“วิษณุ” แจงคุณสมบัติ “กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” 21 คน ต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองย้อนหลัง 3 ปี รวมถึงคนในองค์กรอิสระ รับหาคนยาก เหตุกลัวคว่ำซ้ำสอง ยกย่อง “บวรศักดิ์” ไม่เฮิร์ต-ยังยิ้มได้เมื่อภัยมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสรรหากรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 21 คน จะมีฝ่ายการเมืองเข้ามาร่วมหรือไม่ว่า ในกติกาไม่มีการกำหนดไว้ จะเป็นฝ่ายใดก็ไม่มีปัญหา แต่ในทางปฏิบัติจริงเห็นสมควรว่ามีหรือไม่ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับ คสช. ถึงแม้ว่าจะมีฝ่ายการเมืองเข้ามาก็ต้องมีปัญหาอยู่ดี เพราะเราไม่สามารถเอามาทุกฝ่ายได้ โดยมีการกำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการยกร่างฯ ไว้แล้ว เป็นคุณสมบัติของ กมธ.ชุดที่แล้ว และที่ระบุว่าจะต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองย้อนหลัง 3 ปี จึงต้องพิจารณาในส่วนนี้ก่อน
เมื่อถามว่า การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญของ สปช.ที่ผ่านมาจะเป็นอุปสรรคในการชักชวนใครเข้ามาเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการทุกคณะก็ระบุว่า การร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่าย และจะยากกว่าการหากรรมาธิการ 36 คน เพราะตอนนั้นเป็นการเข้ามาทำงานใหม่ยังไม่เห็นถึงปัญหา แต่คราวนี้มีเดิมพัน เพราะได้เห็นว่ามีการคว่ำรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ฉะนั้นคนที่จะเข้ามาก็ต้องคิดว่าหากทำแล้วต้องทำให้ดีและต้องไม่ล้ม ถือเป็นความรู้สึกกดดันอยู่จึงทำให้หาคนมาร่วมยาก แต่ขอให้เชื่อว่าสามารถหาได้ ซึ่งอาจมีบางคนที่ได้ปฏิเสธจากคราวที่แล้วอาจจะรับในคราวนี้ก็ได้ เพราะข้อขัดข้องที่เคยมีอาจหมดไปแล้ว อีกทั้งคนในองค์กรอิสระจะมาเป็นคณะกรรมการยกร่างฯ ในขณะเดียวกันไม่ได้ ยกเว้นลาออกแล้วมาเป็น
เมื่อถามว่าได้มีการปลอบใจนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “เมื่อวานก็ได้ประชุมร่วมกฤษฎีกาคณะเดียวกับนายบวรศักดิ์ ก็ไม่เห็นว่าท่านจะเฮิร์ตอะไร ผมยังขอพระท่าน ท่านยังบอกว่าแจกหมดแล้ว คนที่มีความสามารถยิ้มได้เมื่อภัยมาคือคนที่ควรยกย่อง เหมือนเพลงยิ้มได้เมื่อภัยมาในทุกสถานการณ์ ถึงจะยิ้มแหยๆ ช่างเถอะ ก็ขอให้ยิ้ม”
เมื่อถามว่า การที่ สปช.หมดวาระไปแสดงว่าผลงานที่ทำมาไม่ได้เป็นที่ยอมรับใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่าเรียกว่าไม่ยอมรับ แต่อะไรก็ตามที่รัฐธรรมนูญเขียนกติกาไว้ และมีการลงมติหมายความว่าจะรับหรือไม่รับก็ได้ แต่เมื่อผลออกมาไม่รับจะบอกว่าไม่เป็นที่ยอมรับก็ไม่ใช่ และผลงานจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่เป็นเรื่องของสังคม แต่เสียงโหวตเป็นเรื่องนิตินัย ซึ่ง กมธ.ชุดเดิมและตนไม่ถือว่าผลงานดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะกรรมการชุดใหม่อาจจะหยิบยกจากชุดเดิมมาใช้ประโยชน์ได้