“ประยุทธ์” เผยรับทราบเรื่องเจรจาสันติสุขชายแดนใต้แล้ว ระบุยังไม่ยอมรับการเรียกชื่อ “มาราปัตตานี” บอกอย่าเพิ่งไปตีค่ามากนัก ให้แสดงความร่วมมือให้เห็นก่อน วอนสื่อร่วมมือด้วย อย่าขยายความขัดแย้ง เพราะแทนที่ตกลงกันได้อาจเกิดเหตุรุนแรงตามมา
วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.45 น. ที่ท่าอากาศยานการบินทหาร กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนประเทศฟิลิปปินส์ ถึงกรณีการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้รับรายงานแล้ว เขาคุยเป็นครั้งที่ 2 ที่จริงคุยกันมาเป็น 100 ครั้งแล้ว ต้องหาทางเจอกันให้ได้ หลักของตนคือเราไม่คุยในประเทศไทย เพราะเรามองว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิดกฎหมายใช่หรือไม่ หรือจะบอกว่าไม่ใช่ สิ่งที่เขาทำทั้งฆ่าคนตาย วางระเบิด คือสิ่งที่ผิดกฎหมาย จะไม่เห็นด้วยอะไรก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ต้องมาแก้มาพูดคุยว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแล้วแก้ไขกันตรงนั้น วันนี้ 4-5 กลุ่มต้องมาคุยกัน อะไรที่เดินหน้ากันได้ก็นำมาเข้าอนุกรรมการพูดคุยกัน อย่าไปให้ความสำคัญกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เรามองว่าเขาคือผู้มีความเห็นต่าง อย่าไปเพิ่มศักยภาพในขณะที่เขาไม่ยอมรับอะไรมากนัก ตอนนี้มาหาทางลงและให้เข้าใจว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ยุติให้ได้โดยเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า คิดว่าประชาชนเจ็บปวด เจ้าหน้าที่ก็เจ็บปวด เพราะบาดเจ็บและสูญเสียไม่รู้เท่าไหร่แล้วจะสู้กันไปทำไม รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ไม่มีใครอยากเจ็บอยากตาย อยากจะฆ่าคน ไม่มี และเราก็ได้แสดงความจริงใจไปแล้ว บางคนที่ถูกดำเนินคดีติดคุกอยู่ เมื่อถึงเวลาเราก็เห็นใจ ตัวอย่างก็เห็นอยู่แล้ว ทำไมต้องไปขยายให้พูดกันไม่รู้เรื่องอีก นี่คือสิ่งที่เราต้องไปพูดต่างประเทศเพราะเป็นรัฐ เป็นเจ้าหน้าที่ และพูดกับบุคลที่เห็นต่างซึ่งมีพฤติกรรมการใช้อาวุธสงครามซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถามว่าทั่วไปจะไปพูดกับโจรได้ไหม คุยในประเทศไทยยังไม่ได้เลย ถึงต้องไปคุยกันนอกประเทศ ก็ต้องให้มีคนมาช่วยอำนาจความสะดวกเพราะเขาเป็นเพื่อนเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับทราบประเด็นและข้อเรียกร้องที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีการพูดมานานแล้วและทำมาตลอด เพียงแต่เขาไม่เข้าใจเพราะคิดว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องในความคิดของเขา แต่ตนบอกไปแล้วว่าผิดกฎหมาย ถ้าไม่ทำผิดกฎหมายก็จบไปนานแล้วสามารถแก้ไขปัญหาได้ วันนี้จึงต้องมาดูว่าจะแก้อย่างไร จึงต้องมีคณะทำงานมาดูเรื่องกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย ดูเรื่องมาตรา 21 เรื่องการนิรโทษเมื่อได้รับโทษแล้ว ควบคู่ไปกับการพัฒนาที่ทำมาตลอด โดยฝ่ายการเมืองจะดูแลเกี่ยวกับ ศอ.บต. ขณะที่ทหารและฝ่ายความมั่นคงจะดูแลการบริหารของ กอ.รมน. วันนี้เมื่อตนมาอยู่ตรงนี้ก็เอาสองอย่างมาเดินด้วยกัน จึงชัดเจนขึ้นว่าแม้สถานการณ์จะยังไม่สงบ 100% แต่สถิติการก่อเหตุลดลง สื่อยังพยายามบอกว่ายังไม่ยุติ พูดคุยก็ยังไม่ชัดเจน ถามว่าแล้วจะเอาอย่างไร คนที่เขียนวิจารณ์ก็วิจารณ์ทุกเรื่องแต่ไม่เคยเข้ามาทำ
เมื่อถามว่าในฐานะอดีต ผบ.ทบ.ประเมินอย่างไรที่กลุ่มขบวนการหลายกลุ่มรวมตัวกันมาพูดคุยในชื่อกลุ่มมาราปัตตานี นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ยอมรับการเรียกชื่อของเขาเลย เขาให้ข่าวมาก็อย่าเพิ่งไปตีค่าอะไรมากนัก ให้เขาแสดงว่าจะร่วมมือกับเราอย่างไรดีกว่า เพราะไม่ต้องการให้เขาเสียขวัญและไม่ร่วมมือแก้ปัญหา สื่อก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย หลายเรื่องที่ไปไม่ได้ เพราะมีการขยายความขัดแย้งจนเข้าใจกันไม่ได้ เรื่องใดที่เป็นวาระของชาติสื่อต้องช่วยด้วย ไม่ใช่มีอะไรก็ขุดขึ้นมา กำลังจะพูดคุยกันรู้เรื่องและหาข้อตกลงว่าจะลดความรุนแรงอย่างไรพื้นที่ไหน สื่อก็เริ่มคุ้ยให้ตนพูดแรง จนเขาแรงตอบมา และเกิดมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ก็วนเป็นพายเรืออยู่ในอ่างตลอด ขอให้ใจเย็นๆ เหตุที่เกิดไม่ใช่แค่วันสองวันแต่เกิดขึ้นมาหลายปี