“อุดมเดช” นั่งประธานประชุมสภากลาโหมแทน “ประวิตร” ที่ป่วย พร้อมถกภัยแล้ง เชื่อสถานการณ์คลี่คลาย หลังพบอ่างเก็บน้ำมีน้ำเพิ่ม เล็งปล่อยลงพื้นที่เกษตร โต้ทหารใช้ความรุนแรงชาวบ้าน รอคุยรองเสธ.ทบ.ปมก๊วนกอล์ฟ “ชูวงษ์” เชื่อไม่น่าเกี่ยวคดี เผยโผทหารไม่ได้เร่งรัด ยังมีเวลา ก่อนมอบรางวัลผลงานนวัตกรรมกลาโหม ย้ำให้ความสำคัญเพื่อใช้ประโยชน์กองทัพ ทร.โชว์ไอเดียทำปราบจลาจลแห่งอนาคต
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรไม่สบาย โดยมี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ
โดย พล.อ.อุดมเดชให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า การประชุมสภากลาโหมในวันนี้เพื่อแจ้งให้ทราบงานต่างๆ พร้อมทั้งเน้นย้ำมติผลการประชุม ครม.ที่ผ่านมาว่าหน่วยงานความมั่นคงมีภาระหน้าที่ต้องช่วยรัฐบาลบางเรื่อง ทั้งในการช่วยเหลือประชาชน เกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำ ภัยแล้งต่างๆ กองทัพมีส่วนช่วย และรัฐบาลได้สั่งการมาแล้วว่าต้องมีการบูรนาการกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทยที่ต้องดูแลในภาพรวม โดยใช้การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายความมั่นคง คือ คสช. ในเรื่องกำลังทหาร ที่ต้องดูแลในเรื่องของระบบน้ำ และได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว
พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามีความจำเป็น เราพยายามอธิบายให้ประชาชนได้รับทราบและให้ความร่วมมือในการที่จะไม่ละเมิดการใช้น้ำที่ถูกปล่อยไปสู่การอุปโภคบริโภคเป็นหลัก แต่ในเรื่องการเกษตรต้องชะลอไว้ช่วงหนึ่ง แต่ทราบว่าในวันนี้จะมีการประชุมร่วมกัน และในส่วนใดที่สามารถช่วยเหลือเรื่องรับน้ำเพื่อการเกษตรในบางพื้นที่ได้ โดยมีกติกาอยู่แล้ว ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าจะดูในรายละเอียดว่าส่วนใดที่มีความจำเป็นก็จะปล่อยน้ำในช่วงการเกษตรตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในส่วนของฝ่ายความมั่นคงเอง ทหารจะต้องดูแลทำความเข้าใจกับประชาชนพร้อมทั้งรับทราบแนวทางจากระทรวงเกษตรฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย
“คิดว่าปัญหาคงคลี่คลาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความกังวลมาก ทั้งในเรื่องการบรรเทาความเดือนร้อนและการทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ และมีความต้องการ เราก็ต้องงทำความเข้าใจกันต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็มีมีปัญหาอะไร มีเพียงส่วนน้อย และมีการสอบถามกันมาว่าจะใช้ความรุนแรงอะไรหรือไม่ ตรงนี้ขอยืนยันว่าไม่มีการใช้ความรุนแรง ตามที่มีข่าวออกไปว่าทหารจะใช้อาวุธไปบังคับ ซึ่งการลงพื้นที่ของทหารที่จะไปช่วยเหลือประชาชน ไม่มีการใช้อาวุธอยู่แล้ว ทั้งนี้แต่ละพื้นที่กำลังพลที่ลงไปทั้ง พลทหาร นายสิบ แต่ละคนเป็นคนในพื้นที่ทั้งนั้น เขาคือลูกหลายประชาชน บ้านเขาก็ขาดน้ำเหมือนกัน แต่เข้าก็ต้องไปทำหน้าที่พร้อมทั้งสื่อให้ประชาชนได้เข้าใจ ผมคิดว่าตั้งแต่เย็นวันนี้เป็นต้นไปเรื่องต่างๆ น่าจะคลี่คลายลง เพราะน้ำจากแอ่งเก็บน้ำต่างๆ เริ่มมีแล้ว และจะมีการปล่อยน้ำลงพื้นที่ตามลำดับความเร่งด่วน” พล.อ.อุดมเดชกล่าว
พล.อ.อุดมเดชกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัว พล.ท.ศุภกร สงวนชาติสรไกร รองเสนาธิการทหารบก สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เนื่องจากมีความสนิทสนมกันว่า ต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง ถึงจะมีชื่อ พล.ท.ศุภกรเข้าร่วมก๊วนตีกอล์ฟบางกับนายชูวงษ์ก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ก็ไม่ได้ความว่าจะเกี่ยวพันคดี ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน ทั้งนี้ตนยังไม่ได้คุยกับกับ พล.ท.ศุภกร ต้องรอสอบถามข้อมูลก่อน คิดว่าไม่น่ามีปัญหา คาดว่าคงไม่อะไรเกี่ยวพัน
พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อถึงบัญชีปรับย้ายนายทหารประจำปี 2558 ว่ายังพอมีเวลา ในส่วนของเหล่าทัพก็ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นไปแล้ว และทาง พล.อ.ประวิตรยังไม่ได้เร่งรัดอะไร เพราะยังมีเวลาอยู่
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังเป็นประธานการจัดงานมอบรางวัลผลงานวัตกรรมของกระทรวงกลาโหม ประจำปี 2558 และมอบรางวัลนักวิจัยดีเด่นของประทรวงกลาโหม โดยปีนี้มีกำลังพลส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 70 ผลงานที่ได้รับรางวัลในด้านนวัตกรรมด้านหลักการ 6 รางวัล และผลงานนวัตกรรมด้านยุทโธปกรณ์ จำนวน 18 รางวัล เช่น การผ่าตัดต้อกระจกสุกด้วยเลอปรัชญ์ ระบบตรวจการณ์เพื่อต่อต้านและป้องปราบภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ผลงานที่ได้วิจัยแบ่งออกเป็นเรื่องระบบการสื่อสาร สารสนเทศและคอมพิวเตอร์ เครื่องช่วยฝึกและการป้องกันกำลังรบ สิ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และบรรเทาสาธารณภัย วิศวกรรมยานรบและอากาศยาน ยุทธภัณฑ์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการรบและการช่วยรบ โดย พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาต่อยอดและการสร้างนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การผลิตและการบริการที่ทันสมัย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกองทัพต่อไป ทั้งนี้ขอให้ทุกหน่วยได้ให้ความสำคัญงานวิจัยและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้กองทัพสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือได้ออกแบบชุดแห่งอนาคตเป็นชุดปราบจลาจล มีหมวกกันกระสุนขนาด 9 มม. และมีเสื้อเกราะกันกระสุน พร้อมเครื่องทำความเย็น