xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” โอดโดนบีบให้ใช้ กม.พิเศษหวังฟ้องนานาชาติ ปรามอย่าป่วนประชุม UN

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ครวญโดนบีบบังคับให้ใช้กฎหมายพิเศษสกัดขัดแย้ง เชื่อมีคนจงใจเพื่อเอาไปฟ้ององค์กรระหว่างประเทศเพื่อกลับมาเล่นงานไทย ปัดปิดกั้นแค่รักษากติกา ปลุกคนไทยร่วมกำจัดเชื้อโรคร้ายก่อนชาติล้มเหลว ย้ำโรดแมป คสช.ยังอยู่เฟส 2 ถึง ก.ค.60 หรืออาจสั้นกว่านั้น แย้มต้องมี คปป.สานงานปฏิรูป กำลังออกแบบให้ไม่ซ้อนอำนาจรับบาลที่มาจากเลือกตั้ง พร้อมวางตัว สปท.เน้นหลากหลาย สปช.เก่าก็มา-ทหารก็มีแต่ไม่มาก ดักคอพวกจ้องป่วนที่งานประชุมยูเอ็น บอกไปในนามประเทศ วอนอย่าโยงเรื่องการเมือง


วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า ตนมีคำพูดจากใจ แล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะคิดยังไงก็แล้วแต่ อยากจะเรียนว่าให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา ขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ช่วยกันทำความสะอาดประเทศของเรา บ้านของเราให้ผ่านพ้นความเลวร้ายนานาประการ โดยเป็นการทำงานร่วมกับ คสช.และรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งนี้ในการใช้วิธีการที่ละมุนละม่อม ปราศจากความรุนแรงกำจัดกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติออกไปให้ได้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ และขอร้องว่า อย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน ทั้งในโซเชียลมีเดีย หรือตามสื่อสังคมต่างๆ ก็เริ่มมีการใช้ความรุนแรงต่อกันด้วยคำพูดด้วยวาจากันแล้ว ตนได้ย้ำหลายครั้งว่า ทุกคนเห็นต่างได้ เพียงแต่บางอย่างตนจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะให้มีข้อยุติอย่างไร เพราะเป็นคนต้องรักษากติกาตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะปิดกั้นแล้วให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนคิดทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ท่านก็ต้องรู้ว่าควรจะแสดงออกอย่างไร

“ก็ขอเถิดครับ อย่าให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายพิเศษอีกเลย ไม่งั้นก็ไม่มีวันสิ้นสุดเสียที หลายคนก็พยายามบังคับเหมือนกับตั้งใจให้เหตุการณ์เกิดขึ้นให้ผมต้องใช้อำนาจพิเศษ เพื่อที่จะเอาเหตุการณ์เหล่านั้นไปอ้างกับองค์กรอื่นๆ บ้าง แล้วให้กลับมาเล่นงานประเทศไทย หรือเล่นงานผมก็ตาม ขอร้องกันว่าให้ไปหยุดคนเหล่านี้ อย่าให้ทำอีกต่อไปเลย” นายกฯระบุ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยในขณะนี้เปรียบเสมือนเป็นช่วงเวลาสำคัญในการกำจัดเชื้อโรคร้าย พร้อมร่วมมือกันที่จะสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อสิ่งเลวร้ายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาไม่ให้เกิดขึ้นอีก สำหรับในระบอบประชาธิปไตยนั้น อำนาจที่ประชาชนมอบให้ผู้บริหารประเทศไปแล้วเป็นการมอบด้วยความเชื่อมั่นความไว้วางใจอย่างแท้จริง ไม่ได้หมายความว่า อำนาจที่มอบให้ไปผู้ที่บริหารประเทศนั้นไปใช้ทำอะไรก็ได้ ไม่ได้อีกแล้วต่อไป เพราะฉะนั้นหากผู้นำ หรือรัฐบาลใด ไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้งเข้ามา ที่เขามอบให้ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น ถ้าท่านไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมย่อมถือเป็นการทรยศต่อคำสัญญาที่มีต่อประชาชน ถือว่าท่านไม่มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ ที่จะทำให้กับประเทศชาติและประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ยกตัวอย่างประเทศที่ต้องตกอยู่ในภาวะประเทศล้มเหลว (Failed State) ด้วยว่า เป็นผลมาจากการกระทำของผู้นำและรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับที่ตั้ง สภาพแวดล้อม ประชากร หรือประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ ซึ่งเคยมีหนังสือของต่างประเทศเขียนถึงสาเหตุไว้ว่า 1. ผู้นำประเทศที่ไม่มีจริยธรรม มีแต่ความโลภ ทำตัวเป็นเจ้าของธุรกิจผูกขาด ใช้สิทธิพิเศษทางการเมืองมุ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจ 2. รัฐบาลที่อ่อนแอ บริหารประเทศไม่ได้ บังคับใช้กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ 3. เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม รัฐบาลใช้ระบบสองมาตรฐาน แบ่งแยกประชาชนออกเป็นสองฝ่าย ให้เกิดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน 4. รัฐบาลไม่ส่งเสริมการพัฒนาแบบยั่งยืน มีผู้นำขาดวิสัยทัศน์

“ผมขอยืนยันว่า คสช.และรัฐบาลนี้ มีอุดมการณ์และความมุ่งมั่น อย่างจริงใจที่จะทำทุกอย่างให้กับพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ โดยไม่มีใครมุ่งหวังประโยชน์ส่วนตนอย่างแน่นอน” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและ คสช.ยังคงมีหน้าที่ นำพาประเทศ ฝ่าฟันอุปสรรคต่อไประยะหนึ่ง ตามโรดแมปของเรา ซึ่งในระยะที่ 2 นับจากเดือน ก.ย. 58 - ก.ค. 60 หรือน้อยกว่านั้น ก็จะมีโครงสร้างในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหาร ด้านการปฏิรูป ด้านการปรองดอง ที่ผ่านมาได้ใช้กลไกพิเศษช่วยคลี่คลายปัญหาในการทำงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างทันต่อเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพ มีการใช้มาตรา 44 แล้ว 27 ครั้ง และทุกเรื่องเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ สามารถที่จะแก้ปัญหาหลายๆอย่างที่มีความขัดแย้งกันในเรื่องของกฎหมาย ความไม่พร้อม ความไม่ทันสมัยหลายเรื่อง นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการขับเคลื่อนและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ต่างๆช่วยงานรัฐบาลทั้ง 3 ด้านด้วยการผนวก 11 ประเด็นปฏิรูปของ คสช.เข้ากับข้อเสนอเดิมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 36 ประเด็นปฏิรูปกับอีก 7 ประเด็นพัฒนา สำหรับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะกรณีที่การขับเคลื่อนบริหารราชการ จำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ และกำลังจะมีการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มาทำหน้าที่ต่อจาก สปช.

“แล้วก็หาวิธีการว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป เพื่อจะทำให้สิ่งเหล่านั้นปฏิบัติได้โดยที่ไม่ไปทาบทับอำนาจในเชิงบริหารอย่างที่ทุกคนเกรงกลัวกัน เกรงกลัวว่าคณะกรรมการ (คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ : คปป.) ถ้ามีขึ้นมาแล้วก็จะไปทาบทับกับอำนาจของรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ผมยืนยันเจตนารมณ์ผม ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย มีแต่ว่าจะช่วยเขาอย่างไร ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันนะครับ ไว้วางใจซึ่งกันและกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

หัวหน้า คสช.ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการแต่งตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสมาชิก สปท.ด้วยว่า กำลังพิจารณาอยู่ ขอให้ไว้วางใจกัน แล้วการร่างหรือการพิจารณาอะไรก็ตาม ก็ไม่ได้ปิดลับ ให้รับรู้ไปตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด แต่หากขัดแย้งกันอีกก็เป็นไปไม่ได้อีกเหมือนเดิม ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมของ ครม. คสช. และ สนช. ก็ได้ให้แนวทางในการคัดเลือกบุคคลว่าจะต้องเป็นคนทีมีความรู้ความสามารถจากทุกภาคส่วน เป็นคนดี มีคุณธรรม ทำเพื่อชาติบ้านเมือง คนเหล่านี้มาจาก สปช.เดิมบ้าง นักกฎหมาย นักวิชาการ ฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการทั้งเกษียณ ไม่เกษียณ ภาคประชาสังคม การค้าการลงทุน ภาคประชาชน ทหารก็มีไม่มาก

