คสช. ใช้มาตรา 44 เด้ง “พงศกร รอดชมภู” พ้นรองเลขา สมช. เผยเป็นเพื่อนซี้ “ภราดร” อดีตเลขาฯ สมช. ยุค “ยิ่งลักษณ์” ปูดเคยโดนสอบฐานชงเรื่องจัดซื้ออาวุธนับหมื่นล้าน ขัดนโยบายหน่วยงานเชิงนโยบาย
วันนี้ (23 ก.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 21/2558 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง โดยระบุว่า เพื่อให้การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินด้านความมั่นคง และการบริหารราชการในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. จึงมีคำสั่ง ดังนี้ 1. ให้ พล.ท.พงศกร รอดชมภู พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการ สมช. และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ และ 2. ให้ นายปกรณ์ ศรีจันทร์งาม พ้นจากตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ สมช. และให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สมช. โดยให้ข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งข้างต้นปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ พล.ท.พงศกร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) รุ่นเดียวกับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการ สมช. สมัยที่ พล.ท.ภราดร เป็นเลขาธิการ สมช. อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่นายถวิล เปลี่ยนศรี กลับเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เคยระบุว่า งานแรกที่จะทำหลังจากเข้ารับตำแหน่ง คือ การตรวจสอบ พล.ท.พงศกร เนื่องจากทราบว่า เป็นตัวตั้งตัวตีในการเป็นตัวแทนจัดซื้ออาวุธที่จะนำไปใช้งานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีมูลค่าโครงการนับหมื่นล้านบาท ถือเป็นการกระทำที่ผิดหลักการของ สมช. ที่เป็นหน่วยงานเชิงนโยบาย
