xs
xsm
sm
md
lg

“สรยุทธ” หงายเงิบ! ศาลปกครองยกฟ้อง อสมท ไม่ต้องจ่าย 55 ล้าน ส่วนลดค่าโฆษณาส่วนเกิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคดี “ไร่ส้ม” ฟ้อง อสมท กรณีค่าโฆษณาส่วนเกิน ชี้ อสมท ไม่ต้องจ่าย เนื่องจากตามสัญญาไม่ได้กำหนดว่าไร่ส้มต้องได้ส่วนลด ขณะที่ไร่ส้มก็จ่ายค่าโฆษณาเต็มอัตราโดยตลอด แต่ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนลดของโฆษณาเกินเวลา เหตุศาลแพ่งสั่งพนักงาน อสมท ชดใช้คืนแล้ว ด้านเจ้าตัวไม่มาศาล มอบหมายทนายความมาฟังแทน

วันนี้ (17 ก.ค.) ที่อาคารสำนักงานศาลปกครอง ตุลาการศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง โดยให้ยกฟ้องคดีที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่ขอให้ศาลสั่งให้ อสมท ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินในการออกอากาศรายการคุยคุ้ยข่าว เมื่อปี 2548-2549 จำนวน 253,026,691.12 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยของเงินต้นจำนวน 215,199,633.76 บาท โดยศาลเห็นว่าการที่ อสมท ไม่หักส่วนลดค่าโฆษณาที่เกินเวลาในอัตราร้อยละ 30 ให้กับบริษัทไร่ส้ม ไม่เป็นการผิดสัญญา เนื่องจากสัญญาร่วมรายการโทรทัศน์ระหว่างบริษัทไร่ส้ม กับ อสมท ทุกฉบับมีลักษณะเป็นการตกลงกันของคู่สัญญาที่จะจำหน่ายเวลาโฆษณาในอัตราราคาที่เท่ากัน เพื่อไม่ให้จำหน่ายตัดราคา ส่วนลดและกลยุทธ์การขายให้เป็นไปตามที่บริษัทไร่ส้มจะตกลงกับสำนักการตลาดของ อสมท โดยให้คำนึงถึงภาวะการตลาดในเวลานั้น ขณะที่เวลาโฆษณาตามสัญญาที่ตกลงกันระบุว่า หากบริษัท ไร่ส้ม โฆษณาเกินกว่าส่วนแบ่งเวลาที่ได้รับ บริษัทไร่ส้มยินยอมที่จะชำระค่าโฆษณาให้กับ อสมท ในอัตราที่กำหนดไว้ และบริษัทไร่ส้มสามารถจำหน่ายเวลาโฆษณาได้มากกว่าส่วนแบ่งเวลาที่กำหนดได้ แต่สิทธิที่จะได้รับส่วนลดสัญญาไม่ได้มีการกำหนดว่าชัดเจนว่า บริษัทไรส้มจะได้รับส่วนลดหรือไม่ในอัตราใด เป็นเรื่องที่จะต้องตกลงกันเป็นกรณีไป ซึ่งจากข้อเท็จจริงตั้งแต่มีออกอากาศบริษัท ไร่ส้มมีการโฆษณาเกินกว่าเวลาที่กำหนดในสัญญามาโดยตลอด

โดยบริษัท ไร่ส้มได้ส่งเพียงใบคิวโฆษณาให้ฝ่ายออกอากาศโทรทัศน์ แต่ไม่มีหนังสือขอซื้อเวลาและขอส่วนลดมายังสำนักการตลาด อสมท ซึ่งใบคิวเป็นเอกสารที่มีเพียงรายการและเวลาโฆษณา ไม่มีรายมือชื่อผู้รับผิดชอบ จึงไม่อาจเป็นการซื้อโฆษณาและขอส่วนลดได้ อีกทั้งเมื่อ อสมท มีหนังสือเรียกให้ชำระค่าโฆษณา บริษัท ไร่ส้มก็มีการจ่ายค่าชำระโดยไม่มีการโต้แย้ง จึงรับฟังเป็นที่ยุติว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ตกลงกันให้มีการหักส่วนลดทางการค้าในอัตราร้อยละ 30 ของค่าโฆษณาส่วนเกินกว่าส่วนแบ่งเวลาตามที่สัญญาได้กำหนดไว้ บริษัท ไร่ส้มจึงไม่มีสิทธิได้ส่วนลดทางการค้า

“การที่บริษัท ไร่ส้มชำระโฆษณาส่วนเกินเต็มตามจำนวนโดยไม่โต้แย้งคัดค้านถึง 2 ครั้ง ทั้งที่ อสมท ระบุในหนังสือลงวันที่ 20 ต.ค. 2549 ว่าไม่สามารถพิจารณาส่วนลดได้ เพราะบริษัท ไร่ส้มไม่ปฏิบัติตามสัญญา ย่อมแสดงว่าบริษัท ไร่ส้มไม่ติดใจในส่วนลดการค้าดังกล่าว หากมีสิทธิตามสัญญาที่จะได้รับส่วนลด ก็ไม่สมควรต้องชำระเงินดังกล่าว และ อสมท ย่อมใช้ที่สิทธิเรียกร้องตามสัญญาหรือฟ้องต่อศาล กรณีดังกล่าวจึงไม่อาจถือได้ว่าบริษัท ไร่ส้มได้ชำระเงิน เพื่อป้องกันข้อครหาของสาธารณชน เพื่อไม่ให้มีข่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความไว้วางใจของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไร่ส้ม ดังที่ศาลปกครองกลางวินิจฉัย เนื่องจากบริษัท ไร่ส้มอาจชำระเฉพาะค่าโฆษณาส่วนที่เกินเวลา โดยไม่ชำระในส่วนลดทางการค้าที่บริษัท ไร่ส้มเห็นว่ายังมีข้อต่อสู้อยู่ได้ ซึ่งไม่มีผลต่อความเชื่อถือของประชาชน ดังนั้นการที่ อสมท ไม่หัดส่วนลดค่าโฆษณาส่วนที่เกินให้บริษัทไร่ส้มจึงไม่เป็นการผิดสัญญา และ อสมท ไม่มีหน้าที่ต้องคืนเงินส่วนลดดังกล่าวให้บริษัท ไร่ส้มแต่อย่างใด” สาระสำคัญของคำพิพากษา ระบุ

