นายกฯ ย้อนใครไปพูดตอนไหนเลิกเรียนบ่าย 2 แจงแล้วแต่ ร.ร.-ไม่บังคับ รับต้องการให้มีเวลาปฏิบัตินอกจากท่องตำรา ชี้ต้องเรียนรู้ใช้ชีวิต เผยฟังปัญหาเด็กเครียดเรียนหนัก ยันไม่ใช่ลดเวลาให้กลับบ้านไปมั่วสุม รับต้องปลูกฝังอุดมการณ์ จิตสำนึก
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการลดระยะเวลาการเรียนภาควิชาการลง ให้เลิกในเวลา 14.00 น.ว่า ใครไปพูดเลิกเรียนบ่ายสองก็ไม่รู้ ตนเห็นหนังสือพิมพ์เขียนลดถึงบ่ายสอง การเลิกเรียนนั้นแล้วแต่โรงเรียน ไปบังคับไม่ได้ เพียงแต่ตนต้องการให้มีเวลาในช่วงบ่ายเพื่อให้เด็กมีเวลาอยู่ด้วยกัน มีเวลาปฏิสันถารกัน มีเวลาเอาเรื่องมาวิเคราะห์วิจารณ์กัน ไปอ่านหนังสือนอกเวลา หรือไม่ก็สอนวิธีการนำสิ่งที่เรียนมาไปทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ในวันหน้า เพราะหากเรียนหนังสืออย่างเดียวทำงานไม่เป็นอีก ไม่รู้จะนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร ท่องตำราได้เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ ตนจึงบอกว่าการเรียนมี 2 อย่างที่ไปด้วยกัน คือ เรียนเพื่อได้ความรู้ เพื่อสอบ เพื่อใบปริญญาฯ ตนไม่ขัดข้อง แต่คำว่าเรียนรู้คือรู้ว่าจะใช้ชีวิตวันข้างหน้าอย่างไร ต้องนำสิ่งนี้มาประกอบกัน
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่ตนรับฟังจากภายนอก ปัญหาอยู่ที่เด็ก ครู ผู้ปกครอง ระบบบริหารจัดการศึกษา เงินในการพัฒนาการศึกษา ส่วนเด็กจะไม่มีความสุขก็คือเวลาที่เครียด เรียนเช้าถึงเย็น มีการบ้าน แล้วมีเรียนพิเศษอีก ความหมายของตนคือไม่ใช่ลดเวลาลงแล้วกลับบ้าน บางคนเขียนว่าพ่อแม่จะเป็นภาระ เดี๋ยวเด็กไปติดยาอะไรอีก ไปเล่นเกม ใครจะให้ปล่อยกลับบ้านแบบนั้น ประเทศไหนเขาทำ เพียงแต่เวลาที่เหลืออยู่ คาบวิชาเรียนหรือสาระวิชา 8 สาระ ควรจะลดตรงไหนลงบ้าง เพราะหลายอย่างต้องใช้ในการแข่งขัน การสัมภาษณ์ การทัดเทียมต่างประเทศ ก็มีอยู่ แต่บ้านเราต้องเสริมอย่างอื่นด้วย คือ การปลูกฝังอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างกระบวนการ สร้างวิสัยทัศน์ สร้างความรักกันในหมู่คณะ การเสียสละ และอีกมากมาย ไม่อย่างนั้นก็คิดไม่ค่อยเป็น เพราะท่องตำราอย่างเดียว เรียนจากครูโรงเรียน ครูกูเกิล เฟซบุ๊ก แต่ทั้งนี้มันก็จำเป็นเพราะใครไม่มีโทรศัพท์บ้าง