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23 ก.ย. - 1 ต.ค. 58 ว่า ถือเป็นปีที่พิเศษ เพราะยูเอ็นมีวาระครบ 70 ปี ยูเอ็นมีหน้าที่ในการดูแลประชาคมโลกในหลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง การเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว พูดคุยกันได้บ้าง แต่ในวาระจะไม่พูดเรื่องนี้ จะพูดเรื่องความก้าวหน้าของแต่ละประเทศในการดูแลประชาชน ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมาว่ามีการพัฒนาอย่างไรบ้าง และในอีก 15 ปีต่อไปจะมีการทำงานและความร่วมมือกันในระหว่างประเทศในลักษณะใด เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกตามเป้าหมายของ UN ก็คือ การพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) ทั้ง 8 ด้าน ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงความคิดเห็นบ้างในหัวข้อต่างๆ และบอกถึงความสำเร็จของประเทศในด้านต่างๆ พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯไปกล่าวด้วย

“ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจ อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องประเทศชาติ จะทำลายผม จะอะไรก็แล้วแต่ จะต่อต้านผมยังไงก็ตาม แต่ผมไปในนามประเทศของท่าน อย่างไรก็ตามประเทศนี้ต้องเดินหน้า” นายกฯ กล่าว

คำต่อคำ : คืนความสุขให้คนในชาติ 18 กันยายน 2558

“สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก่อนการประชุม ครม.ผมได้มีโอกาสมอบรางวัลการศึกษาแก่เยาวชน ซึ่งเป็นผู้ชนะการประกวดวาดภาพในหัวข้อ “ประเทศไทยคือบ้านของเรา เราจะก้าวไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง” ที่คำภาษาอังกฤษก็คือ Our home, our country. Stronger Together. ภาพที่เด็กๆ วาดออกมาด้วยความตั้งอกตั้งใจนั้น แสดงให้เห็นถึงไม่เฉพาะฝีมือทางศิลปะเท่านั้น แต่แสดงถึงแนวคิดต่างๆ ของเขาเอง และเห็นถึงความหวัง ความฝันของเด็กๆ ที่เขาต้องการให้ประเทศไทยของเราได้รับการพัฒนา และไม่อยากเห็นความขัดแย้งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นมา อยากให้พวกเราทุกคนรักสามัคคีกัน ร่วมมือกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสุขที่ยั่งยืน ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล และขอขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ครูอาจารย์ที่สอน ที่ให้แนวคิดต่างๆ เหล่านั้นด้วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่จัดกิจกรรม และผู้ปกครอง ที่ให้การสนับสนุนเป็นที่ปรึกษาลูกหลาน ปลูกฝังความรู้สึกรู้รักสามัคคีให้กับเยาวชนของชาติผ่านงานศิลปะในครั้งนี้ด้วย

วันนี้ผมมีคำพูดจากใจผมเองนะครับ ซึ่งแล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ผมอยากจะเรียนให้ทราบว่า ให้ช่วยกันคิดกันทำ อย่างที่ผมคิดจะได้หรือไม่ เลยเป็นการทำงานร่วมกับ คสช. และรัฐบาล เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาสำคัญยิ่งนี้ คสช.และรัฐบาลอยากจะขอเชิญชวนคนไทยทุกคนได้ช่วยกันทำความสะอาดประเทศของเรา บ้านของเราให้ผ่านพ้นความเลวร้ายนานาประการ มีทั้งดีและไม่ดีนะครับ เพราะฉะนั้นมันมีความเลวร้ายเข้ามาอีกด้วย มันอาจจะเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ใช้วิธีการที่ละมุนละม่อม ปราศจากความรุนแรง ขจัดคนเหล่านี้ออกไปให้ได้ ภายใต้กฎหมายที่่มีอยู่ และกระบวนการยุติธรรมที่ต้องทำงาน ช่วยกันค้นหาความจริงในเรื่องต่างๆ ให้ได้ ที่คนเหล่านั้นทำไว้ แล้วอาจจะต้องมาเผยแพร่ ทำความเข้าใจ เพื่อจะสร้างความรู้สึกร่วมกันในการที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศชาติให้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ขอร้องว่าอย่าใช้ความรุนแรงต่อกันเลย ผมเห็นว่าในโซเชียลมีเดียบ้าง หรือตามสื่อ ตามสังคมต่างๆ ก็เริ่มมีการใช้ความรุนแรงต่อกันด้วยคำพูด ด้วยวาจากันแล้ว ผมก็ขอร้องว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นอีกเลย

ผมเรียนไปแล้วหลายครั้งว่า ทุกคนนั้นเห็นต่างได้ แม้กระทั่งผมเองก็ตาม ผมก็ยอมรับในความเห็นต่าง ที่เห็นว่าบางอย่างผมจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะให้มีข้อยุติอย่างไร เพราะผมเป็นคนต้องรักษากติกาตัวนี้ ถึงแม้ว่าจะขัดแย้งกัน แต่ท่านก็ต้องรู้ว่าท่านควรจะแสดงออกอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปปิดกั้นและให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคิดทุกอย่าง มันเป็นไปไม่ได้ เพราะวันนี้ที่ผมทำมาทั้งหมด ผมใช้สิ่งต่างๆที่หลายคนเสนอมา ถึงแม้จะเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง ผมก็มาประยุกต์มารวบรวมให้ได้ข้อเท็จจริงในการทำงานในการสั่งงานของผมมาโดยตลอด ขอเถอะครับ อย่าให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายพิเศษอีกเลย หรืออำนาจอื่นๆใดก็ตาม ไม่งั้นมันก็ไม่มีวันสิ้นสุดสักที หลายคนก็พยายามที่จะให้บังคับ เหมือนตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ให้ผมใช้อำนาจพิเศษ เพื่อที่จะเอาเหตุการณ์เหล่านั้นไปอ้างกับองค์กรอื่นๆบ้างอะไรบ้าง ให้กลับมาเล่นงานประเทศไทยและเล่นงานผมก็ตามเหล่านี้ ก็คิดว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่คงจะเข้าใจอยู่แล้ว ก็ขอร้องกันว่าให้หยุดคนเหล่านี้ซะ อย่าให้ทำอีกต่อไปเลย เพราะถ้าหากว่าพี่น้องประชาชนทุกคนนั้นมีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน ก็คือประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตรงกันแล้วมันก็ทำได้สำเร็จทุกอย่าง ไม่มุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตน ประเทศชาติก็จะเจริญรุ่งเรือง สะอาดเรียบร้อยปลอดภัย และเเข็งแกร่งไปด้วยกัน คำว่าประเทศเป็นบ้าน ทหารเป็นรั้ว วันนี้อาจจะไม่พอแล้ว อาจต้องใช้คำว่าประเทศเป็นบ้าน ประชาชนข้าราชการทุกหมู่เหล่าเป็นรั้ว สำหรับรั้วชั้นนอกก็ทหารดูแลเป็นหลัก อยู่รั้วชั้นในข้าราชการ ประชาชน ต้องช่วยกันดูแล การเฝ้าระวังมันจะเหมาะสมกว่าวันนี้ ร่วมกันสร้างความสุข ความปลอดภัย สร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนให้กับประเทศของเราให้ได้ การที่ประเทศไทยเกิดความขัดแย้งมีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันนั้น ก็อาจเกิดมาจากประโยชน์ผู้นำแต่ละฝ่าย ซึ่งมีความคิดความหวังความคาดการณ์ไว้แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากมันยุติไม่ได้ เรื่องเหล่านั้นมันจะนำความวิบัติมาสู่ประเทศมาสู่ประชาชน ดังนั้น ใครก็ตามใครก็ตามผู้ที่อยากมีอำนาจ หรือผู้ที่มีอำนาจ ถ้าได้มาแล้วก็จำเป็นต้องใช้ในทางที่ถูก ในการที่จะสร้างสรรค์ ขจัดปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน ไม่ใช่ใช้อำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองหรือพวกพ้อง หรือพยายามมุ่มมั่นที่จะรักษาอำนาจที่ได้มาแล้วนั้นในทางที่ผิด ที่ผ่านมานั้นผู้นำที่ไม่ดีอาจใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ทุกท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว เราจำเป็นให้ทุกอย่างเป็นไปตามขบวนการประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรมด้วย เพราะฉะนั้นผมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามคนที่ไม่ดีให้หมดสิ้นไปด้วยขบวนการยุติธรรม และคงไม่ใช่ว่าร่วมมืออย่างเดียว ต้องขอความร่วมใจด้วย มันถึงจะสำเร็จได้ในไม่ช้านี้ หลายคนแสดงความคิดเห็นแต่ไม่กล้าทำอย่างไรเหมือนกัน ก็ทำได้หมด ถ้าหากว่าเป็นการเฝ้าระวัง หากมีอะไรเกิดขึ้นหรือผิดปกติก็แจ้งมา มีหลักฐานต่าง ๆ เพิ่ม ก็แจ้งมาไม่ต้องเกรงใจ ผมก็พร้อมรับไปพิจารณาทั้งหมด แต่เรื่องมันเยอะจริง ๆ วันนี้ก็มีคนส่งมามากมาย ผมก็ทยอยตลอด แต่กระบวนการมันก็มีกระแสต่อต้านมามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่ามันไปเกี่ยวข้องกับคนเหล่านั้นด้วยหรือเปล่า

