“พิชัย” หยันโหวตคว่ำรัฐธรรมนูญแสดงถึงความล้มเหลวของรัฐบาลและ คสช. แถมหาคนรับผิดชอบไม่ได้ เชื่อตั้งชุดใหม่ก็ไม่ได้แบบที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สับยืดเลือกตั้งไป 20 เดือนทำเศรษฐกิจเสียหาย ทำความมั่นใจหด ต่างชาติมองเป็นปาหี่ ทำลงทุนหยุดชะงัก กีดกันการค้าเพิ่ม จี้นำ รธน.40 มาใช้ เลือกตั้งเร็วๆ อย่าถ่วงเวลา ขู่อาจทนกันไม่ไหว
วันนี้ (8 ก.ย.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า การโหวตคว่ำรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยนี้แม้จะเป็นทางออกที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ แต่ก็เป็นการแสดงถึงความล้มเหลวซ้ำซ้อนของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากที่ล้มเหลวทางการบริหารเศรษฐกิจจนต้องเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจทั้งชุดมาแล้ว
“ก่อนหน้าที่ สปช.จะลงมติก็มีการห้ามวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญที่สุดแย่นี้ และยังท้าทายให้คนที่คัดค้านไม่ต้องมาลงเลือกตั้ง ที่สุดขนาด สปช.ก็ยังโหวตคว่ำและก็ยังหาคนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวต่อว่า จากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซากของ คสช. ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่าถึงแม้จะตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ก็อาจจะไม่ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อีกทั้งการยืดเวลาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อยืดการเลือกตั้งออกไปอีกถึง 20 เดือนจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างมาก ความมั่นใจของทั้งในประเทศและต่างประเทศจะยิ่งหดหาย ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่บอกว่าจะออกไปเดินสายโรดโชว์กับนักลงทุนต่างประเทศจะตอบคำถามได้อย่างไรว่า สปช.ที่ คสช.ตั้งมาเอง กลับคว่ำรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยกลุ่มคนที่ คสช.เลือกเอง ต่างประเทศต้องมองว่าเป็นการเล่นละครปาหี่เพื่อลากยาวไม่ให้มีการเลือกตั้งซึ่งจะทำให้การลงทุนจากต่างประเทศหยุดชะงัก การส่งออกลดลง และอาจจะเป็นเหตุผลในการออกมาตรการกีดกันทางการค้าเพิ่มเติมได้
“ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจ จึงอยากเรียกร้องให้มีการนำรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ร่างในระบอบประชาธิปไตยมาแก้ไขปรับใช้ เพื่อเร่งให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ และขอว่าอย่าถ่วงเวลาอีกเลย ประชาชนส่วนใหญ่อาจจะทนกันไม่ไหว” นายพิชัยระบุ