“กรมน้ำ” เดินหน้าทำแผนยุทธศาสตร์ประเทศแก้ท่วม-แล้ง ชี้น้ำเขื่อนยังน้อยน่าเป็นห่วง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กรมทรัพยากรน้ำระดมสมองจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ เพื่อการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และคุณภาพน้ำของประเทศ เผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศยังมีน้อยน่าเป็นห่วง เหตุน้ำไม่ลงอ่างฯ ขอความร่วมมือประชาชนประหยัดน้ำ

วันนี้ (4 ส.ค.) ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนา “แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ” และการบริหารจัดการภัยแล้ง โดยมีคณะกรรมการพื้นที่ลุ่มน้ำมูล 6 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และจ.อำนาจเจริญ และกลุ่มผู้ใช้น้ำ รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าร่วมประชุม จัดโดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ

ทั้งนี้ เพื่อเผยแพร่และเสริมสร้างความเข้าใจในแผนยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้แก่ทุกภาคส่วน และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายจะได้รับฟัง เสนอแนะ และร่วมมือกันในการผลักดันขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำไปสู่การปฏิบัติในแต่ละช่วงระยะเวลาของเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องและบูรณาการในทุกมิติ

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อกำหนดกรอบนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และคุณภาพน้ำของประเทศ ให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและบูรณาการ และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน 5 คณะเพื่อดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการดำเนินงานประกอบด้วย การชี้ปัญหา การวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา การกำหนดยุทธศาสตร์ การจัดทำกลยุทธ์ แนวทางการดำเนินงาน และการจัดทำกรอบแผนยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการในระดับลุ่มน้ำ ระยะเร่งด่วน ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเน้นการแก้ไขปัญหาเป็นระบบลุ่มน้ำและกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

นายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศขณะนี้ยังถือว่าน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางยังถือว่าน่าห่วง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้มีทั้งพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมและน้ำแล้ง ฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญจะต้องหาแนวทางในการแก้ไข เช่น ภาคอีสาน อาจจะมีการผันน้ำจากลุ่มน้ำโขงกลับขึ้นมาใช้ประโยชน์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญในการที่เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำโดยเฉพาะพื้นที่ใต้เขื่อนและที่ดอน หากมีแหล่งน้ำเป็นของตัวเองก็จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปได้

ทั้งนี้ ยังคงต้องขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยกันประหยัดน้ำเพื่อให้ผ่านวิกฤตแล้งนี้ไปได้