ประเทศของเรา หรือหลายๆ ประเทศทุกประเทศในโลกนี้จะประกอบไปด้วยพื้นที่ทรัพยากรและประชาชน ถ้าหากว่าประเทศใดนั้นมีพื้นที่ๆ อุดมสมบูรณ์ และมีการจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสม ประชาชนจะมีความเข้มแข็ง มีจิตใจเพื่อส่วนรวม และมุ่งหวังจะทำประโยชน์ เพื่อสังคมและประเทศชาติ ประเทศนั้นย่อมปลอดภัย ประชาชนย่อมมีความสุข

เพราะฉะนั้นประเทศไทยในขณะนี้นั้น เปรียบเสมือนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการที่กำจัดเชื้อโรคร้ายต่างๆ และพร้อมร่วมมือกันที่จะสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อสิ่งเลวร้ายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาไม่ให้เกิดขึ้นอีก ให้สมกับคำที่ว่าเราอยู่ในแผ่นดินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของเรามาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

สำหรับในระบอบประชาธิปไตยนั้น อำนาจที่ประชาชนมอบให้ผู้บริหารประเทศไปแล้วนั้น ผมคิดว่าเป็นการมอบด้วยความเชื่อมั่น ความบริสุทธิ์ใจ ความไว้วางใจอย่างแท้จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า อำนาจที่มอบให้ไปแล้วนั้น ผู้ที่บริหารประเทศนั้นจะใช้ไปทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะถูกจะผิดไม่ได้อีกแล้วต่อไป

เพราะฉะนั้นหากผู้นำรัฐบาลใด ไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้งเข้ามาที่เขามอบให้ด้วยความศรัทธา ความเชื่อมั่น และหวังที่จะเห็นประเทศชาติเจริญ ประชาชนอยู่ดีกินดี ทุกอย่างได้รับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาให้ดีขึ้น ถ้าท่านไม่ใช้ในทางที่เหมาะสมก็จะถือว่าเป็นการทรยศ ทรยศต่อคำสัญญาที่มีต่อประชาชน และท่านก็ไม่อาจจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย ถือว่าท่านไม่มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ที่จะทำให้กับประเทศชาติและประชาชน

ตัวอย่างของประเทศที่ตกอยู่ในภาวะประเทศล้มเหลว ที่เรียกว่า Failed State ก็มีให้เราเห็นหลายแห่ง ผมก็มาอ่านดู นำมาวิเคราะห์ว่าจริงหรือไม่ เขาเขียนไว้ว่าความล้มเหลวแห่งรัฐที่เกิดขึ้นจริงในประเทศต่างๆ ทั่วโลกล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของผู้นำและรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับที่ตั้ง สภาพแวดล้อม ประชากร หรือประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง ผู้นำประเทศที่ไม่มีจริยธรรม มีแต่ความโลภ ทำตัวเป็นเจ้าของธุรกิจผูกขาด ใช้อำนาจออกมาตรการกีดกันคู่แข่ง และใช้สิทธิพิเศษทางการเมือง เพื่อมุ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจ สอง รัฐบาลที่อ่อนแอ บริหารประเทศไม่ได้ ไม่สามารถออก หรือใช้ หรือบังคับใช้กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สังคมไร้กฎหมาย ไร้ระเบียบ ไร้กฎกติกา เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สาม ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม รัฐบาลใช้ระบบสองมาตรฐานแบ่งแยกประชาชนออกเป็น 2 ฝ่าย ให้เกิดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน สี่ รัฐบาลที่ไม่ส่งเสริมการพัฒนาแบบยั่งยืน มีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ปฏิเสธนวัตกรรมใหม่ๆ กีดกัน ไม่ให้ประชาชนได้รับการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อง่ายต่อการปกครอง อันนี้เป็นคำเขียนในหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง รู้สึกจะเป็นชาวต่างประเทศเขียนมา

ผมขอยืนยันว่า คสช.และรัฐบาลนี้มีอุดมการณ์และความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะทำทุกอย่างให้พี่น้องประชาชน โดยไม่มีใครมุ่งหวังประโยชน์ส่วนตนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ รัฐบาลและ คสช. ยังคงมีหน้าที่ในการที่จะนำพาประเทศฝ่าฟันอุปสรรคต่อไปอีกระยะหนึ่งตามโรดแมปของเรา ซึ่งระยะที่ 2 นับจากกันยายน 2558 - กรกฎาคม 2560 หรือน้อยกว่านั้น จะมีโครงสร้างในการบริหารราชการแผ่นดิน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหาร การปฏิรูป การปรองดองในระยะแรก โดยมีคสช.เน้นภารกิจความมั่นคงและรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก ดูแลพี่น้องอยากจนรายได้น้อย ให้การช่วยเหลือให้เกิดความเป็นธรรมโปร่งใสและเป็นเครื่องมือกลไกพิเศษที่จะคลี่คลายปัญหาในการทำงานของรัฐบาลให้ทันต่อเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของการใช้มาตร 44 นั้น เราใช้ไปแล้ว ทั้งหมด 21 ครั้ง ทุกเรื่องเป็นไปในทางสร้างสรรค์ เพราะว่าเรามีคณะกรรมการนอกจากกรรมการของ คสช. แล้ว เมื่อตัดสินใจจะใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ในการออกกฎหมายฉบับนั้น และรัฐบาลก็สามารถแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างที่มีแก้ปัญหาความขัดแย้ง แก้กฎหมายความไม่พร้อมความไม่ทันสมัยเหล่านั้น มาสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดขึ้นในสิ่งที่เป็นปัญหามายาวนานหลายเรื่อง นอกจากในเรื่องของการทำงานต่าง ๆ เหล่านี้ แล้ว เราก็ยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านต่าง ๆ อีกหลายคณะ มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพิ่มมาอีกในขณะนี้นะครับ ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไว้จะช่วยงานรัฐบาลทั้ง 3 ด้าน ด้วยการผนวก 11 ประเด็นปฏิรูปของคสช.เข้ากับข้อเสนอเดิม ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สปช. 36 ประเด็นปฏิรูปกับอีก 7 ประเด็นพัฒนา รวมทั้งนโยบายใหม่ ๆ ของรัฐบาล เป็นแนวทาง

สำหรับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช.นั้น ก็มีส่วนสำคัญเฉพาะกรณีการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน ที่จำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดชะงัก

