“วิษณุ” ยังไม่คิดแก้คำสั่งคุมความสงบเข้มขึ้น ชี้ราชประสงค์เคยชุมนุมเป็นจุดเสี่ยง

รองนายกฯ เผยคงใช้มาตรา 44 คำสั่งที่ 3 ดูแลความสงบ ใช้ ตร.ตามปกติ ไม่มีแนวคิดแก้คำสั่งให้เข้มข้นขึ้น แต่หากพบมีความสับซับซ้อนส่อบานปลาย ต้องคิดคำสั่งใหม่ หวังไม่ถึงขั้นนั้น ดักบึ้มกลางกรุงมองเป็นการหยามรัฐบาลทหารคงไม่ถูก ชี้มีหลายสาเหตุ ย้อนรัฐบาลพลเรือนก็เจอ ทราบราชประสงค์เคยมีชุมนุม มองเป็นสัญลักษณ์ไม่ถูกนัก รับถือเป็นจุดเสี่ยง

วันนี้ (19 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมว่า ในขณะนี้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว คำสั่งที่ 3 ที่ระบุให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารในการเป็นเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันและปราบปรามเหตุไม่สงบต่อความมั่นคง และมีอำนาจเรียกบุคคลรายงานตัว เข้าเคหสถานตรวจค้น รวมถึงจับกุมตัวและช่วยเหลือเจ้าพนักงานสืบสวนนั้น ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ยังไม่มีแนวคิดที่จะแก้ไขคำสั่งให้มีความเข้มข้นขึ้นแต่อย่างใด ขณะนี้ยังมองไม่เห็นความจำเป็นอะไร ยังสามารถใช้มาตรการตำรวจตามปกติได้อยู่ และมาตรการตามคำสั่งมาตรา 44 ที่ได้เคยออกไว้แล้วก็ยังคงใช้ได้อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการใช้คำสั่งที่ 3 ในการให้เจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นเคหสถานต่างๆ หรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่เคยทำถึงขั้นนั้น เขียนอำนาจไว้ให้เต็ม แต่เวลาใช้จริงนั้นจะเลือกใช้ ส่วนถ้าต่อไปพบเบาะแสใดๆ ที่แสดงถึงความสลับซับซ้อนวุ่นวาย และอาจจะบานปลาย คำสั่งที่ 3 ตามมาตรา 44 อาจจะเอาไม่อยู่ ก็ต้องคิดคำสั่งใหม่ ขณะนี้หวังว่าอาจจะไม่จำเป็นถึงขั้นนั้น เพราะวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และสาเหตุคืออะไร

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในรัฐบาลทหารขณะนี้ ถือว่าเป็นท้าทายรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่จะมอง แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการท้าทาย เหตุเช่นนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุโดยที่เราก็ไม่รู้ว่าต้นเหตุจริงๆ คืออะไร พวกก่อกวนก่อความรำคาญก็มี พวกหวังผลทางการเมืองก็มี พวกหวังให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยทำลายเศรษฐกิจซึ่งคนละอย่างกับพวกก่อความรำคาญก็มี พวกที่เป็นอิทธิพลการเมืองนอกประเทศก็มี และก็มีอีกหลายกรณี ดังนั้นจะมองว่าเป็นการหยามน้ำหน้ารัฐบาลทหารก็คงไม่ถูก

“ผมคิดว่าไม่น่าจะขนาดนั้น รัฐบาลพลเรือนก็เจอมาตลอด ผมเคยอยู่กับรัฐบาลมาหลายชุด ทราบเรื่องโยนระเบิดที่นั่นที่นี่หลายครั้ง เพียงแต่ว่าไม่เคยเสียชีวิตมากขนาดนี้ เราจัดไว้ในประเภทก่อกวน สร้างความรำคาญ ในอดีตเขาอาจจะต้องการสังหารคนก็ได้ อาจจะบังเอิญไม่มีใครเดินผ่านเท่านั้น อย่างการโยนระเบิดที่ท่าเรือสาทรนั้นก็ไม่ทราบว่าจงใจโยนลงน้ำหรือตั้งใจโยนไปท่าเรือแล้วพลาดไปลงน้ำ ก็ต้องรอฟังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมไม่ทราบ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ” รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า พื้นที่ราชประสงค์เป็นพื้นที่สัญลักษณ์ทางการเมือง มองได้หรือไม่ว่ามีความเชื่อมโยงกับการเมือง นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่รู้สาเหตุ คงตอบไม่ถูก แต่พื้นที่ตรงนั้นจะเรียกว่าเป็นพื้นที่สัญลักษณ์ทางการเมืองก็ไม่ถูกนัก ตนรู้อย่างเดียวว่ามันเคยมีการชุมนุม เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นที่ชุมนุมก็ถือเป็นจุดเสี่ยงทั้งนั้น และคนที่คิดจะทำนั้น หากคิดจะก่อความรำคาญก็ต้องก่อในที่อีกแบบหนึ่ง ถ้าทำอย่างนั้นในที่อีกแบบหนึ่งก็อาจจะเป็นเหตุทางการเมืองหรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่การก่อรำคาญ ก็ตอบไปเล่นๆ โก้ๆ แบบนี้ จริงๆ ไม่ได้รู้อะไร