“สรรเสริญ” เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวสดใส มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแล้วกว่า 17 ล้าน มั่นใจถึงสิ้นปียอดพุ่ง 30 ล้าน มากกว่าเป้าที่วางไว้ คาดเดือนตุลาคมวันชาติจีนมีนักเที่ยวเพิ่มเท่มตัว หวังไทยเที่ยวไทยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีมากขึ้น ขณะเดียวกัน เผยนายกฯ ขอบคุณทีมฝนหลวงปฏิบัติการมาราธอนตลอด 160 วัน ช่วยไทยสู้วิกฤตแล้งจนเข้าฤดูฝน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวว่า ยังสดใสต่อเนื่อง โดยนับจากเดือนมกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 17.5 ล้านคน นำเงินตราเข้าประเทศ 818,439 ล้านบาท มั่นใจว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 29-30 ล้านคน มากกว่าเป้าหมายที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ตั้งไว้ที่ 28.8 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศราว 1.6-1.8 ล้านล้านบาท สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.4 ล้านล้านบาท
“ในช่วงวันที่ 1-7 ต.ค ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวเฉลิมฉลองวันชาติจีน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาประเทศไทยมากขึ้นเป็นเท่าตัว จากเฉลี่ยเดือนละ 500,000-600,000 คน เพิ่มเป็น 800,000-900,000 คน รวมทั้งการที่ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ทำให้เป็นปัจจัยบวกกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้ตัดสินใจมาประเทศไทยง่ายขึ้น และเมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันมาเยือนประเทศไทยราว 1,200,000 คน จากปกติประมาณ 700,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มักจะพำนักในประเทศไทยประมาณ 14-15 วัน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยและผู้ประกอบการไทย”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า สำหรับตัวเลขการท่องเที่ยวภายในประเทศของพี่น้องประชาชนคนไทยในช่วง 7 เดือนแรกอยู่ที่ 139 ล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่าด้านการท่องเที่ยว 400,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะยังไม่เป็นตามเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 800,000 ล้านบาท
“อยากขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านได้ร่วมท่องเที่ยวในประเทศ และใช้สิทธินำค่าใช้จ่ายในการพักโรงแรม หรือการจองโปรแกมนำเที่ยวกับบริษัททัวร์ มาหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท ซึ่งยังสามารถใช้สิทธิได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ อยากกระตุ้นให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ร่วมมือกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลด้วยการจัดอบรมสัมมนาและดูงานภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบต่อไป”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและหน่วยปฏิบัติฝนหลวงทุกหน่วย ที่เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยฝ่าฟันช่วงวิกฤตภัยแล้งที่ผ่านมา ด้วยการทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ต่อเนื่อง 160 วัน นับตั้งแต่วันที่ประเทศเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 10 สิงหาคม โดยหน่วยปฏิยัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินรวม 4,042 เที่ยวบิน รวมชั่วโมงบิน 5,583 ชั่วโมงบิน และปฏิบัติการสำเร็จทำให้เกิดฝนตกร้อยละ 92.3 ของจำนวนวันที่ขึ้นทำการบิน
“ท่านนายกฯ ขอบคุณในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ต่อเนื่อง ไม่ย่อท้อ และไม่มีวันหยุดพัก ถือเป็นปฏิบัติการมาราธอน ที่สมควรได้รับการยกย่องชื่นชม กล่าวได้ว่าประเทศไทยผ่านช่วงวิกฤตภัยแล้งและจำกัดผลกระทบเหลือน้อยที่สุดได้ มิใช่เรื่องของโชคช่วยแต่เป็นผลจากการทำงานอย่างหนัก และทุ่มเทจากทุกฝ่าย”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า นอกจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงซึ่งกระจายอยู่ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว ท่านนายกยังฝากขอบคุณศูนย์ฝนหลวงพิเศษ อีก 2 หน่วย คือ ศูนย์ฝนหลวงพิเศษจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝนหลวงพิเศษจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน รวมปฏิบัติการ 40 วัน 642 เที่ยวบิน 1,013 ชั่วโมง ทำให้ฝนตกจากปฏิบัติการร้อยละ 100 และส่งผลให้มีปริมาตรน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ 1,204 ล้าน ลบม.
“แม้ว่าขณะนี้ประเทศจะผ่านพ้นภาวะน้ำแล้งแล้วอย่างสมบูรณ์ แต่ท่านนายกฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานนำบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเป็นบทเรียนในการเตรียมพร้อมและปรับตัว อาทิ การเร่งจัดหาแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็กในชุมชนกระจายในพื้นที่แล้งซ้ำซาก การปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ รวมทั้งการติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนบริหารจัดการล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเสี่ยงกับภาวะน้ำแล้งในฤดูร้อนหน้าอีก”