สำหรับสภาขับเคลื่อนก็จะทำหน้าที่ต่อจาก สปช.ก็จะมาทบทวนมาจัดระเบียบ มาทำให้สอดคล้องเข้ากับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และหาวิธีการว่าจะทำยังไงกันต่อไป เพื่อที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นสามารถปฏิบัติได้โดยที่ไม่ไปพาดทับอำนาจในเชิงบริหาร อย่างที่ทุกคนเกรงกลัวกัน ว่าคณะกรรมการถ้ามันมีขึ้นมา แล้วจะไปพาดทับกับอำนาจรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ผมยืนยันเจตนาของผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย มีแต่ว่าจะช่วยเขาอย่างไร ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันไว้วางใจซึ่งกันและกัน ผมรู้ดีว่าปัญหาประเทศอยู่ที่ไหน ท่านก็รู้ดี แต่เราจะหาหนทางกันอย่างไร ที่ทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ถ้ายังทะเลาะกันอยู่แบบนี้ มันก็ไปไม่ได้อยู่เหมือนเดิม ประชาชนเป็นผู้เดือดร้อน ไม่ว่าใครจะชนะ ใครจะแพ้ก็ตาม ประชาชนเป็นผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น วันนี้ผมกังวลกับประชาชนมากที่สุด

ในเรื่องของการจัดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศนั้น ผมกำลังพิจารณาอยู่ ก็ขอให้ไว้วางใจกัน หรือการพิจารณาอะไรก็ตาม ก็ไม่ได้ปิดรับอะไร ก็จะให้รับรู้ไปตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการทั้งหมด ฉะนั้นถ้าหากขัดแย้งกันอีกก็เป็นไปไม่ได้อีกเหมือนเดิม ผมเกริ่นไว้ก่อน อย่ามาลงว่าผมต้องเป็นคนชี้ว่าต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ผมเพียงแต่ว่า แสดงความคิดเห็นเหมือนกัน เหมือนกับท่าน เพราะท่านก็แสดงความคิดเห็นกันทุกคนนั่นล่ะ ทุกภาค ทุกการเมือง ทุกอะไร แสดงออกมาตลอดนะ เพราะฉะนั้นผมก็ถือว่า ในเมื่อบอกแล้วผมจะต้องให้ความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม ผมก็จะเสนอของผมบ้าง ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะพิจารณากันเองก็แล้วกันว่าควรจะเป็นยังไง

สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นผมได้จัดมีการประชุม ครม.-คสช.-สนช.ร่วมกัน ก็ได้ให้แนวทางในการคัดเลือกบุคคลว่าเราจะต้องได้คนที่มีความรู้ความสามารถจากทุกภาคส่วน เป็นคนดี มีคุณธรรม เป็นคนที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง มีความรู้ความสามารถ คน ยังไงก็เป็นคน มนุษย์ มันก็ไม่ได้มีอะไรที่ 100 เปอร์เซ็นต์นะ เพียงแต่ว่าเขามีจิตปรารถนาอย่างไร แต่ข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาด ต้องยอมรับว่าทุกคนมีความผิดพลาดทั้งสิ้น วันนี้เราก็เอาความผิดพลาดทั้งหมดมาดูว่าเราจะแก้กันยังไง ทั้งแก้ที่ตัวเอง แก้ที่สังคม แก้ที่ประชาชน แก้ที่การเกิดความไว้เนื้่อเชื่อใจ เขาเรียกว่าไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ต้องลดตรงนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่มาจากไหน ก็มาจาก สนช.เดิมบ้าง นักกฎหมาย นักวิชาการ ฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการ ทั้งเกษียณ-ไม่เกษียณ ภาคประชาสังคม การค้า การลงทุน ภาคประชาชน มีหมดนะ แล้วท่านบอกว่าเราร่างมาอีก ข้าราชการเยอะ ก็กลายเป็นร่างโดยข้าราชการอีก แล้วมันจะปฏิรูปได้ยังไง ก็ผมก็ให้มีส่วนแต่ละส่วนเข้าไปผสมด้วย แล้วการร่างครั้งที่แล้ว หรือว่าการทำแผนปฏิรูปครั้งที่แล้ว ก็มีทุกภาคส่วน เยอะด้วย ทหารก็มี ไม่มากนัก ก็เก็บเอาไว้แล้วไง ถ้ายังไม่พอก็ใส่เข้ามาอีก แต่ถ้าเราเอาทั้งหมดใส่เข้าไป ที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไม่รู้เรื่องระเบียบราชการ มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ มันก็จะเถียงกันอยู่นั่นล่ะ รู้โจทย์ รู้ปัญหา รู้ว่าสุดท้ายต้องการอะไร แต่ไม่รู้วิธีการ นั่นล่ะคือสิ่งที่มันมีความจำเป็นต้องเอาข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากเอาไปเกี่ยวนะ แต่มันก็จำเป็น ไม่งั้นท่านก็ปรับ ปฏิรูปซะจนเละไปหมด ท่านไม่รู้ว่าเขาทำงานยังไงด้วยซ้ำที่ผ่านมา เพราะมันทับๆ กันไปหมด เสร็จแล้วท้ายสุด วันนี้ข้อบกพร่องความผิดพลาดเกิดขึ้น โยนกลับมาที่เขาหมดข้าราชการหมดเลย มันไม่ได้ ฝ่ายการเมืองก็โทษกลับมาข้าราชการอีก เห็นใจเขาบ้าง ไม่มีใครอยากทำเลวอยู่แล้วถ้าไม่มีใครนำพาแบบนั้น

สัปดาห์นี้ผมได้เรียกคณะรัฐมนตรีเฉพาะกิจเข้ามาประชุม ตั้งขึ้นมาอีกแล้ว เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน เช่น ดูแลความยากจน แก้ปัญหาเร่งด่วนในเรื่องของเศรษฐกิจในช่วงนี้ และในเรื่องของการแก้ไขปัญหาภัยแล้งซึ่งคาดว่าจะร้ายแรงขึ้นมากกว่าปีนี้อีก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม่กลอง พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังไปแล้วบ้างนั้น คงต้องได้รับผลกระทบแน่นอน กรณีขาดการสนับสนุนน้ำจากระบบชลประทานได้ วันนี้ขอร้องกัน แต่ขอร้องไม่เคยได้ ทุกคนไม่รู้จะทำอะไรก็ต้องปลูกไป แล้วพอเสียหายมาก็เดือดร้อนไปหมด และรัฐบาลพยายามที่จะแนะนำ พยายามที่จะบอกให้ไปเปลี่ยนโน้นเปลี่ยนนี่ บางคนสนใจก็ได้ไป บางคนไม่ค่อยสนใจก็เสียหายอีกเหมือนเดิม

