหน้าประเทศไทยไปในอนาคต โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้เสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็เป็นการเดินหน้าตามโรดแมปของ คสช. ตนคิดว่าวัตถุประสงค์การเป็นประชาธิปไตย คือ ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์และเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่พรรคการเมือง หรือใครก็แล้วแต่ ซึ่ง คสช. ก็ไม่ได้ประโยชน์จากตรงนั้นด้วยอยู่แล้ว
“คสช. บอกไว้แล้วว่า ไม่เคยคิดจะเปลี่ยน จะเลื่อนผ่านหรือไม่ผ่านก็เป็นเรื่องของ สปช. ถ้าผ่านก็ต้องมั่นใจให้ได้ว่าต้องมีการปฏิรูป แล้วก็ไม่มีความขัดแย้ง ถ้าไม่ผ่าน ก็มาดูว่าไม่ผ่านตรงไหน ด้วยเรื่องอะไร แต่ถ้าจะไม่ผ่านเพราะว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ผมคิดว่าอันนั้นไม่เป็นธรรมกับประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯกล่าวต่อว่า หลายท่านก็อยากจะให้ตนออกมาตัดสิน แต่ตนตัดสินไม่ได้ในเรื่องนี้ เป็นเรื่องของทุกคนจะต้องตัดสินตัวเอง ตัดสินประเทศชาติของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นการลงมติของ สปช. ก็เป็นเสรี เป็นอิสระ ไม่ต้องให้ใครชี้นำแล้วก็ดูรัฐธรรมนูญให้ครบทุกหมวด ไม่ใช่เฉพาะหมวดนี้มีปัญหา หรือที่มีผลกระทบกับพรรคการเมือง
“ผมเคารพการตัดสนใจของทุกท่าน ก็หวังให้ประเทศเรานั้นมีการเดินหน้าปฏิรูป แล้วก็มีรัฐบาล หรือเป็นนักการเมืองที่ดี ๆ เข้าเข้ามาในสภาแล้วก็ดำเนินการปฏิรูปประเทศให้ได้ คงต้องใช้เวลานานพอสมควรในการปฏิรูปทั้งหมด ผมก็จะไปเฝ้ารอคอยดูว่าความสำเร็จของท่านก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจวันที่ 6 ก.ย. นี้ ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์นี้รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน เพื่อจะช่วยเหลือบรรเทาภาระของพี่น้องประชาชน ผู้มีรายได้น้อยในทุกพื้นที่ เราต้องการให้มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่ เพื่อจะช่วยวางรากฐานให้ชุมชนเข้มแข็ง มาตรการนี้จะครอบคลุมท้องถิ่น ทั้งในระดับหมู่บ้านตำบล ในหมู่บ้านนั้นได้มีการจัดสรรเงินกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้าน ที่มีผลประกอบการดีและดีมาก กองทุนละไม่เกิน 1 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีแรก จะปลอดภาระดอกเบี้ย ในระดับตำบลนั้น เราก็เพิ่มงบประมาณลงไปอีกก้อนหนึ่งนะครับ ทุกตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท อันนี้ก็เพื่อต้องการให้เกิดการกิจกรรมหมุนเวียนในท้องถิ่น รวมไปถึงในเรื่องของการเร่งส่งเสริมการลงทุนขนาดเล็กต่าง ๆ ด้วย
“ในส่วนของกองทุนหมู่บ้านนี้ ผมถือว่าเป็นเม็ดเงินที่จะถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง แล้วประชาชนเป็นผู้ดำเนินการเอง ฉะนั้น อย่าทำทุจริตโดยเด็ดขาดนะครับ ผมไม่ต้องการให้มีผลกระทบทางด้านการเมืองในเรื่องคะแนนเสียงต่าง ๆ ทั้งสิ้นในช่วงนี้” นายกฯระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้ประเทศชาติกำลังมีปัญหา มีภัย ก็เห็นได้จากตนเข้ามา ก็ยังไม่หยุดหลาย ๆ เรื่อง ทั้งในประเทศนอกประเทศ ที่มีความขัดแย้งกันทั่วไป เราก็ต้องลดของเราให้มากที่สุด เพื่อจะได้รวมกำลังกัน ป้องกันที่จะมาจากภายนอก ขณะเดียวกัน ก็มีบางคน บางพวกบางกลุ่มที่พยายามที่จะทำให้ในประเทศไม่เข้มแข็ง ประชาชนก็ต้องปฏิเสธ คนเหล่านี้ไม่ได้หวังดีกับท่าน ตนก็ไม่อยากจะบอกว่าตนดีกว่าเขา แต่ดูการแสดงออก ดูการทำงาน ดูการพูด ดูการชี้แจงของตนก็แล้วกัน เคยฟังใครพูดอย่างตนบ้าง
คำต่อคำ : รายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" วันที่ 4 กันยายน 2558
