xs
xsm
sm
md
lg

“วัชระ” ชง ป.ป.ช.สอบทุจริตเครื่องสแกน-อสมท ปล่อยทรูผิดสัญญา - “ธาริต” ซุกทรัพย์สิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส.ปชป.เข้ายื่น ป.ป.ช.ตามนัด สอบทุจริตโครงการติดเครื่องสแกนฯ รัฐสภา ชี้ ซื้อมายุค “สุวิจักขณ์” ด้อยคุณภาพแพงเกินจริง ตอนนี้ซ่อมยังใช้ไม่ได้ พร้อมชงสอบทุจริต อสมท ละเว้นไม่เอาผิดทรูผิดสัญญา มีหลักฐานผู้บริหารเพิกเฉยไม่รักษาผลประโยชน์ ดัก เอกชนรู้เห็นต้องโดนด้วย แถมข้อมูลถ่ายโอนทรัพย์สิน “ธาริต” เป็นบ้านหรูและรถ ขายให้อดีตพนักงานห้าง แนะเรียกสอบ เชื่อยังมีซุกอีก

วันนี้ (25 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริตโครงการติดตั้งเครื่องสแกนแบบความเร็วสูง เพื่อตรวจสอบการผ่านเข้าออกของบุคคล ในอาคารรัฐสภา 1-2 วงเงิน 64 ล้านบาท โดยวัชระกล่าวว่า เครื่องสแกนดังกล่าวมีการจัดซื้อโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงที่นายสุวิจักขณ์ นาควัชระ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ นั้น จนถึงปัจจุบันได้มีการซ่อมแซม แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ จึงอาจมีสาเหตุมาจาการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง ซื้อของด้อยคุณภาพแต่ราคาสูงเกินสมควร เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินโดยไม่คุ้มค่า รวมทั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างหลายโครงการที่ไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนได้ จึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบโดยเร่งด่วน เพื่อลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป

นายวัชระเปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้ตนยังได้ยื่นข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตใน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในส่วนของสัญญาร่วมดำเนินการกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกระหว่าง อสมท กับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 57 โดยก่อนสิ้นสุดสัญญา คณะกรรมการและผู้บริหาร อสมท ได้ทราบว่ากลุ่มทรูวิชั่นส์ได้กระทำผิดสัญญา และอาจจะกระทำผิดอาญาต่อ อสมท แต่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิด เป็นเหตุให้ อสมท ซึ่งเป็นหน่วงานของรัฐได้รับความเสียหาย แบ่งเป็น 5 ประเด็น ดังนี้ 1. มีการนำช่องรายการตามสัญญาไปให้บริการในช่องทางอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการให้บริการ True Anywhere 2. การไม่นำส่งค่าโฆษณาของช่องรายการ TNN24 3. ส่วนแบ่งรายได้ที่กลุ่มทรูวิชั่นส์นำส่งไม่ครบถ้วน 4. ทรัพย์สินที่ต้องส่งมอบให้แก่ อสมท ตามสัญญา รวมทั้งการขอซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าความเป็ฯจริง และ 5. การดำเนินกิจการของทรูวิชั่นส์กรุ๊ป ซึ่งมีหลักฐานว่าผู้บริหาร อสมท ได้ทราบถึงความไม่ถูกต้องดังกล่าว แต่เพิกเฉย อีกทั้งยังออกบันทึกข้อตกลงระหว่าง อสมท และทรูวิชั่นส์ ในลักษณะที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ควรได้และต้องเสียไปของ อสมท ซึ่งลงนามโดย นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ อสมท และมีนายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ลงนามเป็นพยาน

“เอกสารเกี่ยวกับ อสมท ทั้งหมดมีนับ 100 หน้า สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตของผู้บริหาร อสมท โดยเฉพาะในส่วนของนายธนะชัย ซึ่งรับมอบหมายจาก อสมท ให้ดูแลเรื่องนี้ กลับปล่อยปละละเลยไม่ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าบริษัททรูวิชั่นส์กำลังหมดสัญญากับ อสมท และมีพฤติกรรมกระทำผิดสัญญามาแล้ว กลับไม่มีมาตรการใดๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ อสมท จึงได้มายื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และหากเอกชนคู่สัญญามีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายวัชระกล่าว

นายวัชระกล่าวอีกว่า ตนยังมีข้อมูลเพิ่มเติมมามอบให้ ป.ป.ช.เพื่อแจ้งเบาะแสการซุกซ่อนถ่ายโอนทรัพย์สินของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จากกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติอายัดทรัพย์สินของนายธาริต และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 40 ล้านบาทเศษ จากกรณีร่ำรวยผิดปกตินั้น ล่าสุด ได้พบหลักฐานจาการที่ประชาชนได้แจ้งข้อมูลว่า นายธาริต ได้มีการซุกซ่อน และถ่ายโอนทรัพย์สิน ด้วยการซื้อบ้าน 1 หลังในหมู่บ้านปริญญดา ซอยสามัคคี อำเภอเมืองนนทบุรี ให้กับ น.ส.สุทธิมา จันดาคูณ และในช่วงที่ ป.ป.ช.อายัดทรัพย์สิน ได้มีการขายบ้านดังกล่าวในราคาเพียง 5 ล้านบาท จากมูลค่าจริงอยู่ 6-7 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังมีรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ราคามากกว่า 3 ล้านบาท และจักรยานยนต์ ทะเบียน สวย 0999 กทม. จึงตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.สุทธิมา ซึ่งเป็นอดีตพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งจะสามารถซื้อบ้านหลังดังกล่าว พร้อมทั้งรถยนต์ได้อย่างไร จึงอยากให้ ป.ป.ช.เรียกนายธาริตมาสอบถามถึงความสัมพันธ์กับ น.ส.สุทธิมา ว่ามีความเกี่ยวพันธ์กันหรือไม่ โดยขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินของนางสางสุทธิ มาด้วย เพราะตนเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่น่าจะได้จากการร่ำรวยผิดปกติของนายธาริต จึงขอให้ ป.ป.ช.ติดตามอาญัติทรัพย์สินนายธาริตที่ได้มีการซุกซ่อนถ่ายโอนไว้กับบุคคลอื่นต่อไป และเชื่อว่าอาจมีการซุกซ่อนถ่ายโอนทรัพย์สินในรายการอื่นๆ อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น