สื่อมวลชนของญี่ปุ่นชี้ว่า เหตุระเบิดครั้งร้ายแรงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ถือเป็นการท้าทายอำนาจของรัฐบาลคณะทหาร และการ “คืนความสงบ” ให้กับประเทศไทยจะเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพของ คสช.
สื่อมวลชนของญี่ปุ่นส่วนใหญ่รายงานเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ พื้นที่ที่คึกคักที่สุดของกรุงเทพมหานคร โดยใช้คำว่า “การก่อการร้าย” テロ โดยระบุว่า ไม่ว่าเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจากฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติหรือ ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ แต่ถือว่าเป็นการท้าทายรัฐบาลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.
สำนักข่าวของญี่ปุ่น รายงานว่า ถึงแม้ทางภาคใต้ของไทยจะมีเหตุความไม่สงบจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้สามารถก่อเหตุร้ายแรงในกรุงเทพฯได้ ขณะที่ความขัดแย้งทางการเมืองในไทยที่ยืดเยื้อมาหลายปีก็ดูเหมือนว่าจะสงบเงียบลง ภายหลังการควบคุมอำนาจการปกครองของคสช.
อย่างไรก็ตาม สื่อญี่ปุ่นตั้งคำถามว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้มีเบื้องหลังจากความไม่พอใจรัฐบาลทหารหรือไม่?” โดยระบุว่า เหตุก่อการร้ายครั้งนี้ได้สั่นคลอนภาพลักษณ์ที่ คสช. สามารถควบคุมความไม่สงบทางการเมืองและสังคมลงไป พร้อมให้ข้อมูลภูมิหลังว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างหนักจากกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มชาวรากหญ้าที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้เกิดเหตุรุนแรงหลายครั้ง จนทำให้สังคมเต็มไปด้วยความไม่สงบ และนำไปสู่การรัฐประหารถึง 2 ครั้งในรอบ 14 ปี
“การยึดอำนาจครั้งล่าสุดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จในการระงับบทบาทของกลุ่มขัดแย้งทางการเมือง หากแต่ความจริงแล้วความไม่พอใจของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล รวมทั้งกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอิสลามทางภาคใต้ เพียงแต่ถูกกดดันไว้ภายใต้ผิวน้ำเท่านั้น”
ด้านสถานีโทรทัศน์ NHK ได้ให้ข้อมูลด้วยว่า ในช่วงประกาศใช้กฎอัยการศึก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ก็เกิดเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าที่ห่างออกไปเพียงแค่ 500 เมตรจากจุดเกิดเหตุเมื่อวันจันทร์ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังติดตามตัวคนร้ายไม่ได้
สื่อแดนอาทิตย์อุทัย ระบุว่า หากเหตุครั้งนี้เป็นการก่อการร้าย ก็ถือเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยการรักษาความสงบเรียบร้อยและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติให้ได้อย่างแท้จริง ถือเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพของรัฐบาลคสช. ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จมากกว่ารัฐบาลปกติอย่างมาก.