เกาะกระแส
00 ในประเด็นอื่นๆ ยังไม่อยากพูดถึงในเวลานี้ แต่สำหรับบทบัญญัติที่เกี่ยวกับ "คุณสมบัติต้องห้าม" ในรธน.ฉบับใหม่ ที่กำลังยกร่างใกล้จะสรุปเสร็จสิ้นกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ต้องบอกว่า"สุดยอด" โดนใจที่สุด เพราะนั่นเท่ากับว่า เป็นการสกัดกั้นนักการเมืองที่ "เคยโกง" ไม่ให้เข้าสู่สนามการเมืองตลอดชีวิต เป็นการตัดวงจรอุบาทว์ได้อย่างดี ขณะเดียวกันยังเป็นการป้องกัน "นักโกงหน้าใหม่" ในอนาคนอีกด้วย เพราะผลที่จะตามมามันจะไม่คุ้มค่า อย่างไรก็ดี หากจะให้ได้ผลดีมันก็ต้องมี "ระบบการตรวจสอบ" และลงโทษที่เฉียบขาดตามมาด้วย
00 นั่นก็หมายความว่า จะต้องมีองค์กรอิสระ ที่ออกแบบให้อิสระจริง มีที่มาที่อิสระ ปลอดจากการครอบงำจากทุกฝ่าย ที่สำคัญเราได้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางไปแล้วแค่ไหน การ "ปฏิรูปตำรวจ" ที่เป็นความต้องการของประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง ตอนนี้ไม่เห็นขยับเขยื้อนไปไหน ซึ่งที่ผ่านมาดูจากอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. คงไม่แตะต้องแล้ว ส่วนสาเหตุจะเป็นเพราะเกรงใจพี่ๆน้องๆ ในวงการหรือเปล่า แต่ถ้าให้กล่าวกันแบบตรงไปตรงมาก็ต้องบอกว่า "ท่าดีทีเหลว" การปฏิรูประบบอัยการ ก็ยังไม่มีการขยับ หากจะบอกว่า ระบบที่เป็นอยู่ ดีอยู่แล้ว ก็ต้องยืนยันว่าไม่ใช่ แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่เป็นข่าวน่าสงสัยเรื่องการ "สั่งคดี" แต่ในอนาคตมันไม่มีหลักประกันอะไร โดยเฉพาะหากยังมีอัยการเข้าไปเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจสำคัญ ซึ่งถือว่า "มีส่วนได้เสีย" โดยตรง และที่ผ่านมาก็เคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว จากคดีทุจริตจัดซื้อซีทีเอ็กซ์ !!
00 สำหรับรายนี้ แม้จะดูเงียบๆ แต่ที่ผ่านมาไม่น่าเชื่อว่ากลับเป็นที่จดจำของชาวบ้าน ใช่แล้วกำลังพูดถึง รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่ยังคงเดินหน้าติดตามพวกที่ทำผิด มาตรา 112 และกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงอื่นๆ อย่างน้อยก็มีความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งหนังสือไปถึงเอกอัครราชทูตของประเทศ ที่มีผู้ต้องหาหลบหนี และไปเคลื่อนไหวอยู่ที่นั่น ซึ่งมีทั้งขอตัว และให้สอดส่องพฤติกรรมเอาไว้บ้างว่า อย่าปล่อยให้เคลื่อนไหวโดยเสรีนัก แม้ในความเป็นจริงคงได้ผลยาก แต่อย่างน้อยก็เป็นการกระตุ้นเตือนว่า เราคิดอย่างไร ต้องแสดงท่าทีกลับไปบ้าง !!
00 ยกมาเป็นกระแส "ขี้ปาก" ของพวกขี้ข้าครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาอีกครั้งตามจังหวะเวลาที่ปีนี้ นายใหญ่ของคนพวกนี้จะอายุครบ 66 ปี ในวันที่ 26 ก.ค. ตามข่าวอ้างว่า คสช.ไม่อนุญาตให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกนอกประเทศ ไปร่วมฉลองกับพี่ชาย รวมไปถึงลิ่งล้อในพรรคเพื่อไทย ก็ถูกห้าม ล่าสุด พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก และรองเลขา คสช. ก็ออกมาเฉลยว่า เฉพาะตัว ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศ ไม่ใช่ คสช.สั่ง ส่วนคนอื่นส่วนใหญ่ถ้าไม่มีคดีก็อนุญาต ก็ตามนั้นนะ อ้อ!! สำหรับ ยิ่งลักษณ์ กำลังตกเป็นจำเลยคดีรับจำนำข้าวมิชอบ และกำลังจะตามมาอีกหลายคดี หากออกไปก็อาจ "หนี" เหมือนพี่ชาย แต่ถ้าไม่ให้ยุ่งยากก็บอก ทักษิณ กลับเข้ามาซี มาฉลองกันในเมืองไทย จะได้อบอุ่นไงล่ะ !!
00 ทำดีก็ต้องชมเชย สำหรับคำสั่งของ ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ที่ได้สั่งการหน่วยงานในกองทัพบกทั่วประเทศ เปิดโครงการ "อาหารจานด่วนราคาพิเศษ" ออกจำหน่ายช่วยเหลือประชาชน ในราคาไม่เกินจานละ 20 บาท แม้ว่ามองบางมุมอาจเป็นการแย่งรายได้แม่ค้าแม่ขายอยู่บ้าง แต่ก็เอาเถอะ เป็นโครงการช่วยเหลือชั่วคราว แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ นี่คือ "น้ำใจ" ช่วยกันในยามยาก คนละไม้คนละมือ นอกจากนี้ทหารจะมีส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชทบท หากมีการวางแผนนำกำลังและเครื่องมืออุปกรณ์ของกองทัพมาใช้อย่างเป็นระบบ เช่น การขุดลอกคูคลอง ขุดสระ ขุดบ่อ ช่วยเหลือฝึกฝนอาชีพ นำแนวทางพระราชดำริเข้าไปให้ถึงทุกหมู่บ้าน โดยมีการประสานกับมหาดไทย หน่วยงานท้องถิ่น เป็นการรับมือภัยแล้งและปรับระบบการใช้น้ำในอนาคต ซึ่งหากไม่รีบทำต้องมีปัญหาแน่ !!