“หม่อมอุ๋ย” ย้ำ นายกฯ ไม่เคยบอกให้อยู่ในตำแหน่งไหน ปัดถูกทาบเป็นที่ปรึกษาฯ ตำแหน่งเดิม “สมคิด” ด้าน “สุวิทย์ เมษินทรีย์” ยื่นลาออก สปช.แล้ว เผยหลังได้รับโปรดเกล้าฯ “สลน.” เตรียมส่งสำนักราชกิจจานุเบกษาประกาศลงในเว็บไซต์ราชกิจจาฯ เย็นนี้
วันนี้ (19 ส.ค.) มีรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าจะมีการสลับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจ และให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นที่ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแทนนั้น เรื่องนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรปฏิเสธว่านายกรัฐมนตรียังไม่เคยบอกตนว่าจะต้องไปอยู่ตำแหน่งใด โดยเฉพาะในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (18 ส.ค.)
“ไม่สำคัญ นายกฯ ท่านไม่ได้บอกอะไร ไม่ได้บอกว่าจะให้ท่านใดไปอยู่ตรงไหน เพียงแต่กล่าวรวมๆ และไม่มีการคุยกันตัวต่อตัวเลย ไม่ทราบว่าใครอยู่ที่ไหน ไม่เคยมีตำแหน่งนี้ (ประธานปรึกษานายกรัฐมนตรี) ปัจจุบันมีแต่ตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อยู่ในตำแหน่งอยู่เปลี่ยนไม่ได้”
ต่อคำถามที่ว่าหากมีการทาบทามให้ไปเป็นที่จะรับหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจตอบว่า “ไม่สำคัญ สำคัญคือไม่ได้เคยบอกผม ไม่เคยบอก ไม่เคยติดต่อ ก็เลยไม่รู้ ที่ประชุม ครม.เมื่อวานท่านนายกฯ ไม่ได้พูดเลย เพียงแต่พูดรวมๆ และไม่มีการคุยกันตัวต่อตัวไม่มี เลยไม่รู้ว่าใครอยู่ตรงไหน” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
มีรายงานว่า วันนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้เดินเท้ามาเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน ครั้งที่ 2/2558 ที่อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวยอมรับได้ยื่นจดหมายลาออกจากการเป็นสมาชิก สปช.และได้เรียนให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ให้รับทราบแล้ว เพื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งนี้ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นสาเหตุถึงการตัดสินใจและเหตุผลของการตอบรับเข้าร่วมเป็นรัฐมนตรี เพียงระบุว่า “ขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับผู้ใหญ่อยู่”
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า หากมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้รับมอบหมายให้นำประกาศรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ เสนอผ่านทางสำนักราชกิจจานุเบกษาก่อน เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของพระบรมราชโองการ ซึ่งภายในช่วงเย็นวันนี้จะมีประกาศลงในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาต่อไป