เพราะฉะนั้นผมขอแจ้งเตือนพี่น้องเกษตรกร วันนี้ให้ไปฟังเจ้าหน้าที่รัฐเขาด้วย พยายามทุกอย่างเงินทองให้ไปแล้ว ไม่ได้ให้ไปใช้หนี้ ให้ใช้เพื่อเตรียมการรองรับเรื่องฝนแล้ง รองรับเรื่องอาชีพ หรือไม่ก็ร่วมมือกันจ้างงาน สร้างถนนหนทางอะไรบ้าง ขุดลอกแหล่งน้ำ ทำฝายอะไรต่างๆ นี่ให้ไปแบบนี้ เรียกว่าให้เบ็ดไปตกปลา แต่ส่วนที่ให้ขาดไป เช่น เงินช่วยเหลือ เงินอะไรต่างๆ เหล่านี้ เพื่อประทังชีพนั้น อันนั้นเป็นเรื่องของให้ปลาไปนิดหน่อยชั่วคราว ให้ปลาทั้งหมดมันไม่มีปลาให้พอหรอกครับ เพราะบ้านนี้เมืองนี้ประเทศนี้มีคนตั้งหลากหลาย ที่มีหลายอาชีพทั้งสิ้น นอกจากเกษตรกรแล้วอย่าลืมก็มีรับจ้าง อาชีพแม่บ้าน ทำงานบ้านเยอะแยะไปหมด ถ้าเราให้เกษตรกรอย่างเดียว แล้วคนอื่นเขาเอาที่ไหนล่ะ มันต้องแบ่งปันเฉลี่ยไปตามความลำบาก แต่เอาทั้งหมดมันไม่ได้ เพราะรัฐบาลมีรายได้แต่เพียงเท่านี้ ไม่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจก็ลดลง โครงสร้างเศรษฐกิจเรายังเข้มแข็งไม่เพียงพอ ถ้าอีกสัก 2-3 ปีข้างหน้า ผมคิดว่ามันดีขึ้นแน่นอนจากการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานบ้าง การลงทุนของบีโอไอบ้าง และในการลงทุนมันมีการแย่งการลงทุนการทั่วโลก มีการเปลี่ยนพื้นที่การลงทุนไปประเทศโน้นประเทศนี้ ย้ายฐานการผลิตไป เราต้องสู้เขา โดยการเพิ่มสิทธิประโยชน์บ้าง ใช้มาตรการทางภาษี แต่วันนี้มันอาจจะเป็นอย่างนี้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ภายในระยะเวลาที่เราเว้นภาษีไว้ ต่อไปมันก็ได้ภาษีมากขึ้น เพราะกิจการมันมากขึ้น และผมเรียนว่า ผมไม่ได้ให้เฉพาะลงทุนใหม่ด้วย ต้องหาเงินไปส่งเสริมธุรกิจคนไทย ธุรกิจในท้องที่ในพื้นที่ด้วย ให้เขาเข้มแข็งขึ้น ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เขาดีขึ้น และส่งเสริมของใหม่เข้าไป เสริมด้วยการลงทุนต่างประเทศ สร้างชุมชนชนบทขึ้นมา มีทั้งส่วนของคลัสเตอร์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

คำว่าคลัสเตอร์คือว่า กิจการหลายๆ กิจการ ถ้าเป็นเรื่องทั่วๆ ไป เขาเรียกว่า เขาได้รับสิทธิประโยชน์อันหนึ่ง ถ้าบีโอไอเปล่าๆ ก็บีโอไอเปล่าๆ ต่อมาถ้ามันเป็นในคลัสเตอร์ หรือในพื้นที่ที่เขากำหนดจะเร่งรัดการพัฒนาก็ได้ บีโอไอ+เอ็กซ์เข้าไป สมมุตินะ ต่อไปถ้าสมมุติว่า เป็นกิจการหรือเป็นคลัสเตอร์ที่เป็นเรื่องใหม่ที่เราต้องการเทคโนโลยีสูง เรื่องการศึกษา เรื่องการวิจัยเหล่านี้เราต้องหาแรงจูงใจมากขึ้น คืออาจจะเป็นบีโอไอ+2เอ็กซ์ ก็คิดของผมแบบนี้ อย่าลืมว่าถ้าเราไม่ทำแบบนี้อะไรมันก็ไม่ได้ทั้งสิ้น ภาษีมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว วันหน้ามันก็ไม่เกิดขึ้นอีก คิดแบบผมคิด ผมไม่ได้เป็นคนเก่งเรื่องเศรษฐกิจหรอก แต่ผมก็ประเมินเอา คิดเอา อ่านเอา และปรึกษาผู้รู้เขามา ถ้าทำได้ก็ทำได้ ก็ต้องเชื่อมันกัน ถ้าไม่คิดแบบนี้ ไม่ทำแบบนี้ แล้วปล่อยแบบเดิมมันเกิดอะไรขึ้น มีอะไรที่ผ่านมาไม่ได้แก้ไขมาเป็นกี่ปีแล้วก็ไม่รู้ ก็แก้ไปแล้วยังสู้เขาไม่ได้ เขายังไม่มีเลย แล้วก็จะปล่อยให้ไม่มาอย่างนั้นหรือไง ก็ต้องอะไรที่มันมาตรฐานสูงๆไว้มันก็ไม่ได้ แต่เราต้องควบคุมให้ได้ว่า เขาต้องอยู่ในกรอบที่เรากำหนด ฉะนั้นก็ฝากพ่อแม่พี่น้องให้ช่วยกันดูด้วย ไม่ว่าจะเรื่องของผังเมือง เรื่องการลงทุนในพื้นที่ ถ้าไม่ทำมันก็ไม่เกิด รายได้ที่มันจะเกิดจากธุรกิจต่อเนื่องมันก็ไม่มีทั้งสิ้น มันก็ลำบากยากแค้น ปลูกข้าว แล้วก็เป็นหนี้เป็นสินอยู่เหมือนเดิม นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นห่วงนะ ถ้ามันดีขึ้นจริงมันก็มีงานมากขึ้น คนที่ถูกออกนอกพื้นที่ต้องไปสร้างหนี้เพิ่มเติม รัฐก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เป็นผู้ที่มีสิทธิ์มีเสียงก่อนในการที่จะทำกิจการอะไรก็แล้วแต่ในพื้นที่เหล่านั้น ได้รายได้ก่อนคนอื่นเขา จะทำยังไง ก็ต้องไปคิดทุกมิติมา ให้ความเป็นธรรม แต่ผมไม่ชอบตรงที่มีนายทุนหรือมีใครเกี่ยวข้องในเรื่องของการเตรียมการล่วงหน้า ซื้อที่ดินไว้ดักหน้าบ้าง ไปขึ้นราคาสูงบ้าง มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมก็ไม่เขาใจเหมือนกัน ว่าทำไมคนคิดแต่ประโยชน์กันทั้งนั้นเลย ถ้าคิดแต่ประโยชน์ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ เพราะมันต้องมีคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ไอ้คนเห็นด้วยหรือคนเสียประโยชน์ก็ต้องต่อต้านแน่นอน ซึ่งเกิดอะไรไม่ได้ วันนี้หลายบอกว่าให้ผมใช้มาตรา 44 ทำ ผมก็ไม่อยากใช้ตรงนี้นะ คิดเอาแล้วกันว่าท่านจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้นได้ ถ้ามันเกิดขึ้น เราเกิดสังคมเมืองในทุกภูมิภาค คนก็ไม่เข้ามาในเมืองใหญ่ ศูนย์การศึกษาต่างๆก็ให้ไปลงทุน หรือไปเปิดใหม่ในพื้นที่ในแต่ละภูมิภาค คนก็ไม่ต้องเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก็เรียนในภูมิภาคของตนเอง ไอ้มหาวิทยาลัยเหล่านั้น ก็ผลิตคนให้ตรงความต้องการของพื้นที่ของเขา ภาคเหรือ กลาง ใต้ ตะวันออก มันควรจะมีการประกอบการอะไรตรงนั้นก็ใช้จากที่นั่น แรงงานก็ใช้จากที่นั่น แงงานก็ใช้จากชายแดนบ้าง ใช้ในประเทศบ้าง ดูแลพ่อแม่พี่น้อง เมืองเขาก็เจริญขึ้น มันจะได้ไม่ถ่วงซึ่งกันและกัน วันนี้ภาษีก็เก็บได้ไม่เท่ากัน ท้องถิ่นก็ไม่มีเงิน เพราะรายได้มันไม่มี แต่ถ้าทำทุกอย่างเเข็งแรงขึ้น เป็นภูมิภาค ก็จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำเป็นก้อน ต่างคนต่างจะได้ไม่ต้องจะเจือนั่นเจือนี่ มันก็เหลือเฉพาะเอามาทำเรื่องการพัฒนาในภาพรวม ในพื้นที่ก็มีความสุข ถ้าไม่คิดแบบนี้ไปไม่ได้แน่นอน แล้วก็อ้างว่าประชาธิปไตยต้องอย่างนี้อย่างนั้น ประชาชนเป็นใหญ่อะไรต่างๆ มันไม่ใช่ทั้งหมดนะ ประเทศอื่นเขาเลิกคิดแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว เขาถึงเจริญถึงวันนี้ไง เรื่องการตลาด การส่งออก การทำอะไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเป็นการส่งเสริมปลูกพืชทดแทนอะไรต่างๆ เหล่านี้ มันก็ต้องดูในเรื่องของดีมานด์-ซัพพลายด้วยนะ เดี๋ยวไปปลูกถั่วเขียว ถั่วเหลือง ปลูกพริก ปลูกอะไร ปรากฏว่าขณะนี้อะไรรายได้ดี ดีกว่าทำนา แต่ถ้าปลูกมากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วทำยังไง ไม่มีตลาดอีก ราคาตกอีก ก็กลับมาเล่นงานรัฐบาลอีก หาว่าไปส่งเสริมในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่เป็นรายละเอียดซึ่งข้าราชการ ผู้ลงไปปฏิบัติในพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้าในส่วนของการบูรณาการในระดับจังหวัด หรือกลุ่มจังหวัด ต้องทำให้ผม