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน พบกันอีกเช่นเคยนะครับในคืนวันศุกร์ ในห้วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่พวกเราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการที่จะเดินหน้าประเทศไทยไปในอนาคต โดยทุกคนต้องคิดร่วมกัน หารือร่วมกัน โดยไม่เอาทุกอย่างมาขัดแย้งกันทุกเรื่อง วันนี้เรากำลังพูดถึงเรื่องของอนาคต ก็คือการมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เป็นสากล แต่พวกเรามั่นใจหรือยังว่าในวันหน้า ถ้าเป็นดังกล่าวแล้ว จะเป็นเหมือนเช่นห้วงที่ผ่านมาหรือเปล่า อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมาคิดกัน ขณะนี้คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญก็กำลังจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ ก็เป็นการเดินหน้าร่วมกันของ คสช. ซึ่ง คสช.บอกไว้แล้วว่าไม่เคยคิดจะเปลี่ยน จะเลื่อน ก็เป็นไปตามนั้น ผ่านหรือไม่ผ่านก็เป็นเรื่องของ สปช. ถ้าผ่านก็มั่นใจให้ได้ว่ามันจะต้องมีการปฏิรูปและไม่มีความขัดแย้ง ถ้าไม่ผ่านก็ดูว่า ไม่ผ่านตรงไหน ด้วยเรื่องอะไร แต่ถ้าจะไม่ผ่านเพราะว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ผมคิดว่า อันนั้นไม่เป็นธรรมกับประชาชน วันนั้นประชาชนต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลง ต้องการให้มีการปฏิรูป การที่มีรัฐธรรมนูญ คำว่าจะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย หรือไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ผมคิดว่าวัตถุประสงค์ความเป็นประชาธิปไตยนั้นก็คือ ประชาชนจะต้องรับประโยชน์ ประชาชนจะเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่พรรคการเมือง ไม่ให้อะไรก็แล้วแต่เป็นผลประโยชน์ และ คสช.ไม่ได้ประโยชน์จากตรงนั้นด้วยอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นขอให้ท่านพิจารณากันให้ดี หลายท่านอยากจะให้ผมออกมาตัดสินไม่ได้นะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องตัดสินตัวเอง ตัดสินประเทศชาติของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นการออกเสียงลงประชามติของ สปช. เป็นเสรีนะครับ เป็นอิสระ ไม่ต้องให้ใครชี้นำ ถ้าใครเห็นด้วยก็ลงเห็นด้วย ถ้าใครไม่เห็นด้วยก็ไม่เห็นด้วย แต่ต้องไปมองว่า หลักการเหตุผลมันคืออะไร และดูให้มันครบทุกหมวดด้วย ไม่ใช่เฉพาะหมวดนี้ มีปัญหาอยู่ 3-4 เรื่อง เฉพาะเรื่องที่มันมีผลกระทบกับพรรคการเมืองทั้งสิ้น อันนี้ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ผมเคารพในการตัดสินใจของทุกท่าน ก็หวังให้ประเทศเราได้มีการเดินหน้าปฏิรูป และมีรัฐบาล หรือเป็นนักการเมืองที่ดีๆ เข้ามาในสภา และดำเนินการปฏิรูปประเทศให้ได้ คงต้องใช้เวลานานพอสมควร ไม่ใช่ใช้เวลา 1-2 ปี คงไม่เสร็จ ผมก็จะไปเฝ้ารอคอยดูความสำเร็จของท่านแล้วกัน ฉะนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจวันที่ 6 ด้วย
การที่ประเทศชาติของเราจะเติบโตและแข็งแกร่งไปได้ด้วยกันนั้น ที่ผมเคยพูดไว้ว่า Our home, Our country. Stronger Together นั้น เป็นเรื่องของเศรษฐกิจด้วย นอกจากความมั่นคงแล้ว ก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ปากท้อง พี่น้องประชาชน ทุกอย่างมีควาสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ในการขับเคลื่อนประเทศ
สัปดาห์นี้รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระของพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยในทุกพื้นที่ให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน มีโครงการที่เป็นประโยชน์และตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในชุมชนอย่างแท้จริง เราต้องการให้มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่ เพื่อจะช่วยวางรากฐานให้ชุมชนเข้มแข็ง มาตรการดังกล่าวนั้นจะควบคุมท้องถิ่น ทั้งในระดับหมู่บ้าน ตำบล ในหมู่บ้านนั้นได้มีการจัดสรรเงินกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้านที่อยู่ในเกณฑ์ระดับ เอ และ บี คือมีผลประกอบการที่ดี ดีมาก ดี กองทุนละไม่เกิน 1 ล้านบาท ในช่วงสองปีแรกจะปลอดภาระดอกเบี้ย เพื่อให้พี่้่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลในการจ่ายคืนหนี้สินช่วงแรก ที่จะนำเงินไปลงทุน อย่าไปใช้ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ไว้วางใจจากสังคมโดยรวมว่าไปใช้ซื้อในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ กรรมการหมู่บ้านเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะว่าเป็นเรื่องของการเป็นประชาธิปไตยที่ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม และเป็นอีกผู้หนึ่งในการที่จะใช้จ่ายเงินสอนให้มีความเข้มแข็งในการจัดระบบในเรื่องของการดูแลประชาชนด้วยกันเอง นี่ล่ะคือสิ่งที่เป็นพื้นฐานแรกของการกระจายอำนาจนะครับ แต่จะต้องไม่ทุจริตไม่นำไปแจกให้กับหัวคะแนน ให้หัวคะแนนไปแจกให้กับสมาชิกที่เป็นพวก ถ้าไม่ใช่กลุ่มนี้ พรรคนี้ ก็ไม่ได้ นี่ละปัญหา ผมไม่ได้ว่าประชานิยมอะไรทั้งสิ้นนะ แต่ถ้าประชานิยมและมีปัญหาอย่างนี้ผมก็ไม่ทำ และนี่เป็นเรื่องของการที่ทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ ใช้สอยได้พอสมควรซึ่งมีรายได้น้อยไม่ใช่ประชานิยม ซึ่งผมไม่ต้องการให้ใครมาชอบผม ผมต้องการให้เศรษฐกิจมันเดินหน้า ถ้ามีเม็ดเงินตรงนี้ มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ภาคการผลิตก็สามารถผลิตของมาขายได้ ถ้าผลิตมาแล้วไม่มีคนซื้อมันก็พังตามกันไปอีก เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็มีกลไกในการตรวจสอบนะครับ จะไม่ปล่อยปละละเลยเหมือนเช่นเดิมที่ผ่านมา เหมือนห้วงก่อนหน้าที่ผ่านมา จะทำให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นใครที่ออกมาพูดตามสื่อ ตามอะไรต่างๆ เหล่านี้ ไปดูว่ารายละเอียด ท่านทำอะไรไว้อย่างไร วันนี้เราต้องมาแก้ไขทั้งหมด
สำหรับกองทุนหมู่บ้านระดับซีและดีนั้น ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเราได้มีมาตรการในการเข้าฟื้นฟูอยู่แล้ว ได้มีการยัดเม็ดเงินไว้แล้วตั้งแต่ ครม. ชุดที่แล้วนี้ ก็จะนำมาใช้จ่ายให้ชาวบ้านที่จะทั่วถึง คือตอนแรกถ้าคิดจะเตรียมไว้ให้กองทุนที่ดี และที่ไม่ดี ที่มันฟื้นฟู ผมว่าไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะฉะนั้นต้องฟื้นฟูเขาให้ได้นะครับ เดี๋ยวจะให้ทั้ง คสช. ให้มหาดไทย เข้าไปดูแลคณะกรรมการด้วย เพราะฉะนั้นอย่าทำทุจริตโดยเด็ดขาด ผมไม่อยากให้มีผลกระทบทางด้านการเมืองในเรื่องคะแนนเสียงต่างๆ ทั้งสิ้นในช่วงนี้นะครับ
ในส่วนของกองทุนหมู่บ้าน ผมถือว่าเป็นเม็ดเงินที่จะถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง และประชาชนเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ช่วงนี้จะต้องมีคนเข้าไปดูแล ที่ผ่านมามันมีกฎหมายอยู่แล้ว ให้เขาทำเองได้ แต่ปรากฏว่า อาจจะมีคนบางคน หรือบางพวกมาทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบ ไม่เกิดความเป็นธรรมทั่วถึงทำนองนั้น ในระดับตำบลนั้น เราเพิ่มงบประมาณลงไปอีกก้อนหนึ่ง ทุกตำบลๆ ละ 5 ล้านบาท อันนี้เพื่อต้องการให้เกิดกิจกรรมหมุนเวียนท้องถิ่น ที่ผ่านมาเราเคยให้ไปแล้วนะครับ ในตำบลที่แล้งซ้ำซากตำบลละ 1 ล้าน ปรากฏว่าประชาชนก็เสนอมาว่า ไม่เคยได้รับเงินอย่างนี้มาก่อน คือเขาเอาไปลงทุนทำโน้นทำนี่ ขุดบ่อน้ำ ทำซ่อมแซมถนน ทำสร้างอาชีพสร้างรายได้ สร้างลานมัน จัดสรรเครื่องมือเครื่องสีข้าวขนาดเล็กอะไรก็แล้วแต่ ผมถือว่าเป็นการลงถึงมือเขา และเขาเป็นคนกำหนดโครงการเอง แต่เราต้องไปดูเช่นกัน ทั้ง คสช. มหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ต่างๆ ต้องไปเดินดูทั้งหมดนะครับ
เพราะฉะนั้นขอร้องเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย ถ้าหากตรวจพบการทุจริตตรงใดก็ตามให้รีบแจ้งมา เพราะฉะนั้นคนทำก็ไม่ต้องกลัวทุจริต ไม่ต้องกลัวว่า จะโดนจับนี่จับโน้น ถ้าตั้งใจดีแล้วได้เงินไป คิดว่าจะทำอย่างไรให้คนอื่นอย่างที่ผมเคยพูดมาแล้ว มันไม่มีเรื่องหรอก หลายคนบ่นมาว่า วันนี้รัฐบาลเข้มงวด คตร. คสช. อะไรต่างๆ ไปเข้มงวดเรื่องการทำแผนงานโครงการ ก็ทำให้มันถูกต้องแล้วจะไปกลัวอะไร ไอ้ที่มันกลัวเพราะมันทำไม่ถูกต้อง หรือไม่มีความรู้อย่างแท้จริง ฉะนั้นท่านก็ไปเร่งมาสิครับ ทำยังไงจะใช้จ่ายงบประมาณได้ ช่วยรัฐบาล ช่วยประชาชนของท่าน ไม่ใช่กลัวแต่ว่าจะถูกจับๆ ก็ท่านทำผิดมันก็ต้องถูกจับอยู่ดี ดังนั้นผมต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างเท่าเทียมนะครับ อย่าให้ใครเขามาว่าได้ ชอบมาพูดในทำนองว่างบประมาณช้า เพราะข้าราชการไม่กล้าทำ เพราะเราไปตรวจสอบ แล้วมันผิดตรงไหนล่ะถ้าตรวจสอบ ผิดตรงไหน หรือจะต้องไม่ตรวจสอบ ผมไม่รู้นะ เมื่อไปตรวจสอบผมก็ใช้สติปัญญาของผมนะ สั่งการไปแล้วว่า โครงการน่ะ ไม่ได้ตรวจทุกโครงการหรอก บางโครงการเขาก็มีเจ้าหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว แต่บางโครงการที่มีความล่อแหลม ก็จะลงไปตรวจสอบ และถ้าพบการกระทำความผิด ก็หยุด ไม่ให้ทำ เอาไปดำเนินคดี แล้วโครงการนั้นก็ไปหาทางทำต่อให้ได้ นั่นล่ะคือวิธีการที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ผมไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหนนะ เว้นเสียแต่ว่าต้องการเอาเงินออก แล้วใครต้องการจะทุจริต ก็ว่ากันไป
