“ประวิตร” วอนเสื้อแดงเข้าใจถอดยศ “ทักษิณ” ทำตามกฎหมาย - แย้ม ผบ.ทบ.ใครก็ได้

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้การถอดยศอดีตนายกฯ ทักษิณเป็นไปตามขั้นตอน วอนเสื้อแดงเข้าใจทำตามกฎหมาย ไม่ได้แกล้งใคร ปัดตอบปรับ ครม. ลั่นทุกคนเป็นมืออาชีพ ไม่มีปัญหาเสนอคำถามประชามติตั้ง “รัฐบาลปรองดองแห่งชาติ” แต่ต้องตกลงพรรคการเมืองให้ดี ปัดล้วงลูกโผทหาร บอก ผบ.ทบ.เป็นใครก็ได้ หยอดทุกคนเป็นน้องรัก



วันนี้ (12 ส.ค.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1.รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะทำงานกระทรวงยุติธรรมที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน มีความเห็นให้ดำเนินการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาหนีคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ว่าเป็นไปตามนั้นไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะต้องเดินไปตามขั้นตอน อีกทั้ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก็ให้สัมภาษณ์ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าจะดำเนินการทันหรือไม่ ทั้งนี้ทุกอย่างต้องดูกฎหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจน

เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ของรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เราดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเรื่องการตัดสินใจอะไร ที่ผ่านมาการดำเนินการดังกล่าวก็ไม่ได้เงียบหายไป แต่มีขั้นตอนให้ผู้ที่จะดำเนินการต้องส่งความเห็นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการ โดยมีทุกฝ่ายมาร่วมกัน

เมื่อถามว่ากังวลเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรรีบตอบว่าไม่กังวลใจ เพราะเป็นเรื่องที่ทำตามกฎหมาย ตนไม่กังวล เพราะไม่ใช่เรื่องของการตัดสินใจ แต่ใช้กฎหมายทั้งหมด ส่วนมวลชนที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เราไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใครทั้งนั้น รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเรื่องนี้ต้องแล้วแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าให้สัมภาษณ์อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น นายกฯ คิดอยู่ทุกวันว่าจะทำอย่างไรและนำใครไปไว้ที่ไหน ทั้งหมดก็เป็นมืออาชีพด้วยกันทั้งนั้น เวลานี้อะไรก็ทำได้เต็มที่ อะไรต่างๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย รัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงาน แต่การสร้างความเชื่อมั่นของแต่ละบุคคลก็ลำบาก ประชาชนก็ต้องดูว่าใครเป็นใคร

“จะปรับหรือไม่ปรับ ครม. เราก็ต้องพยายามขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าให้ได้ ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมดต้องช่วยกัน นายกฯ ก็บอกแล้วว่าจากที่ไปสิงคโปร์มาก็เห็นยุทโธปกรณ์ของเขาว่ามีเป็นจำนวนมาก แม้จะเป็นประเทศเล็กแต่มีทุกอย่าง เขาไม่ได้มีเพื่อไปรบกับใคร แต่มีเพื่อป้องกันดูแลประชาชนของเขา” พล.อ.ประวิตรกล่าว

เมื่อถามว่า คนที่ถูกปรับออกจาก ครม.นั้นต้องเสียสละเพื่อประเทศ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอคำถามประชามติตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศว่า เป็นความคิดของนายบวรศักดิ์ เชื่อว่านายบวรศักดิ์อยากให้เกิดความปรองดอง แต่ถามว่าทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ดี ตนไม่มีปัญหา แต่จะได้หรือไม่ก็ไปตกลงกัน โดยเฉพาะพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าให้ได้ และทำให้ประชาชนมีความสุข

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ตนพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ดำเนินการ ที่ต้องใช้ดุลพินิจอย่างเต็มที่ดูว่าสิ่งสมควรหรือไม่สมควร ส่วนร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน ทาง สปช.ก็ต้องออกอยู่แล้ว ดังนั้น สปช.สามารถใช้ความคิดได้เต็มที่

“ทุกคนในประเทศต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ศาล และประชาชนต้องร่วมมือกัน นานแล้วที่ไม่เกิดความปรองดอง ไปตีกัน ผมไม่เห็นว่าจะดี มีแต่เสียชีวิต และเกิดความขัดแย้ง อย่าไปทำเลย” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 หลังจากนัดทุกเหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ว่า ตนเชื่อว่าก่อนที่ทุกเหล่าทัพจะส่งรายชื่อมาให้กระทรวงกลาโหมก็ต้องมีความมั่นใจแล้ว และตนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้ แต่ขณะนี้จะส่งมาครบทุกเหล่าแล้วหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะรายชื่อทั้งหมดของทุกเหล่าทัพจะต้องรวบรวมส่งให้กับ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลก่อน ดังนั้นตนไม่ทราบรายละเอียด

ส่วนจะประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลวันใดนั้นไม่ขอบอก แต่ยืนยันว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับแผนงานตามที่กฎหมายเขียนไว้ อย่างไรก็ตาม หลักการการพิจารณาคัดเลือกคนยังคงเหมือนเดิมคือพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความอาวุโส และผลงานที่ผ่านมาในอดีต ทั้งนี้จะดำเนินการให้ดีที่สุดและเร็วที่สุด

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่กับการพิจารณาครั้งนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่หนักใจ ส่วนผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่นั้นใครจะมาเป็นก็ได้ ข่าวก็เขียนมโนกันไปว่าคนนั้นเป็นน้องรัก และคนนี้ไม่ใช่น้องรัก แต่ทุกคนเป็นน้องรักของตนทั้งหมด