ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม ถนนหลักเมือง คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ได้นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ครั้งที่ 2 ในคดีหมายเลขดำ 32 ก./2557 ที่อัยการทหารเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการคณะนิติราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัวตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 และฉบับที่ 57/2557 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ซึ่งความผิดระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยอัยการทหารยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557
นายวรเจตน์ กล่าวภายหลังว่า วันนี้ตามกำหนดเป็นการนัดสืบพยานโจทก์ปากที่ 2 คือ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ แต่วันนี้ พ.อ.ทรงวิทย์ ติดราชการจึงไม่สามารถเดินทางมาศาลทหารฯ ได้ โดยฝ่ายอัยการโจทก์ จึงได้เลื่อนการสืบพยานฝ่ายโจทก์ออกไป เป็นวันที่ 28 ตุลาคม 2558 และจะนำพยานปากอื่นคือ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาสืบพยานแทน พ.อ.ทรงวิทย์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายวรเจตน์เดินทางมาถึงศาลทหารฯ มีประชาชนจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจด้านหน้าศาลทหารฯ โดยมี น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด 1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ได้มาให้กำลังใจเช่นกัน โดยได้ทักทายพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ทั่วไปของทั้ง 2 ฝ่ายก่อนนายวรเจตน์จะเข้าไปในศาลทหารฯ
นอกจากนี้ ศาลทหารอนุญาตให้เดินทางไปประเทศเยอรมัน ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม-7 สิงหาคม 2558 เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกฎหมายวิธีการพิจารณารัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งไปศึกษาและดูตำราใหม่ๆ ด้วย โดยทางศาลทหารฯ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีเงื่อนไขว่า เมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วจะต้องมารายงานตัวภายใน 3 วัน
นายวรเจตน์ กล่าวภายหลังว่า วันนี้ตามกำหนดเป็นการนัดสืบพยานโจทก์ปากที่ 2 คือ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ แต่วันนี้ พ.อ.ทรงวิทย์ ติดราชการจึงไม่สามารถเดินทางมาศาลทหารฯ ได้ โดยฝ่ายอัยการโจทก์ จึงได้เลื่อนการสืบพยานฝ่ายโจทก์ออกไป เป็นวันที่ 28 ตุลาคม 2558 และจะนำพยานปากอื่นคือ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาสืบพยานแทน พ.อ.ทรงวิทย์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายวรเจตน์เดินทางมาถึงศาลทหารฯ มีประชาชนจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจด้านหน้าศาลทหารฯ โดยมี น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด 1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ได้มาให้กำลังใจเช่นกัน โดยได้ทักทายพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ทั่วไปของทั้ง 2 ฝ่ายก่อนนายวรเจตน์จะเข้าไปในศาลทหารฯ
นอกจากนี้ ศาลทหารอนุญาตให้เดินทางไปประเทศเยอรมัน ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม-7 สิงหาคม 2558 เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกฎหมายวิธีการพิจารณารัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งไปศึกษาและดูตำราใหม่ๆ ด้วย โดยทางศาลทหารฯ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีเงื่อนไขว่า เมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วจะต้องมารายงานตัวภายใน 3 วัน
