xs
xsm
sm
md
lg

รบ.สั่งเกษตรจัดแผนแก้แล้ง ทหารช่วยขุดแก้มลิง-สร้างฝาย หาพิกัดแก้น้ำขังล่วงหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
โฆษกรัฐบาลเผย “ประยุทธ์” เป็นประธานประชุมหน่วยเกี่ยวข้องน้ำ ห่วงสถานการณ์ ชี้ปัญหาผังเมือง-ขยะ ทำน้ำท่วม พร้อมวางแผนตรวจเรดาห์หาพิกัดแก้น้ำขังล่วงหน้า กำชับต้องคิดถึงการเก็บนน้ำด้วยอย่าแค่ระบายทิ้ง มอบเกษตรระดมหาข้อมูลน้ำบาดาล คิดแผนแก้แล้งชงเข้า ครม.ใน 2 สัปดาห์ พร้อมให้ทหารช่วยขุดแก้มลิง 30 จุด 5 จังหวัดอีสาน สร้างฝาย 22 จังหวัดเพื่อเก็บน้ำก่อนไหลลงโขง-สาละวิน

วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เพื่อหารือถึงสถานการณ์น้ำทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยมีรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุม เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์น้ำเพราะมีฝนตกน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยในส่วนของน้ำท่วมทั้งในกทม.และต่างจังหวัดนั้น นายกฯ ย้ำในหลักการในส่วนของกทม.ว่าท่อระบายน้ำอาจจะไม่รองรับการระบายน้ำเพราะฝังเมืองไม่ค่อยดี และปัญหาขยะที่มาพร้อมกับฝนทำให้การระบายมีปัญหา

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ทางกระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่า ได้มีการหารือกับกระทรวงมหาดไทย กทม. หน่วยทหาร และกระทรวงศึกษาธิการ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยจะไม่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเหมือนที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบเรดาร์หาพิกัดว่าตรงไหนจะมีฝนตกเพื่อทำการระบายรถก่อนที่ฝนจะตก ไม่ให้การจราจรคับคั่ง และเมื่อน้ำเริ่มท่วมขังจะมีนักเรียนอาชีวะจะเปิดจุดบริการเร่งด่วนเพื่อช่วยซ่อมรถ ขณะที่ทหารและเจ้าหน้าที่ กทม.ต้องเคลียร์พื้นที่ไม่ให้มีรถเสียจอดบนผิวการจราจร ส่วนน้ำท่วมในต่างจังหวัดในส่วนของผิวจราจรที่มีน้ำท่วมขังจะทำให้น้ำระบายได้เร็วที่สุด ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีข้อจำกัดแตกต่างกัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า นายกฯ ยังเน้นย้ำว่ากรณีที่มีฝนตกน้ำท่วมอย่าคิดถึงแค่เรื่องการระบายน้ำเพื่อให้ผิวการจราจรแห้งเท่านั้น ต้องคิดถึงเรื่องเก็บกักน้ำด้วย จึงมีการเรียกข้อมูลจากกรมชลประทานมาดูซึ่งมีการทำข้อมูลมาให้ดูแบบละเอียด แต่ในที่ประชุมเห็นตรงกันว่าขอให้เพิ่มความละเอียดมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาที่มามีแต่ข้อมูลน้ำในเขื่อนหลักเท่านั้น แต่นายกต้องการข้อมูลน้ำบาดาลที่มีการขุดเจาะแล้วว่ามีปริมาณเท่าใด แหล่งเก็บกักน้ำที่รัฐบาลส่งเสริมด้วยการอัดเม็ดเงินลงไปปัจจุบันเก็บกักน้ำได้เท่าไรแล้ว ดังนั้นหมายความว่า น้ำต้นทุนที่เคยพูดถึงเฉพาะเขื่อนหลักไม่เพียงพอแล้ว เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำที่ใช้การได้ ปริมาณค่าเฉลี่ยของฝนที่น้อยกว่าที่ผ่านมา 25% จึงต้องวางแผนจากข้อมูลที่ละเอียดตั้งแต่วันนี้ นายกฯ จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯเป็นแกนกลางในการประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการระดมข้อมูลทั้งหมดมาเชื่อมโยงกัน

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ในที่ประชุมมีการหารือถึงการที่จะนำน้ำจากแม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน ที่มีการพูดกันมานานแล้ว มีการตรวจสอบแล้วว่ามีความเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นแม่น้ำที่มีพื้นที่ในประเทศอื่นด้วย ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุด คือ กลับมาดูแม่น้ำในประเทศทั้งสายหลักและสายย่อยที่จะไหลลงแม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน ควรทำพื้นที่เก็บกักน้ำที่เป็นแก้มลิง และฝายแยกออกจากแม่น้ำหลักและแม่น้ำสาขาภายในประเทศก่อนที่จะลงในแม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน เพื่อให้มีแหล่งเก็บกักในพื้นที่ก่อน ให้อยู่ในประเทศนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ โดยในที่ประชุม พล.อ.ฉัตรชัยระบุว่าได้จัดเตรียมข้อมูลเรื่องแก้มลิงเอาไว้แล้วจำนวน 30 แห่งในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคอีสาน คือ จังหวัดนครพนม จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย และจังหวัดมุกดาหาร และมีการทำฝายอีก 22 จังหวัด ที่ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสานตอนบน และภาคกลางตอนบนบางส่วน