ในเรื่องของการเร่งการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ อาทิเช่น การซ่อมสร้าง อะไรเล็กๆ น้อยๆ ซ่อมโรงเรียน ซ่อมอาคารราชการ ทาสี อะไรเหล่านี้ มันก็ต้องการที่จะให้มีเม็ดเงินลงไป เกิดการจ้างงานให้มากขึ้น สามารถเบิกจ่ายได้รวดเร็ว มีการแก้ไขกฎระเบียบ ให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ติดขัด บางอย่างก็มีการผ่อนผัน มีการชะลออยู่แล้ว ขอร้องอย่างเดียว อย่าทุจริตกัน มันต้องเสริมสร้างทั้งสองอย่าง ใช้กฎหมาย ใช้การปลุกจิตสำนึก ใช้ความมีอุดมการณ์ที่จะทำให้ประเทศชาติต่อไป ถ้าทุกคนคิดแบบนี้ได้ ผมก็เบาแรง ผมก็ไม่จำเป็นต้องมาพูดมากขนาดนี้หรอก เราต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในทั่วทุกภูมิภาคไปพร้อมๆ กัน ให้มีการกระจายการลงทุนไปสู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะเร่งด่วน ที่ทุกคนมีความลำบากในขณะนี้ จากภายในประเทศ และจะได้มีการลดผลกระทบจากภายนอกด้วยนะครับ ขณะเดียวกัน เราต้องสร้างความเข้มแข็งไปด้วย ไม่ใช่ว่าทำตรงนี้อย่างเดียว อย่างอื่นเราก็ทำด้วย สร้างความเข้มแข็ง เพิ่มการลงทุนทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และในเรื่องของการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในเรื่องของการค้าชายแดน ทุกอย่างเป็นระบบหมด ที่ผ่านมาทำเป็นระบบอย่างนี้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำระบบอย่างนี้อย่ามาต่อว่าผม อย่ามาพูดตามสื่อ ผมว่าไม่ค่อยได้
เพราะฉะนั้นทุกวันต้องมีความโปร่งใสคุ้มค่า หลายท่านอาจจะมองว่า เป็นประชานิยม มันก็คือทำให้ประชาชนนั่นแหละ เพียงแต่ว่าผู้ทำต้องไม่ได้ประโยชน์ ถ้าจะทำก็นำเงินที่ผมกำลังพยายามทำอยู่เวลานี้ เพราะฉะนั้นไปทบทวนดูของตัวเองว่า มีข้อบกพร่องอะไรบ้าง วันนี้กองทุนหมู่บ้าน 7 หมื่นกว่ากองทุน ใช้ได้ประมาณสัก 2 ใน 3
ที่เหลือ 1 ใน 3 มันเป็นในส่วนของที่พอใช้ได้ และยังใช้ไม่ได้ และใช้ไม่ได้เลย นี่คือการทำประชานิยมสมัยก่อน เพราะฉะนั้นวันนี้เราทำคล้ายๆ กัน แต่เราต้องไปเข้มงวดดูแลข้างล่าง สร้างจิตสำนึกและไม่ให้ทำเองในส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย จะให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลด้วย รัฐบาลได้คำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการใช้จ่ายไปในงวดที่ 2 นี้ ในการช่วยเหลือประชาชนในการลงทุน เราควบคุมให้อยู่ภายใต้ระบบระเบียบของวินัยการคลังนะครับ ว่าทำอะไรหนี้สาธารณะไม่เกิน ต้องไปดูซิว่า หนี้สาธารณะมันเกิน ที่ผ่านมาแล้วมันเป็นหนี้สาธารณะจากเรื่องอะไรบ้าง ถ้าเรื่องที่สร้างทรัพย์สินที่มีมูลค่า เป็นหนี้ที่มีมูลค่า เช่น สร้างรถไฟ สร้างรถไฟฟ้าอะไรเหล่านี้มันเป็นก่อให้เกิดรายได้ทั้งสิ้น เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ ไปใช้หนี้ที่มันมีความเสียหายอีกหลายเยอะนะ ประมาณ 7-8 แสนล้านทั้งหมดทั้งระบบ อีกหลายเรื่องด้วยกำลังดำเนินการอยู่ นี่แหละทำให้หนี้สาธารณะมันสูงขึ้นมาโดยที่ไม่มีรายได้เกิดขึ้นในอนาคต ที่เราทำในขณะนี้มันจะต้องมีรายได้เกิดขึ้นในอนาคต เว้นเสียแต่ว่า ในส่วนที่ให้ประชาชนนั้น ประชาชนต้องเข้มแข็งขึ้น มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ถ้าไม่คิดเป็นระบบแบบนี้มันไปไม่ได้หรอกครับ ประเทศ จะไปมุ่งหวังการส่งออกอย่างเดียวไม่ได้นะครับ