สัปดาห์ที่แล้ว ที่ผ่านมา ผมได้เป็นประธานงานคิกออฟปฏิบัติการในเรื่องของมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ ก็ใช้เงินไปมากพอสมควร ที่ศูนยการแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี มีผู้เข้าร่วมงานเป็นคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ประมาณ 8,000 คน สำหรับกองทุนหมู่บ้านฯ 1 ล้านบาท และกองทุนตำบล 5 ล้านบาท และมีเม็ดเงินจากการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลอีก 1 ล้านบาท รวมใช้งบประมาณไปอีกทั้งสิ้นกว่า 1 แสนล้านบาท นี่คือเพิ่มเติมจากระยะที่ผ่านมาแล้วด้วย จะเห็นว่าเราใช้งบประมาณไปอย่างนี้ แล้วมันยังไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย เพราะมันยังไม่เกิดสิ่งที่ยั่งยืนตามมา เพราะมันกำลังเริ่มอยู่ แต่ถ้าเราเอาก้อนนี้ไปใช้อีก หมดไปอีก จัดการน้ำท่วมบ้าง ฝนแล้งบ้าง อะไรบ้าง มันก็จะเป็นไปอยู่แบบนี้ เพราะฉะนั้นวิธีการของเราคือทำยังไงให้เขามีชีวิตอยู่ได้ ประคับประคองตัวเองได้อยู่ ขณะเดียวกัน รัฐก็ต้องลงทุน เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจต่างๆ เรื่องเศรษฐกิจพิเศษ เรื่องอะไร เพื่อจะได้รองรับว่าต่อไปนี้พวกนี้ไม่ได้พึ่งอาชีพรายได้การเกษตรอย่างเดียวนะ อย่างน้อยก็มีตลาด มีโรงงาน มีกิจการที่เขาสามารถที่จะไปหารายได้เพิ่มเติมขึ้นไปอีก ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้หรอก วันหน้าลูกหลานของเขาเดือดร้อน จะเอาเงินที่ไหนส่งลูกไปเรียนหนังสือ ทำนา ทำไร่ ปีหนึ่งก็ไม่มีกำไร มีแต่เป็นหนี้เขาไปเรื่อยๆ แล้วก็ชำระเขาไม่ได้อีก มันก็มีแต่ความทุกข์ตลอดไป วันนี้ถ้าจะหลุดพ้นจากกับดักตัวเองตรงนี้ ต้องฟังที่ผมพูด แล้วก็ช่วยรัฐบาลในการที่จะแก้ปัญหาระยะยาวให้ได้กับท่าน อย่าแก้ปัญหาแต่วันนี้ พรุ่งนี้ พอแล้ว ฝนนี้จบ ฝนหน้าเอาใหม่ มันเป็นอย่างนี้มาตลอด วันนี้ต้องไปคลี่ทุกอันนะ กฎหมายก็ต้องแก้ พ.ร.บ.ก็ต้องทำ อะไรจะเป็นธรรม อะไรจะเข้มแข็ง อะไรจะเพิ่มขีดความสามารถ แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานความมีเสถียรภาพ ความสงบสุขของบ้านเมือง ประชาชนไม่หยุดทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งใครเป็นรัฐบาลต้องทำให้ได้ ไม่งั้นประเทศชาติมันไปไม่ได้ ที่ผ่านมาท่านก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรกันขึ้นมาบ้าง วันนี้เราต้องสร้างความแข็งแกร่งให้ได้ สร้างฐานรากของประเทศให้ได้ ผมเคยบอกแล้วประเทศไทยเรามันไม่ได้ล้มหมด มันกำลังจะแฉลบเฉย ๆ เราก็มาเติมฐานรากให้เขา เติม อิฐ หิน ปูน ทราย โดยการสร้างให้ประชาชนระดับพ่อค้าให้แข็งแรง ทั้งร่างกายจิตใจมีจิตสำนึกอุดมการณ์ เหล่านี้ก็เป็นไปตามยุทธศาสตร์พระราชทานของพระเจ้าอยู่หัวนะครับ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ซึ่งท่านทรงรับสั่งมานานมาก เราก็ต้องนำมาใช้ ซึ่งสิ่งใดก็ตามที่เราทำวันนี้นั้น หลักเกณฑ์หรือเป็นหลักการณ์ของประชาคมใดในโลกก็พูดตรงกันทุกประเทศ ว่ารัฐบาลใดก็ตามเมื่อเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินก็ต้องยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง คือจะต้องทำไรให้มันถูกต้อง ตรงความต้องการ แล้วในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนต้องทำให้มากที่สุด อันนี้ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายอำนาจอยู่แล้ว การมีส่วนร่วมของประชาชนมันมีหลายอย่างด้วยกัน ถ้าตามหลักการณ์ดำเนิน มันก็มีหลายขั้นตอนด้วยกัน เช่น ประชาพิจารณ์ EIA HEIA อะไรก็แล้วแต่ คือทำอยู่แล้ว ซึ่งในระยะต่อไปผมจะเพิ่มการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนด้วย แต่ไม่ใช่ไปฟังมาและก็ขัดแย้งกับรัฐ อย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ มันไปไม่ได้ทั้งสิ้น หลายคนหลายสื่อก็พยายามทำ ผมรู้หวังดีแต่วิธีการมันทำให้สิ่งที่กำลังสับสนยิ่งผิดเพี้ยนไปมากกว่าเดิม ซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาได้เลย ซึ่งสิ่งที่ท่านต้องการมันก็เกิดไม่ได้ มันขัดแย้งตั้งแต่ต้นแล้ว ต้องเห็นใจข้าราชการเพราะต้องยึดถือกฎระเบียบกฎหมายของเขาด้วย วันนี้เขาพร้อมจะรับฟัง ผมให้ทุกคนฟังประชาชนเป็นหลัก แต่ประชาชนต้องฟังข้าราชการฟังผมบ้าง ถ้าต่างคนต่างไม่ฟังเอาแต่ใจมันไม่มีอะไรดีได้ ก็กลับมาที่เดิม ก็เป็นประชาธิปไตยที่มันเอนจะล้มไม่ล้มแหล่อยู่เหมือนเดิมนะ เพราะฉะนั้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ที่นำที่ดินทำกินไปเป็นหลักค้ำประกันในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน วันนี้ก็กู้กันเต็มเม็ดเต็มหน่วยไปแล้ว กู้เพิ่มไม่ได้ ก็จะถูกยึดอีกแล้ว ก็เลยต้องไปกู้เงินจากนายทุนนอกระบบเข้ามา ก็อาจจะถูกเอารัดเอาเปรียบ กู้เท่านี้ บวกดอกเบี้ยเท่านี้ กลายเป็นไม่รู้กี่เท่าๆ ของเงินจริงๆ มันเสียหายนะ เอาเปรียบกัน อันนี้ก็ต้องโทษคนด้วยนะ ชาวนาเขาเป็นคนซื่อ เกษตรกรเป็นคนซื่อ เขาไม่ค่อยโกงใครหรอก โกงไม่เป็น คนรวยนี่ล่ะมักจะโกงคนจนซะมาก คนจนก็จะจนไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะต้องเป็นหนี้มากๆ ขึ้น ต่อไปเขาก็ต้องถูกยึดที่ดินทำกินหมด ผมก็เลยสั่งการไปว่า ไปสำรวจข้อมูลมาซิว่าหนี้สินเกษตรกรมีเกษตรกรนำที่ดินไปค้ำประกันการกู้เงินไว้กับภาคเอกชนหรือนายทุน ทั้งหมดเท่าไร ที่เรียกว่าทำเป็นสัญญาขายฝาก เรียกว่าหนี้นอกระบบ รัฐกำลังพยายามจะให้ความช่วยเหลือ มาตรการหลักๆ ที่วางเอาไว้ ขั้นต้นขณะนี้ก็เป็น 2 กลุ่ม อันที่ 1 คือกลุ่มที่มีคำพิพากษาให้บังคับคดีแล้ว จำนวน 2,292 ราย มูลหนี้กว่า 2 พันล้านบาท ก็ต้องช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เพราะอาจจะถูกยึดที่ดินทำกิน หรือถูกนำไปขายทอดตลาดได้ โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานงานกับกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ในการส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. เพื่อจะโอนหนี้ดังกล่าวเข้าสู่สถาบันการเงิน เพื่อจะเข้าสู่กระบวนการชำระหนี้ที่เหมาะสมและเป็นระบบต่อไป ไม่ใช่ไม่ใช้หนี้ แต่หมายความว่า ก็ต้องประนอมหนี้บ้าง อะไรบ้าง ถ้าเป็นนอกระบบก็ต้องเลิก คนที่เรียกหนี้เยอะๆ ถ้ามันคุ้มค่าแล้วต่อไปก็ไม่ต้องเรียกแล้ว ก็ต้องใช้หนี้กัน เพียงแต่ว่าทำยังไงจะไม่มีหนี้อีกต่อไป ทุกครั้งพอแก้ปัญหาไปแล้วก็กลับมาอีกเหมือนเดิม เพราะว่าไม่ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับเขาไง เขาก็มีรายได้เท่าเดิม เขาก็เลยเป็นหนี้ เพราะรายได้เขามีเท่านี้ รายได้วันนี้แย่กว่าเดิม เพราะฉะนั้นเป็นหนี้ มันต้องมากกว่าเดิม คิดแบบนี้ แล้วจะทำยังไงก็ต้องไปหารายได้เสริมให้เขา รายได้เสริมก็ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปแจก ก็ต้องไปสร้างความเข้มแข็ง ทำอาชีพโน้นอาชีพนี้เสริมมา เกิดธุรกิจชุมชนในพื้นที่ Social Business ขึ้นมา ไปเชื่อมต่อกับเอสเอ็มอี แล้วไปเกิดโครงข่ายในเรื่องของการค้าขายในภูมิภาค เกิดขึ้นมา มีตลาดกลาง ตลาดชุมชน เอสเอ็มอี ตลาดชายแดน ให้มันเชื่อมโยงกันแบบนี้ ลดปัญหาในเรื่องพ่อค้าคนกลาง เขาก็จะมีเงินเหลือมากขึ้น เมื่อมีเงินเหลือมากขึ้นมันก็ไม่เป็นหนี้ใช่ไหม และค่อยเดินหน้าต่อไป เพราะฉะนั้นวันนี้ผมคิดว่า พี่น้องเกษตรกรทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งไว้แล้วว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือเราต้องอยู่ด้วยความมีเหตุมีผลในการใช้เงิน มีพอประมาณมีเท่าไรใช้เท่านั้น ของเก่าไม่ว่ากัน เดี๋ยวค่อยแก้กันไป แต่วันนี้ต้องเดินอย่างนี้ และท่านต้องสร้างภูมิคุ้มกันของท่านให้ดีว่า ท่านจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ลูกหลานซื้อของแพงๆ อะไรแพงๆ ก็ต้องสงสารพ่อแม่บ้าง ถ้าเราปลดหนี้ไม่ได้ เขาก็ไม่มีรายได้เพิ่ม มันกลับมาที่เดิมเหมือนเดิม วงจรแบบนี้จนตายชั่วชีวิต ปู่ย่าตายายจนแบบเดียวกันมาตลอด ต้องพัฒนานะครับ เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อคนที่มาติติงโน้น ติติงนี่ แสดงว่าเขาไม่อยากให้ท่านเป็นแบบที่ผมคิด แต่ผมคิดว่าท่านต้องดีขึ้น อดทนสักนิดหนึ่ง

สำหรับกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ยังไม่อยู่ในชั้นบังคับคดีจำนวนประมาณ 46,747 ราย มูลหนี้กว่า 6,400 ล้านบาท อันนี้น้อยลงกว่าอันแรก แต่รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือนะครับ วันนี้กำลังให้คณะกรรมการคัดกรองข้อมูล และไกล่เกลี่ยระดับอำเภอส่งเรื่องให้ ธ.ก.ส. และคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ยากจน ส่วนอำเภอที่เรียกว่า อชก.อำเภอ สำหรับเข้าไปดำเนินการไกล่เกลี่ย และปลดเปลื้องหนี้สิน ก็ต้องเห็นอกเห็นใจกันนะครับ โดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบ

ทั้งนี้สรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมานั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรได้สำเร็จแล้วเกือบ 3,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 2,300 ล้านบาท เห็นไหมครับ ก็ทำทุกอย่างมาคู่ขนานกันมาตลอด เพียงแต่ว่าบางคนไม่สนใจ เพราะตัวเองไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยวเรื่องนี้ไม่สนใจ แต่ท่านต้องมองภาพรวมว่า รัฐบาลเข้ามาทำอะไรให้ท่าน คำว่าท่านคือ ท่านๆ ทั้งหมด ไม่ใช่ท่านนี้ท่านโน้น ไม่ใช่ท่านเกษตรกร นี่ทุกท่านเลย ต้องดูหมด พื้นฐานต้นทุนเราก็มีแค่นี้ เหมือนต้นทุนน้ำน้อย ทุกคนจะเอาน้ำไปปลูกพืช มันต้นทุนมันมีแค่นี้ รัฐบาลมีต้นทุนการเงินมีเท่านี้ ปัญหาภาระเก่าก็เยอะแยะ ก็ต้องสร้างหาเงินให้ได้มากขึ้น มันแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ใช้ระยะเวลาที่ผมอยู่นี่ทำให้ได้มากที่สุดแล้วกันนะครับ

เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตาม หากยังมีเกษตรกรรายใดที่ตกหล่นไปจากการสำรวจ มีความเดือดร้อน และประสงค์ได้รับความช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มเติมที่ผมกล่าวมาแล้ว ให้มาติดต่อได้ที่ว่าการอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุกอำเภอนะครับ เจ้าหน้าที่ข้าราชการก็อย่าหงุดหงิดกับเขา คนเป็นหนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี เจ้าหนี้จะอารมณ์ดี จะอารมณ์ไม่ดีตอนเขาไม่ใช้หนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นทุกคน ตอนนี้ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน ช่วยประชาชน เหมือนที่ผมคิด ถ้าผมคิด ผมสั่ง รัฐมนตรีทำ รองนายกฯ ขับเคลื่อน แล้วประชาชนไม่ร่วมมือ มันไม่มีทางไปได้ นักการเมืองที่จะต้องเข้ามาเป็นรัฐบาลในโอกาสต่อไป ไม่ร่วมมือ แล้ววันหน้าท่านจะอยู่ยังไง ปัญหาก็จะตกไปที่ท่านเหมือนเดิม ที่ท่านเคยผ่านมาแล้ว แล้วท่านบอกท่านแก้ไม่ได้ วันนี้ผมแก้ให้ท่านแล้วนะ ผมเตรียมกวาดบ้านให้ท่านเลย ปูเสื่อให้เรียบร้อย แล้วท่านยังจะมาขัดขวางผมอีก ผมก็ไม่เข้าใจมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในอนาคต ก็ฝากประชาชนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง คิดด้วยแล้วกันนะ