สำหรับ อสมท มีหน้าที่ตามสัญญาต้องชำระค่าโฆษณาส่วนที่เกินส่วนแบ่งเวลาตามสัญญาให้บริษัท ไร่ส้มหรือไม่ ศาลเห็นว่าสัญญาที่ทั้งสองตกลงกันในเรื่องของการแบ่งเวลาโฆษณาเป็นลักษณะไทม์แชร์ริ่ง (Time Sharing) หรือแบ่งในสัดส่วนที่เท่ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีรายได้เท่าเทียมกัน หรือมีสิทธิหารายได้เพียงเท่าที่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งหาได้ ซึ่งในกรณีที่ อสมท จำหน่ายเวลาโฆษณาเกินกว่าเวลาที่กำหนด ในสัญญาก็ไม่ได้มีการกำหนดไว้ว่าให้ อสมท ต้องชำระเงินค่าโฆษณาให้บริษัท ไร่ส้มแต่อย่างใด การที่กำหนดเช่นนี้เป็นที่เข้าใจได้ว่า เมื่อมีการใช้เวลาโฆษณาเกินกว่าส่วนแบ่งเวลาที่กำหนดในสัญญา ผู้ที่มีใช้จ่ายเพิ่มคือ อสมท ที่เป็นเจ้าของสถานีและเจ้าของเวลาออกอากาศ เพราะไม่ว่า อสมท จะจำหน่ายค่าโฆษณาได้น้อยกว่า เท่ากับหรือเกินเวลาในสัญญาก็ไม่เกี่ยวกับการหารายได้ หรือการจำหน่ายเวลาโฆษณาของบริษัท ไร่ส้ม แม้การจำหน่ายโฆษณาเกินเวลาที่กำหนดของ อสมท จะมีผลมาจากความนิยมในตัวของนายสรยุทธ ในฐานะพิธีกร ดำเนินรายการ ก็ไม่อาจนำกรณีดังกล่าวมาตีความสัญญาเพื่อกำหนดสิทธิของบริษัท ไร่ส้ม และหน้าที่ของ อสมท ให้เพิ่มขึ้นจากที่สัญญาได้ เนื่องจากสัญญากำหนดชัดเจนว่า บริษัท ไร่ส้มต้องชำระโฆษณาส่วนที่เกินเวลาให้กับ อสมท ดังนั้น อสมท จึงไม่มีหน้าที่ชำระค่าโฆษณาส่วนที่เกินส่วนแบ่งเวลาตามสัญญาให้กับบริษัทไร่ส้ม

ส่วนประเด็นที่บริษัท ไร่ส้มจะต้องชำระเงินค่าส่วนลดทางการค้าของค่าโฆษณาส่วนที่เกินเวลาในเดือน ก.ค. 2549 ให้กับ อสมท หรือไม่ เห็นว่า แม้บริษัท ไร่ส้มจะไม่แจ้งโฆษณาเกินเวลาที่กำหนดในสัญญาไปยังสำนักการตลาดของ อสมท แต่ตามรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ลงวันที่ 29 ส.ค. 2550 และสัญญาท้ายคำให้การว่าบริษัท ไร่ส้มและ อสมท ได้ทำสัญญาโฆษณาของเดือน ก.ค. 2549 จำนวน 2 ฉบับในวันที่ 26 ก.ค. 2549 จึงเป็นกรณีที่ อสมท ตกลงยินยอมให้ส่วนลดทางการค้าแก่บริษัทไร่ส้มตามข้อกำหนดในสัญญาแล้ว และแม้จะพบว่าสัญญาดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบของ อสมท อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายใน ไม่มีผลให้สัญญาโฆษณาหรือส่วนลดเป็นโมฆะจนนำมาอ้างลบล้างสิทธิในการที่บริษัท ไร่ส้มจะได้รับส่วนลด แต่เนื่องจากกรณีส่วนลดทางการค้านี้ อสมท ได้ฟ้องเป็นคดีและศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ น.ส.บุณฑณิก บูลย์สิน เจ้าหน้าที่ของ อสมท รับผิดชดใช้เงินที่ให้ส่วนลดแก่บริษัท ไร่ส้มไปโดยประมาทแล้ว ดังนั้น บริษัท ไร่ส้มจึงไม่มีหน้าที่ตามสัญญาชำระเงินให้ส่วนลดทางการค้าแต่อย่างใด

การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ อสมท ชำระเงินจำนวน 55,777,019.15 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสรยุทธไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง ส่งเพียงทนายความมารับฟังเท่านั้น









กำลังโหลดความคิดเห็น