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค ราคาเท่าที่กระทรวงพาณิชย์ไปตรวจสอบ หรือหน่วยงานไปตรวจสอบราคาอาจจะมีเพิ่มขึ้นบ้างไม่มากนัก จะกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบราคาสินค้า และไปเจรจากับผู้ผลิต ผู้ประกอบการค้าด้วย ให้กำหนดราคาขายให้เหมาะสม ไม่ใช่ว่าราคาก็ยังสูงอยู่ วันนี้ต้องขอร้องกันเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนด้วยนะครับ วันนี้ก็ผมได้ให้นโยบายใหม่ไป ให้ไปทางฝ่ายเศรษฐกิจ ท่านรองไปว่าผมอยากให้มีการหมุน มีตลาดกลางแต่ละภูมิภาค และก็ไปเชื่อมต่อกับตลาดชุนชนในท้องที่ เพื่อให้มีการซื้อ-ขายสินค้า ราคาย่อมเยา โดยเป็นการเกษตรกรเข้ามากันเองจำหน่ายเอง เจ้าหน้าที่รัฐอาจเป็นเพียงจัดดูแลเรื่องการตลาด สถานที่ แล้วเป็นเรื่องของการทำหีบห่อ กล่องให้เขา และก็มาเสนอราคาขายกันดู ผมเห็นที่ต่างประเทศเขาทำนะ วันนี้มาดูกันว่าทำได้ไหม ในเมื่อเราเปิดตลาดกลางเพื่อการเกษตรหรือประมง สินค้าประมง สินค้าสัตว์น้ำ ก็อาจเป็นไปได้หรือไม่ ในการที่เราทำ 2 ทาง เราเอาสิ่งของราคาถูกลงไปขายด้วย ไม่งั้นเราต้องไปทำเรื่องของธงฟ้า มันอาจไม่ทั่วถึง ไม่ทันเวลา ถ้าเราสร้างพื้นฐานไว้ตรงนี้ และต่อไปมันจะเข้มแข็งเอง เราก็ขอความร่วมมือจากบริษัทให้ผลิตของจากราคามนุษย์บ้าง ลดความสวยงามของผลิตภัณฑ์ที่จะต้องบรรจุในหีบห่อลดลง ราคามันก็น่าลดลงได้ถ้าไม่ผิดกติกากฎหมายการค้าสากล เพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้มีสิ่งของที่ซื้ออุปโภค-บริโภคได้ ในยามที่เดือดร้อน ขณะนี้ก็ลองทำดูก่อนนะครับ ถ้าทำได้
ส่วนของการเดินหน้าประเทศในขณะนี้ ก็ขอให้ทุกคนได้เป็นคนไทยยุคใหม่นะครับ ให้มีการติดตามข่าวสารข้อมูลโดยทางโซเชียลมีเดียที่ดี ๆ ในเฟซบุ๊ก ในยูทิวบ์ ในแอปพลิเคชัน ที่ดี ๆ คือที่ไม่ดีไม่เกิดประโยชน์อย่าไปเสียเวลาอ่าน ถ้าอ่านแล้วก็ลืม ๆ ทิ้ง ๆ ไป อย่าไปสนใจมากนัก สนใจว่าเราจะอยู่อย่างไร จะเดินหน้าอย่างไร ทุกกระทรวงเขามีแอปพลิเคชันให้แล้ว เราต้องเป็นคนไทยยุคใหม่ สมาร์ทไทยเหมือนสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ทุกคนต้องเป็นคนรุ่นใหม่ คือการใช้เทคโนโลยีการใช้วิชาความรู้ เพื่อจะทำให้การประกอบการของเรามีประสิทธิภาพ มีผล มีรายได้มากขึ้น วันนี้เราก็เดินหน้าเรื่องดิจิตอลอยู่แล้ว วันนี้ก็ร้องให้ทุกกระทรวงไปหาทางที่ทำให้ประชาชนรับรู้รับทราบ ต้องทำให้กว้างขวางไม่ใช่ทำแล้วไม่บอก หรือบอกเฉพาะราชการด้วยกัน ผมบอกแล้วว่าประชาชนต้องได้รับประโยชน์จากตรงนี้ด้วย ทุกเรื่องใส่ในแอปพลิเคชันไป แล้วแจ้งขึ้นจอทีวีไปว่า อยากรู้เรื่องไหนไปตรงไหน ผมเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ ต้องทำทุกกระทรวง มันมีอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ทั่วถึง
ในเรื่องของการสร้างอนาคต ในเรื่องของการขับเคลื่อนการลงทุน ก็พยายามจะเร่ง อันนี้ได้สั่งการให้รัฐมนตรีท่านใหม่ได้เร่งดำเนินการจากช่วงที่ผ่านมา เพราะช่วงที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการทำสัญญา เจรจาทำข้อตกลง แก้ไขกฎหมาย ผมก็อยากให้ทุกอย่างมันมีการเริ่มต้น ดำเนินการได้ภายในปี 58 ในปี 59 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ไมได้หมายความว่าจะเร่งให้ใครได้ประโยชน์ เร่งเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ ทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และมอบหมายให้กระทรวงการคลังได้ดูแลจัดทำแผนลงทุนระยะ 5 ปีไว้ด้วย เพื่อจะได้ดูในเรื่องของภาพรวมการลงทุนประเทศ และดูเรื่องการเงิน การคลัง ก็จะได้ไม่ผิดพลาด เป็นปัญหาต่ออนาคตของรัฐบาล นี่คือความแตกต่างของรัฐบาลที่รัฐบาลอื่นๆ รัฐบาลนี้ทำอะไรก็แล้วแต่ก็จะเป็นห่วงในระยะต่อไป ในเรื่องของการใช้เงิน หนี้สาธารณะ บางอย่างมันจำเป็น ก็จะต้องทำไว้ เดี๋ยวไม่ทำอีก แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะไม่ทิ้งภาระ ไม่เหมือนที่ผมจะต้องรับภาระอยู่ในขณะนี้ที่ผ่านมา
ในเรื่องของการลงทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชน ก็จะทำมากขึ้น ผมเคยบอกไว้แล้วรัฐจะทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก ดูแลกฎหมาย ดูแลสิทธิประโยชน์ และเปิดพื้นที่ เปิดตลาด จากนั้นเอกชนก็ต้องเดินคู่ขนานกันไปในการที่จะชักชวนคนมาลงทุนในประเทศไทย และชวนเอกชนไทยไปลงทุนที่ต่างประเทศ เกื้อกูลต่อกัน เป็น Partnership กัน คิดว่าการลงทุนวันนี้ถ้ารัฐบาลทำทั้งหมดมันไปไม่ได้ และเป็นแหล่งของผลประโยชน์ด้วย ฉะนั้นต้องระมัดระวัง เราจะต้องปรับโครงสร้างประเทศใหม่ ให้ประชาชนในทุกภูมิภาคมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คือทำทุกมิติ ไม่ว่าจะขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แม้ว่าการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจะต้องเร่งดำเนินการ ไม่งั้นเราก็ไม่เข้มแข็งเพียงพอที่จะเผชิญกับความเสี่ยงในอนาคตในเรื่องเศรษฐกิจต่อไปอีกครั้ง
