ตามดูธุรกิจ “สิระ เจนจาคะ” อดีต สปช.สายสังคม เป็นใครมาจากไหน? จากเจ้าของค่ายมวยชื่อดัง เจ้าของธุรกิจบ้านเรือนไทยมูลค่าพันล้าน ถึง สปช.สายสังคม ผู้ที่หอบเงิน 1.7 ล้านบาทมาคืนรัฐสภา ก่อนถูกปฏิเสธไม่มีระเบียบ จนเจ้าตัวประกาศมอบเงินให้ “มูลนิธิ-องค์กรสาธารณะทั่วประเทศ” ผู้ที่ถูกสังคมเรียกว่าเป็น “ศิษย์เอกหลวงปู่พุทธะอิสระ”
เมื่อเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) จากรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และศิษย์เอกหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้นำเงิน 1.7 ล้านบาทมาคืนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หลังประกาศคืนเงินเมื่อร่างรัฐธรรมนูญถูกโหวตคว่ำในขั้น สปช.วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ “สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร” ยืนยันว่า “ไม่มีระเบียบคืนเงิน”
นายสิระจึงตัดสินใจที่จะนำเงินไปบริจาคโดยเปิดโอกาสให้มูลนิธิและองค์กรสาธารณะทั่วประเทศส่งคำร้องมายกเว้น “วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม” ที่จะถูกตัดสิทธิในการเข้ามาขอรับเงินก้อนนี้ เพราะเขาเห็นว่าอาจจะเป็นการรู้กันหรือเล่นละครระหว่างเขากับวัดและอะไรที่เกี่ยวกับการเมืองก็จะไม่ให้เหมือนกัน
“โดยจะตั้งเงินก้อนนี้ไว้ที่บริษัท บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ จำกัด ที่อยู่ 99/519 หมู่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม 10210” นายสิระระบุไว้
ขณะที่สังคมยังสงสัยว่า “นายสิระ” เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงสามารถหอบเงิน 1.7 ล้านมาคืนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ภายหลัง “นายสิระ เจนจาคะ” ได้รับการแต่งตั้งเป็น สปช.อยู่ในกลุ่มด้านสังคม ในเว็บไซต์ของ สปช.ระบุว่าเขามีอาชีพกรรมการผู้จัดการบริษัท บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ จำกัด และเห็นได้ชัดในตอนที่ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” จากวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้เข้ามาใช้เรือนไทยตอนตั้งเวที กปปส.แจ้งวัฒนะ นายสิระรับหน้าที่เป็นทนายความให้หลวงปู่พุทธะอิสระ
ส่วนประวัติคร่าวๆ ของเขา เกิดที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เป็นบุตรคนที่ 8 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 12 คน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยเกริก สาขาการบริหารการจัดการ โดยเมื่อ 20 ปีที่แล้วเข้าสู่วงการมวยไทยซึ่งถือเป็นยุคทองของวงการมวย เชื่อว่าคงไม่มีใครรู้จัก “เสี่ยวอลโว่” นายสิระ เจนจาคะ “หัวหน้าค่าย ส.สิระดา” ในขณะนั้น เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักมวยไทยค่าตัวเงินแสน “วังจั่นน้อย ส.สิระดา” ที่ย้ายมาจาก “ส.พลังชัย” จนได้รับรางวัลยอดมวยไทยของสมาคมผู้สื่อข่าวข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยปี 2536 โดยในขณะนั้นเขาเป็นผู้นำรถจากต่างประเทศเข้ามาขายในไทย เช่น ยี่ห้อเบนซ์, วอลโว่ และยังเป็นเจ้าของสำนักงานทนายความไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเว็บไซต์ www.muaythai_wongjunnoy.com ระบุว่า ปัจจุบันถูกถ่ายโอนมาให้ “นายชลสิทธิ์ เจนจาคะ” เป็นเจ้าของค่าย ส.สิระดา ตั้งอยู่เลขที่ 99/519 หมู่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ
เริ่มเข้าสู่วงการการเมืองที่ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ปี 2554) ลงสมัคร ส.ส.ในนาม “พรรครักษ์สันติ” ในพื้นที่เขต 11 หลักสี่ ดอนเมือง (แขวงสนามบิน) แต่เจ้าตัวสอบตก มีเพียงศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรค ได้เป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อในครั้งนั้น แต่จากครั้งนั้นนายสิระได้คะแนนถึง 2,385 คะแนน แพ้นายสุรชาติ เทียนทอง (พรรคเพื่อไทย) ที่ได้ 27,424 คะแนน และนายสกลธี ภัททิยกุล (พรรคประชาธิปัตย์) ที่ได้ 24,689 คะแนน
ขณะที่ช่วงเป็น สปช.แต่งตั้ง “นางวิภาวี เจนจาคะ” เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว แต่ต่อมาก็ต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อถูกสื่อมวลชนจับได้กรณี “64 สปช.ตั้งญาติ-คนใกล้ชิด นั่งเก้าอี้ผู้ช่วยส่วนตัว”
จากประวัติทางธุรกิจปัจจุบันของนายสิระ จากเว็บไซต์ www.bannsongthai.com นอกจากมีชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้มอบหมายให้ลูกชายชื่อ “นายภวินท์ เจนจาคะ” ที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษเป็นผู้ดูแลธุรกิขทั้งหมด
โดยหลังจากหันหลังจากวงการมวย เข้ามาจับ “ธุรกิจบ้านทรงไทย” ที่ทำมายาวนานถึง 13 ปี ตั้งแต่ปี 2545 เริ่มสร้างเป็นศาลาหลังเล็กๆ ปัจจุบันเขาเช่าพื้นที่ของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน หรือ ปตอ.1 บนถนนแจ้งวัฒนะ เป็นที่ก่อตั้งบริษัท และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีลูกค้าเป็นเจ้าของรีสอร์ต เจ้าของสวนยาง รวมถึงราชการ และบุคคลธรรมดาก็เข้ามาซื้อ ขณะที่ไม้ที่นำเข้ามาสร้างบ้านเรือนไทยนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย และสปป.ลาว สนนราคาตั้งแต่ 570,000 บาท ถึง 10 ล้านบาท โดยจะมีช่างไปสร้างให้ถึงที่ทั่วประเทศ และขณะนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในเขต กทม. นอกจากนี้ยังต่อยอดธุรกิจจัดสถานที่จัดงานมงคลต่างๆ เช่น งานวันเกิด งานแต่งงาน งานเลี้ยงรุ่น งานปีใหม่ เป็นต้น นอกจากทำธุรกิจแล้ว เข้ายังตอบแทนสังคมด้วยการสร้างศาลาที่พักตามป้ายรถเมล์ การมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตร-ธิดาในเขตทุ่งสองห้อง ที่ทำมา 10 กว่าปี
ข้างต้นเป็นประวัติคร่าวๆ ของ “นายสิระ เจนจาคะ” อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ถูกระบุว่าเป็น “ศิษย์เอกหลวงปู่พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย” และเขายังเป็นหนึ่งใน สปช.สายสังคม ที่ออกมาคัดค้านไม่อยากให้มีการ “เปิดกาสิโน”