ในเรื่องของการเดินทางไปร่วมการประชุมสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ของยูเอ็น ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถือเป็นปีพิเศษ เพราะยูเอ็นมีวาระครบ 70 ปี ยูเอ็นนี่ต้องรู้ว่าท่านก็มีหน้าที่ในการดูแลประชาคมโลกในหลายๆ เรื่องด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง การเมืองเป็นเรื่องของส่วนตัว พูดคุยกันได้บ้าง แต่วาระเขาไม่ไดัพูดเรื่องนี้ เขาจะพูดเรื่องความก้าวหน้าของแต่ละประเทศในการดูแลประชาชนในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ว่ามีการพัฒนาอย่างไรบ้าง และในอีก 15 ปีต่อไป จะมีการทำงาน มีความร่วมมือกันระหว่างประเทศในลักษณะใด เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก ในโลกใบนี้ ตามเป้าหมายของยูเอ็นก็คือการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) 8 ด้าน ได้แก่ 1. การขจัดความยากจน ความหิวโหย 2. การส่งเสริมให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานถึงระดับประถมศึกษา 3. การส่งสริมความเท่าเทียมทางเพศและบทบาทสตรี 4. การลดอัตราการตายของเด็ก 5. การพัฒนาสุขภาพสตรีมีครรภ์ 6. การต่อสู้กับโรคเอดส์ มาลาเรีย และโรคสำคัญอื่นๆ 7. การจัดการและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 8. การส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาในประชาคมโลก ผมก็เห็นว่าเป็นโอกาสดี ได้รับเกียรติจากยูเอ็นเชิญมา ในฐานะที่ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ผมก็ยินดีที่จะไป และผมก็จะได้แสดงความคิดเห็นบ้างในหัวข้อต่างๆ เหล่านั้น ว่าเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และแนวคิดของเราที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมของเรา อาเซียนว่ายังไง ประชาคมโลกว่ายังไง ก็เอาแนวทางที่ยูเอ็นได้ร่างไว้ทั้ง 8 เรื่อง มาประยุกต์ ประมวล ขณะนี้ก็กำลังเตรียมการอยู่ และเราก็จะบอกถึงความสำเร็จของประเทศไทยในการที่เราอาจจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงแรกๆ การก้าวกระโดดในบางเรื่อง เมื่อครั้งที่แล้ว ที่ผ่านมานานพอสมควรในเรื่องการยกระดับจากรายได้น้อยเป็นรายได้ปานกลาง เราก็พยายามให้ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง แต่ถ้าจะไปสูงต้องไปอย่างผมว่า ไปแบบเดิม ให้เงิน เพิ่มเติม เพิ่มส่วนต่าง การจำนำ ไปไม่ได้ก็อยู่กลาง ก็ถอยหลังไปต่ำเหมือนเดิม มันแย่ไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจก็ไม่ดี เงินก็ไม่พอ ฉะนั้นเราต้องน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผมจะนำไปกล่าวด้วย ซึ่งผมกล่าวทุกเวทีมาโดยตลอด หลายประเทศให้ความสนใจ เป็นหลักการในการใช้บริหารประเทศซึ่งเป็นแบบเรา ต้องส่งเสริมให้ประชาชนนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันเพราะว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นต้องเริ่มต้นที่ทรัพยากรมนุษย์ มนุษย์ต้องมีการพัฒนา และมนุษย์เหล่านี้ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของแต่ละประเทศ รัฐบาลต้องถือว่าประชาชน หรือมนุษย์ เป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าในหลายเซคเตอร์ ต้องดูแลทั้งหมด ไม่ใช่ดูแลส่วนใดส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมานั้น ในการประชุมหลายครั้งที่ผมกล่าวคำเหล่านี้ หรือแม้กระทั่งการประชุมในประเทศหมู่เกาะอะไรต่างๆ ก็ตาม ก็ได้ให้เอาโครงการไปแสดงให้ฟัง เขาชื่นชมหมด แม้กระทั่งการส่งทหารไปประเทศที่ผ่านมาหลายประเทศ เขาปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงกบ มีอาหารกินทุกวันแล้ว เขาชื่นชมพระมหากษัตริย์ของไทยมาโดยตลอด ขอบคุณที่ทหารไทยไป ขอบคุณที่ไปสอนเขาปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทำให้เขาสามารถหลุดพ้นจากความยากจน ความหิวโดยได้ในขั้นตอนแรก เราพ้นตรงนั้นมาแล้ว เราก็ต้องรีบพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก เพื่อเราจะได้เป็นประเทศที่เป็นผู้ให้ เหมือนประเทศอื่นๆที่เขาร่ำรวย ถ้าเรายังเป็นประเทศอยู่แบบนี้ มันเป็นผู้ให้เขาไม่ได้ มีแต่ต้องจะร้องขอเขาอยู่ตลอดเวลา ขอนั่นขอนี่ เพราะเราพึ่งตัวเองไม่ได้ ในประเทศยังดูแลคนไม่ได้ แล้วเราจะไปพัฒนาประเทศไปสร้างอนาคตได้อย่างไร

ฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องประเทศชาติ จะทำลายผมจะทำอะไรก็แล้วแต่ จะต่อต้านผมหรืออะไรก็ตาม แต่ประเทศ ผมไปในนามประเทศของท่าน เพราะอย่างไรก็ตามประเทศนี้มันต้องเดินหน้า อันนี้อยากจะให้ทุกคนได้ระลึกถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ใช้ในทุกกรณี โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงพระราชทานไว้ให้พสกนิกรชาวไทยมาแล้วกว่า 40 ปี ได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศ และ 9 ปีที่แล้วนั้นทรงได้รับการทูลเกล้าถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเป็นการสดุดีพระเกียรติคุณที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยความวิริยะอุตสาหะในการพัฒนา และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน

เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า เป็นโอกาสที่เหมาะสมในการผลักดันให้เป็นวาระด้านการพัฒนาของโลก อันนี้จะเป็นรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ผมจะเสนอพูดคุยกับเขานะครับต่อไป สิ่งที่ผมพูดในวันนี้นั้น ส่วนใหญ่แล้วหรือทั้งหมดในการทำงานผมด้วยซ้ำไป ผมได้มาจากแนวทางพระราชดำริ และพระราชเสาวนีย์ทั้งสิ้น มาจากสถาบันทุกพระองค์ได้ทรงพระราชทานไว้ในโอกาสต่างๆ มากมาย เป็นสิ่งที่ผมยึดเหนี่ยวไว้ในจิตใจ ไว้ในหัวใจของผมมาโดยตลอด และเป็นอุดมการณ์ที่ตั้งใจมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาเพื่อคนอื่น ท่านรับสั่งไว้ ท่านสอนไว้ ทรงสอนว่า ทำอะไรเพื่อคนอื่น ดีกว่าคิดว่าจะอะไรให้แต่ตัวเอง ผมยึดแนวทางนี้ ทำหน้าที่ของผมมาตลอดชีวิต

เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามการทำงานของรัฐบาล และ คสช. ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ทำให้คนไม่ดีกลับมาเป็นคนดีให้ได้ เพราะเราฆ่าฟันกันไม่ได้ทั้งสิ้นอยู่แล้ว ต้องให้กฎหมายตัดสิน และค่อยเดินหน้าไปในเรื่องของการอนุญาตต่อไป ในเรื่องของการปรองดองปฏิรูปอะไรก็แล้วแต่ ถ้าทำได้ ถ้าไปถึงตรงโน้นได้ ประเทศชาติจะสงบอย่างยั่งยืน สิ่งใดที่ต้องแก้ไขเวลานี้ หรือปรับปรุงในเวลานี้ก็พร้อมฟังข้อเสนอแนะ แต่ไม่ใช้เสนอมาล้มทั้งเรื่อง ไอ้นี่ก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เห็นด้วย กลับไปที่เดิมถ้าอย่างนี้มันไม่ได้ ผมก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ขอบพระคุณนะครับ สวัสดีนะครับ ขอให้มีความสุขวันหยุดสุดสัปดาห์นะครับ วันเสาร์-อาทิตย์ปลอดภัยทุกคนขับรถขับรา อย่าใช้ความเร็วเกินไป และอย่ารับประทานสุรานะครับ สวัสดีครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น