รัฐบาลกำลังแก้ไขกฎหมายต่างๆที่เป็นอุปสรรคในการลงทุน และการดำเนินการธุรกิจ แต่มันต้องใช้เวลา เพราะการทำ พ.ร.บ.ทางกฎหมาย ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ซึ่ง คสช.มีการจัดตั้งอยู่ตามปกติ ก็มีการใช้เวลามากมาย ไม่ใช่ว่าผมส่งไปทั้งหมดแล้วเป็นไปตามนั้น คงไม่ใช่ เพราะมันเป็นเรื่องของการทำงาน ทุกคนก็รู้หน้าที่ของตัวเองดีอยู่ แต่มันออกมาแล้วจะถูกใจใคร ไม่ถูกใจใคร มันก็ดีกว่ามันไม่ได้ออก ที่ผ่านมาไมได้ออกเลย ก็ไปดูกันต่อไปว่าจะแก้ปัญหาต่อไปอย่างไร มันต้องมีการเริ่มต้นทั้งสิ้น
ในเรื่องของการให้สิทธิประโยชน์ มันต้องมาดูทบทวนว่า วันนี้ประชาชนหลายพวก หลายกลุ่มที่จะทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ อาจจะไม่เข้าใจว่าตนเองได้อะไรจากตรงนั้น ได้เขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้จากเออีซี เขาได้ทั้งหมด ถ้าคนที่มีรายได้น้อย ไม่ใช่นายทุน ก็ไปทำกิจการเสริม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ที่พัก ร้านซักรีด อะไรก็เกิดขึ้นได้หมดในพื้นที่ งานเหล่านี้มันจะเยอะขึ้น เป็นการกระจายไปสู่คนในพื้นที่ ถ้าไม่เกิดมันก็อยู่แบบเดิม คนได้ประโยชน์ก็กลุ่มเดิม
สำหรับการลงทุนในพื้นที่ก็จะมี 3 ส่วน อันที่ 1 โดยการที่กลุ่มอุตสาหกรรมจะเข้าพื้นที่เข้าไปทำ อันที่ 2 คือ นิคมของภาคเอกชน ซึ่งจะเช่าพื้นที่ไปทำ อันที่ 3 คือ ลักษณะเป็นเหมือนซิตี้ ที่อยู่ในพื้นที่ใดก็ได้ที่มีศักยภาพ มันจะเกิดขึ้นทั้ง 3 อย่างในพื้นที่ทุกพื้นที่ พื้นที่ 2 อันแรกมันจะเกิด 6 แห่งในปีนี้ใกล้ชายแดน ติดเชื่อมโยงกันไปถึง เพราะเป็นช่องทางออก
ในส่วนของชายแดน มันก็จะมีทั้งนิคม ทั้งของเอกชนด้วย นี่ของการนิคมฯ และของเอกชน แต่ลึกเข้ามาส่วนใหญ่ก็จะเป็นของเอกชน รัฐก็จะร่วมลงทุนบ้าง จัดหาพื้นที่ให้ อะไรให้ มันจะได้เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเมืองยาง เมืองรถยนต์ เมืองอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ไม่ใช่อยู่ที่เดิมอย่างนี้ แล้วก็โตไม่ได้ เพราะว่าพื้นที่มันเต็มแล้ว นั่นล่ะคือสิ่งที่ต้องไปดูถึงเรื่องพลังงาน เรื่องการวางแผน การขนส่ง สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา ทุกอย่างมันต้องเตรียมทั้งระบบ ไม่ใช่นึกจะทำตรงนี้ก็ทำไป ปัญหามันก็ตามมาทีหลัง อาจจะทุจริตคอร์รัปชันเข้าไปอีก มันก็เละไปทั้งหมด โชคดีนะที่ยังอยู่ได้วันนี้ ผมไม่อยากจะพูดนะ
ในส่วนของการทำงานภาคเอกชนเขาพร้อมช่วยเหลืออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นรัฐจะต้องแก้ไขตัวเอง ทำให้ได้ดีก็แล้วกัน ข้าราชการต่างๆ วันนี้ดีขึ้นมาก ทุกคนให้ความร่วมมือกับผม เพราะรู้ว่าผมไม่ได้ต้องการประโยชน์
ในเรื่องของแรงงาน เราต้องเตรียมความพร้อม กระทรวงแรงงานต้องเตรียมการ กระทรวงศึกษาฯ ต้องมีเตรียมการระยะยาว กระทรวงแรงงานก็ต้องไปเอาคนที่มีความรู้ด้านวิชาชีพ ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างอ๊อก อะไรเหล่านี้ วิศวกรรถไฟ อุปกรณ์ ราง ต้องผลิตทั้งหมด ผลิต หรือไม่ก็ต่อยอด เพราะมันเริ่มแล้ว ปีหน้าต้องเริ่มแล้วกิจการเหล่านี้ แล้วมีคนหรือยังล่ะ ทั้งในเรื่องของการเตรียมความพร้อม เรื่องครู เรื่องวิจัย เรื่องอะไรที่เป็นในเชิงแข่งขัน อันนี้ก็มหาวิทยาลัยต้องเร่งผลิตออกมา ดูหลักสูตรซิ สอนคนให้เก่ง ไปสอบ ไปแข่งขัน แต่ทำงานไม่เป็น มันก็ไม่ได้นะ ต้องสอนวิธีเขาด้วย วันนี้ต้องสอนให้รู้วิธีทำงาน จบมาแล้วไม่รู้คุณค่าของการเรียนหนังสือ ทำไง รู้แต่ว่าสอบได้ปริญญา ได้เกียรตินิยม ภูมิใจ แล้วก็ทำงานไม่ได้ ไม่ได้ทำงาน นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมเป็นห่วง เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือด้วย
