เกาะกระแส
00 ฉับพลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจหัวหน้า คสช. ในรธน.ฉบับชั่วคราวปี 57 ตามมาตรา 44 ออกคำสั่งถอดยศตำรวจของ ทักษิณ ชินวัตร โดยให้มีผลไปแล้ว ก็ทำให้เขาต้องไปยืนอยู่ตรงกันข้ามกันอย่างชัดเจนในทันที และนี่คือความชัดเจนที่แสดงให้สังคมทุกฝ่ายได้เห็นและตัดสินใจ เพราะสิ่งที่ตามมาหลังจากนี้ก็คือ คำพูดของ "ลุงตู่" ที่ประกาศกร้าวว่า ต่อไปนี้กระบวนการยุติธรรมมันถึงกันหมด ในคดีทุจริตหากโยงถึงใคร ก็โดนหมด และ "อย่าเอาผมไปเทียบกับคนทุจริต มันคนละระดับกัน"
00 แน่นอนว่าคำพูดข้างต้นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. อาจพูดรวมๆ แต่สังเกตให้ดีว่าให้น้ำหนักไปที่กลุ่มขั้วการเมืองฝั่งเพื่อไทย ทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังถูกดำเนินคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จนมาถึงการถอดยศตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้ ซึ่งทุกเรื่องฝ่าย ทักษิณ กำลังโดนเข้าจังๆ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาคนพวกนี้ทุจริตจริง ทำผิดจริง มีคำสั่งศาล มีหมายจับหลายคดีชัดเจน เพียงแต่ว่าคนพวกนี้เคยอาศัยอำนาจที่ใช้การเลือกตั้งแบบไร้มาตรฐานเป็นใบเบิกทางมาต่อยอดสร้างอำนาจ และขยายเครือข่ายทุจริจให้ใหญ่โตกว่าเดิม
00 ดังนั้น จากท่าทีที่ดูแข็งกร้าว และชัดเจนกว่าทุกครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องบอกว่านี่คือ "ศึกใหญ่" ของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นครั้งแรกที่คาดว่าจะต้องเจอกับมาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจัง ภายใต้การสนับสนุนของประชาชนอีกฟากหนึ่งที่รู้ทัน และเรียกร้องให้ดำเนินการแบบเสมอภาคมานานแล้ว และถ้าจะพูดว่ามาถูกทางแล้วก็พูดแบบนั้นได้เลย !!
00 แม้ปากบอกว่า ไม่เคยใส่ใจในยศฐาบรรดาศักดิ์ แต่ทุกคำพูดที่พรั่งพรู่ออกมาของ นายทักษิณ หลังจากถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจพิเศษ ฟันฉับถอดยศเหี้ยนเตียน เพราะทุกอย่างที่เขาพูดผ่านคลิปที่สื่ออารมณ์ออกมาล้วนตรงกันข้ามทั้งสิ้น แถมยังยุทางอ้อมให้บรรดาสาวกทั้งหลายให้โกรธแทนเขาอีกด้วย นอกจากนี้ ในคำพูดดังกล่าวยังกระทบชิ่งไปถึงเบื้องสูง อีกว่า "แค่พูดหมิ่นนิดหน่อยก็จำคุก แบบไม่รอลงอาญา" เป็นคำพูดที่เหิมเกริมมาก เจตนาทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า ศาลตัดสินไม่ยุติธรรม ทั้งที่ในความเป็นจริงทุกอย่างมีกฎหมายรองรับ มีการระบุความผิดชัดเจนว่าความผิดแบบนี้มีบทลงโทษอย่างไร แต่ที่สำคัญก็คือ มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปล่วงละเมิด หือ !!
00 ยังขำไม่หายเมื่อได้ยินเสียง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แสดงท่าทางขึงขัง ไม่พอใจกับการทำงานของตำรวจตรวจคนดข้าเมือง หรือตม. ถึงกับต้องเรียกประชุมฉะกันเป็นการด่วน แถมมีการ "ด่าโชว์" ออกสื่อกันให้เห็นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการกำหนด 6 หัวข้อเรื่องการทุจริตเอาไว้ให้เห็นอีกด้วย ทำให้ทราบรายได้จากการทุจริตต่อวันจำนวนเงินมหาศาล ซึ่งก็เรียกความสนใจจากสังคมได้พอสมควร แต่อีกด้านหนึ่งก็มองได้เหมือนกันว่ามันก็เป็นการ "ประจาน" ผู้บริหารระดับสูงของ สตช. ตั้งแต่ ผบ.ตร. ลงมาได้อย่างดี เพราะการทุจริตด้วยวิธีการ "กระจอกๆ" แบบนี้มันมีมานานแล้ว อย่างน้อยก็มีเวลาเป็นปี ในยุคที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็น ผบ.ตร.นั่นแหละ ทำไมถึงไม่สะสาง คราวนี้ก็เช่นเดียวกันที่หูตาเหลือกก็เป็นเพราะ "เรื่องมันแดง" หลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหาคดีวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ "จ่ายใต้โต๊ะ" เดินทางเข้าออกที่ด่านตม.สระแก้ว เป็นว่าเล่น และถูกไล่บี้ให้ย้ายล้างบาง นั่นแหละ แต่คำถามลอยลมก็คือ ถึงเวลาที่ต้อง "ปฏิรูปตำรวจ" ทันที แล้วหรือยัง โดยใช้ ม. 44 ก็ได้ เงียบ !!