“ไม่ต้องขออนุญาตต่างประเทศ เพราะแม่น้ำอยู่ในพื้นที่ของเราก่อนที่จะไป แต่ต้องทำให้ประเทศอื่นเขาไม่รู้สึกว่าจะทำให้ส่วนรวมเสียหายหรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่การดึงน้ำจากแม่น้ำโขงเข้าประเทศเรา แต่เราทำแก้มลิงเพื่อกักน้ำให้อยู่ในประเทศนานที่สุด ซึ่งนายกฯ สั่งให้นำกำลังทหารมาช่วยขุดแก้มลิง ซึ่งตอนนี้เขามีจุดที่ขุดแล้ว” พล.ต.สรรเสริญกล่าว

พล.ต.สรรเสริญกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมหารือถึงการแย่งน้ำของประชาชนจากบทเรียนครั้งที่ผ่านมาว่า พล.อ.อนุพงษ์กล่าวในที่ประชุมว่า เป็นไปไม่ได้ที่ปล่อยน้ำไปแล้วจะนิ่งเฉยเพราะชาวบ้านต้องสู้เพื่อชีวิตของเขา ดังนั้นจึงมีความสำคัญในเรื่องข้อมูลที่นายกสั่งการว่าข้อมูลจะต้องละเอียดลึกถึงกึ๋น และต้องมีความชัดเจนว่าตรงไหนอย่างไร ช่วยเหลืออย่างไร ถ้าทุกคนคิดว่าทุกอย่างต้องได้เหมือนเดิมนั้นเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นถ้าทำให้ประชาชนทราบข้อมูลพร้อมกับรัฐบาลคือสิ่งที่ดีที่สุด

โฆษกฯ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ยังห่วงใยในเรื่องของการแจ้งข้อมูลกับประชาชนว่าไม่สามารถทำได้แบบเป็นต่อน หรือเป็นเรื่องๆ ได้ เพราะประชาชนจะต้องรับทราบข้อมูลและสถานการณ์ที่เป็นข้อเท็จจริงไปพร้อมกับรัฐบาล เพื่อเข้าใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรในวันข้างหน้า เพื่อเข้าใจว่าทำไมรัฐบาลจึงต้องมีมาตรการแบบนี้ ซึ่งนายกฯให้เวลาหน่วยงานในการดำเนินมาตรการภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ให้ชัดเจนว่าถ้าหากรัฐบาลจะขอความกรุณาประชาชนและเกษตรกรในการห้ามทำอะไร ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกจะต้องออกไปเป็นแพกเกจ ไม่ใช่มีเพียงระบุมาตรการว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร แต่จะต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือพร้อมไปทีเดียว เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหลายว่ารัฐจะมีแนวทางช่วยเหลือเพื่อประคับประคองให้ผ่านวิกฤติไปได้อย่างไร เพราะถ้าออกมาตรการเป็นแพ็คเกจจะไม่มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เพราะอย่างปีที่ผ่านมาเราบอกว่าห้ามปลูกบางทีมันลำบาก เพราะเกษตรกรมีวิธีการปฏิบัติแบบนี้มาตลอดทั้งชีวิต ฉะนั้น นายกฯ จึงสั่งทุกหน่วยงาน ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชลประทานที่อยู่ในพื้นที่ต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนในสิ่งที่ตัวเองเกี่ยวข้องด้วย และมั่นใจว่าวิกฤตการณ์เหล่านี้จะดีขึ้น เนื่องจากประชาชนจะเข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องน้ำ

พล.ต.สรรเสริญกล่าวยกตัวอย่างแพกเกจในเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชว่า นายกฯ ยกตัวอย่างถึงขั้นว่าไม่ใช่เพียงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น มีตลาดรองรับพืชที่จะให้เขาเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไม่ สัดส่วนในการปรับเปลี่ยนเป็นอย่างไร เรานำเอาปัญหาของปีที่แล้วที่ปล่อยให้ประชาชนเห็นข้าวยืนต้นตายมันทำไม่ได้ ดังนั้นต้องมีความชัดเจนทั้งแพกเกจ ซึ่งนายกฯให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งดำเนินการออกมาตรการและให้ได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยกระทรวงเกษตรฯจะเป็นการแกนกลางในการประสานงานในการคิดแพ็คเกจทั้งระบบ

เมื่อถามว่าให้เวลาคิดมาตรการ 2 สัปดาห์จะทันหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ข้อมูลมีอยู่แล้ว แต่วันนี้มีการนำข้อมูลมาเรียงแต่ยังไม่ครบทุกส่วน ดังนั้น การทำข้อมูลมาครบทุกส่วนคิดว่าจะดำเนินการทัน รองนายกฯ สมคิดพูดด้วยซ้ำไปว่าให้เวลา 1 สัปดาห์ เพราะมีการสอบถามกันแล้วพบว่าส่วนใหญ่มีข้อมูลดิบกันอยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องทำข้อมูลของทุกส่วนมาประสานกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น