ในส่วนของการลงทุนในเขตเศรษฐกิจต่างๆ มันจะมีปัญหาเดียวที่เป็นปัญหาหลักขณะนี้ คือปัญหาเรื่องที่ดิน ที่ดินขณะนี้มีการเก็งกำไร โดยการซื้อจากประชาชนที่บุกรุก หรือไม่ก็ซื้อจากที่ๆ เราให้ จัดสรรไปแล้ว เป็นที่ ส.ป.ก.บ้าง อะไรบ้าง คือซื้อไปโดยที่ไม่มีหลักฐาน ขายมันขายไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็มีการซื้อไป แล้วชื่อก็เป็นเจ้าของเดิม แล้วส่วนนี้ก็จะมาขายให้การลงทุน ผมตรวจสอบทั้งหมดนะ ถ้าเป็นที่หลวงทั้งหมด ยึดคืนทั้งหมด ไม่มีสิทธิขาย ท่านจะไปซื้อใครมา ท่านผิดอยู่แล้ว ไม่งั้นท่านต้องถูกดำเนินคดี ถ้ารู้ตัวก็เอาคืนมาซะ
สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ก็คงเป็นข่าวอยู่แล้วนะ ผมไปเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของท่านประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ท่านอากีโน ที่ 3 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 ฟิลิปปินส์นั้นเป็นคู่ค้าสำคัญกับไทย เป็นลำดับ 6 ของอาเซียน และเป็นลำดับที่ 18 ของโลก กับไทยนะ มีมูลค่าการค้าราว 2.7 แสนล้านบาท ก็ขอเน้นย้ำให้นักลงทุนชาวไทยในฟิลิปปินส์ได้ทำการค้าการลงทุนให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งไทยและฟิลิปปินส์ นอกจากคำนึงถึงความคุ้มทุนแล้ว ก็ควรมีการคืนประโยชน์ให้กับสังคมฟิลิปปินส์ด้วย เช่นเดียวกัน ผมก็ขอร้องว่า นักลงทุนฟิลิปปินส์ในประเทศไทยก็คืนประโยชน์แก่สังคมประเทศไทยด้วย ก็เชิญชวนให้ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยน ขยายการลงทุนซึ่งกันและกัน โดยการร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย ไทย กับ ประเทศเพื่อนบ้าน ไทย+1 แล้วนำประสบการณ์ ความสำเร็จในการบริหารจัดการแรงงานของฟิลิปปินส์มาเป็นต้นแบบ โดยเฉพาะการจัดตั้งกองทุนที่จะช่วยเหลือคนหางาน และการปรับตัวเข้าสู่สภาพสังคมแรงงานในต่างประเทศ เพราะว่ามีคนของเราไปต่างประเทศก็เยอะนะในขณะนี้ มีคนจากต่างประเทศมาอยู่กับเราก็เยอะ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะ จะได้เป็นประโยชน์ในการที่จะนำแต่ละประเทศ หรือทุกประเทศในอาเซียน เข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ในปีนี้ และดำเนินการให้ต่อเนื่องต่อๆ ไป
ในเรื่องของการเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้งผมได้สั่งการให้ทุกกระทรวงได้นำไปสู่การปฏิบัติให้ได้อย่างรวดเร็ว ทุกการเจรจาจะต้องมีหัวข้อ การรายงาน และวิธีปฏิบัติไปด้วย ถ้ายอมรับกันได้ก็กลับมาหารือ ถ้าอะไรที่จะต้องเข้า ครม.ก็เข้า ถึงจะทำได้ ที่ผ่านมาก็มีความก้าวหน้าตามลำดับ ไม่ใช่ไปคุยกันแล้วก็กลับ ไม่ได้อะไรกลับมา ไม่ได้ มีแต่หัวข้อ ต้องไปลงรายละเอียดกับเขา กับท่านประธานาธิบดี ท่านนายกรัฐมนตรี ทุกท่านพร้อมรับฟังมาตลอดนะ จะได้มีสาระในการที่จะทำต่อ ไม่งั้นก็เป็นแค่การพบปะเยี่ยมเยียนเฉยๆ เสียเวลาเปล่า วันนี้ทุกประเทศต้องร่วมมือกันอย่างนี้อยู่แล้ว
เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือความมั่นคง ก็ขอความร่วมมือกับทางฟิลิปปินส์ซึ่งเขามีประสบการณ์เรื่องนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแยกดินแดนของเขา ของเราก็คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าบางอย่างก็เป็นประสบการณ์ที่เราสามารถจะเอามาประยุกต์ให้ใช้ได้ เราจะทำให้เกิดความเป็นรูปธรรม เรื่องภาคใต้ก็เหมือนกัน ขณะนี้มีความก้าวหน้าตามลำดับ ก็วันนี้ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการที่จะให้มีการเจรจา มีการพูดคุยสันติสุขกัน เราก็ต้องแสดงให้เห็นศักยภาพก่อน ว่าทำอย่างไร สามารถควบคุมความรุนแรงได้หรือไม่ ถ้ายัง คงไม่ได้ ผมคงรับรองให้ไม่ได้ เพราะเราเป็นรัฐบาล ต้องเข้าใจผมบ้าง ในเมื่อท่านทำสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง แล้วผมไปยอมรับในสิ่งที่มันถูกต้อง กระบวนการของท่านมันไม่ได้ ท่านทำให้เกิดผลก่อนเถอะครับ แล้วผมได้นำมาสู่การแก้ปัญหาทางกฎหมาย ทางกระบวนการยุติธรรม ผมรับว่าผมอยากทำให้ดีที่สุด ให้ความเป็นธรรมให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมายของไทยและกฎหมายระหว่างประเทศด้วย
