ตุลาการศาลทหารนัดสืบพยานโจทก์ครั้งที่ 2 “วรเจตน์” แก๊งนิติราษฎร์ แฟนคลับแห่รับพร้อมนักศึกษาที่ถูกจับก่อนหน้า เผยยื่นสืบพยานโจทก์ไปเป็น 28 ต.ค. พร้อมขออนุญาตศาลไปเยอรมนี ด้านสาวกแดงกุข่าวป้ายสีนายกฯ มารายงานตัวเช่นกัน แจงกรณีตัวเองพลาด ไม่ได้ผิด ก่อนศาลให้ประกันอีกรอบ นัดอีกที่ 29 ก.ค.
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม ถ.หลักเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ได้นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ครั้งที่ 2 ในคดีหมายเลขดำ 32 ก./2557 ที่อัยการทหารเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และนักวิชาการคณะนิติราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัวตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค. 2557 และฉบับที่ 57/2557 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2557 มีความผิดระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยอัยการทหารยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2557 อย่างไรก็ตามขณะที่นายวรเจตน์เดินทางมาถึงศาลทหารฯ มีประชาชนจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจด้านหน้าศาลทหารฯ พร้อมกันนี้ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด 1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ก็ได้มาให้กำลังใจเช่นกัน โดยได้ทักทายพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ทั่วไปของทั้งสองฝ่ายก่อนนายวรเจตน์จะเข้าไปในศาลทหารฯ
จากนั้นเวลา 10.30 น. นายวรเจตน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า วันนี้ตามกำหนดเป็นการนัดสืบพยานโจทก์ปากที่ 2 คือพ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ แต่วันนี้ พ.อ.ทรงวิทย์ติดราชการจึงไม่สามารถเดินทางมาศาลทหารฯได้ โดยฝ่ายอัยการโจทก์จึงได้เลื่อนการสืบพยานฝ่ายโจทก์ออกไปเป็นวันที่ 28 ต.ค. 58 และจะนำพยานปากอื่นคือเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาสืบพยานแทนพ.อ.ทรงวิทย์ก่อน นอกจากนี้ในวันนี้ตนยังได้ขออนุญาตต่อศาลทหารฯ ขอเดินทางไปประเทศเยอรมัน ระหว่างวันที่ 27 ก.ค. 58 - 7 ส.ค. 58 เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกฎหมายวิธีการพิจารณารัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนี พร้อมทั้งไปศึกษาและดูตำราใหม่ๆด้วย โดยทางศาลทหารฯและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้อนุญาต แต่มีเงื่อนไขว่าเมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วจะต้องมารายงานตัวต่อศาลทหารฯภายใน 3 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้เวลา 10.12 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม ถ.หลักเมือง นางรินดา ปฤชาบุตร หรือหลิน อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 116 ทำให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และมาตรา 348 ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากโพสต์ข้อความกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์กว่าหมื่นล้านบาท ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลทหารกรุงเทพ หลังครบกำหนดผัดแรก 12 วัน ซึ่งก่อนหน้านั้นทางศาลทหารฯ ได้อนุญาตให้นางรินดาประกันตัวได้ในหลักทรัพย์ 1 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามนางรินดาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ห้ามยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในสังคม หรือทำให้คนฝ่าฝืนกฎหมาย และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าทางพนักงานสอบสวนจะยื่นขอฝากขังผลัดสองหรือไม่
ทั้งนี้ นางรินดากล่าวว่า ในวันนี้มาตามที่ศาลทหารฯนัดและทางทนายความบอก ซึ่งตนก็ไม่ทราบรายละเอียด ในส่วนกำลังใจส่วนตัวนั้นดีขึ้น เพราะสู้ข้างนอกก็ดีกว่าสู้ข้างใน เนื่องจากได้เห็นหน้าลูก ซึ่งเป็นคนเรารัก สำหรับเรื่องนี้ตนเป็นบทเรียนใช้ชีวิตให้รอบคอบและต้องระมัดระวังมากขึ้น อีกทั้งเชื่อว่ากรณีของตนนั้นเป็นกรณีที่พลาด ซึ่งไม่ได้เป็นกรณีที่ผิด
ต่อมาเวลา 12.30 น. น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐนันท์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทีมทนายความของนางรินดา กล่าวภายหลังการรับฟังศาลทหารฯ ว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นขอฝากขังนางรินดาเป็นผลัดที่ 2 โดยให้เหตุผลว่ายังต้องผลการตรวจสอบของกลาง และผลการตรวจทะเบียนประวัติอาชาญากร ทางศาลทหารฯ จึงได้อนุญาตฝากขังผัด 2 ต่อ แต่ว่าก่อนหน้านี้นางรินดาได้ทำเรื่องประกันตัวแล้วจึงใช้หลักทรัพย์ประกันตัวเดิม 1 แสนบาทปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดิมคือห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ห้ามยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในสังคม หรือทำให้คนฝ่าฝืนกฎหมาย และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ศาลทหารฯ ได้นัดรายงานตัวผลัดที่ 3 ในวันที่ 29 ก.ค.นี้