สุดท้ายนี้ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมชมงานคลองผดุงกรุงเกษมอีกครั้งหนึ่งนะครับ ในห้วงเดือนกันยายนนี้ภายใต้แนวคิดตื่นตาสินค้าจีไอ ตื่นใจอัตลักษณ์ชุมชน โดยการนำเสนอจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี เป็นสินค้าที่บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นะครับ จีไอ เป็นเรื่องสำคัญวันนี้ โลกต้องมีที่มาที่ไป สินค้าทุกประเภทมีกฎหมายพันธะสัญญาเยอะแยะไปหมด ของเราก็แก้ไขไปเยอะพอสมควร ที่ผ่านมาก็ไม่สนใจ อีกหน่อยก็จะขายไม่ได้ วันนี้เราได้รวบรวมสินค้าเหล่านั้นจากย่านธุรกิจสร้างสรรค์ อาทิ ชาดอยแม่สลอง ตลาดผ้าบ้านนาคา เครื่องถมนครศรีธรรมราช เป็นต้น ที่ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ เช่น กาแฟดอยตุงมีชื่อเสียงมากนะครับ ดอยช้าง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ สมโอนครชัยศรี สับปะรดภูแล ไข่เค็มไชยา และหมูย่างเมืองตรัง เป็นต้นนะครับ และมีอีกหลายอย่างสำหรับงานนี้ ตื่นตาตื่นใจละกันกับสินค้าจีไอ อัตลักษณ์ชุมชน ซึ่งเป็นที่มา คือการตรวจสอบย้อนกลับ ก็เหมือนปลาสินค้าประมงมันต้องตรวจสอบได้มาจากไหนอย่างไร และคราวนี้จะเป็นการแบ่งเป็น 2 ระยะ นะครับครึ่งแรกของเดือนกันยายนเป็นสินค้าภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครึ่งหลังจะเป็นสินค้าภาคกลาง ภาคตะวันออก หรือภาคใต้เพราะมันเยอะมากนะครับ นอกนั้นจะมีกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ทางธุรกิจ มีการบรรยายจากวิทยากรชั้นนำให้คำปรึกษา และการสาธิต อีกทั้งกิจกรรมร่วมสนุกส่งภาพถ่ายประกวดชิงตั๋วเครื่องบินในเส้นทางที่เลือกได้ จัดโปรโมชั่นนาทีทอง สินค้าราคาพิเศษ ณ ร้านสวัสดิการอื่นๆด้วยนะครับ ขอเชิญพี่น้องประชาชนมาช่วยกันเลือกซื้อ สนับสนุนของดีราคาถูกจากทั่วประเทศของไทย เราบางครั้งไม่มีโอกาสจะไปซื้อถึงที่เขาอยู่แล้ว เพราะขนมาที่นี่ แต่ขอให้ราคามันพอสมควรนะครับ ใครมีเพื่อนต่างชาติ หรือสถานทูตต่างๆ ในประเทศไทยที่มาทำงานอยู่ทั้งหมด เชิญชวนนะครับให้มาช่วยกันท่องเที่ยว ตลอดเดือนกันยายนนี้ อันนี้เป็นตลาดต้นแบบ ผมพูดมาหลายครั้ง และจัดมาหลายอย่างแล้ว ถ้าเราทำแบบนี้ได้ให้มันใหญ่ขึ้นในตลาดกลางอะไรต่างๆ นี่คือแนวความคิดที่มันต้องเกิดขึ้นเลย ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และวันหน้าเขาจะทำเองได้ โดยที่ไม่ไปทำให้ราคามันตก หรือราคามันสูงเกินเหตุผ่านพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าคนกลางก็ต้องมี ไม่มีไม่ได้ มันเป็นธุรกิจการค้า เพียงแต่ว่าถ้ามันมีอะไรที่มันถ่วงดุลกันได้ ราคามันจะเหมาะสม
อีกอันหนึ่งก็คือ ในเรื่องของการดูแลสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เขาดูทั่วไปอยู่แล้วทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกชุมชน การท่องเที่ยวในเชิงนิเวศสำคัญ บ้านเรามีโอกาสเยอะ เพราะฉะนั้นอยากจะให้ประชาชนช่วยกันดูแลความปลอดภัย และรักษาความสะอาด ดูแลในเรื่องของทรัพยากรต่างๆ เหล่านั้นไม่ให้มันทรุดโทรม เที่ยวคนมากเกินไป ที่มันเล็กมันก็พังหมด ใช่ไหม หรือเที่ยวไปแล้ว คนเยอะๆ คนแน่นเกินไป โอเคสถานที่รับได้ แต่ประชาชนในพื้นที่รับไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่ได้ประโยชน์ ผมสั่งรัฐมนตรีไปแล้วให้ลงรายละเอียดทั้งหมดนะครับ
เรื่องสำคัญอีกอันอยากจะฝากว่า ในช่วงนี้ประเทศชาติกำลังมีปัญหากำลังมีภัย เห็นได้จากผมเข้ามา มันยังไม่หยุดหลายๆ เรื่องทั้งในประเทศ นอกประเทศบ้างอะไรบ้าง ที่มันมีความขัดแย้งกันทั่วไป เราต้องงดของเราให้มากที่สุด เพื่อจะระดมกำลังกันป้องกันภัยที่จะมาจากภายนอก ขณะเดียวกันในขณะนี้ก็มีบางคน บางพวก บางกลุ่มที่พยายามจะทำให้ประเทศไม่เข้มแข็ง เพื่อจะไปสู่อะไรก็แล้วแต่ของท่าน ประชาชนต้องปฏิเสธนะครับ คนเหล่านี้ไม่ได้หวังดีกับท่าน ผมไม่ได้อยากจะบอกว่า ผมดีอยู่กับเขา ไม่ใช่ แต่ดูการแสดงออก ดูการทำงาน ดูการพูด ดูการชี้แจงของผมแล้วกันว่า ท่านเคยฟังใครพูดอย่างผมได้หรือไม่ ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขในวันเสาร์-อาทิตย์ครับ สวัสดีครับ