กระทรวงการต่างประเทศสวนคอลัมนิสต์แดงในไทยรัฐ กุสหภาพยุโรปคว่ำบาตรไทยอย่างเป็นทางการ ยันไม่ตรงข้อเท็จจริง ตีความคลาดเคลื่อน จี้แก้ไขเนื้อข่าว พร้อมนำข้อมูลจากแฟนเพจอียูในไทย ระบุคงอ้างถึงผลสรุปเมื่อ มิ.ย. 57 หลังรัฐประหารหมาดๆ ระงับเยือนทางการแค่ระดับการเมือง ด้านเว็บไซต์ต้นสังกัดเอาข่าวลงแล้ว
วานนี้ (14 ก.ค.) มีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือประทับตราด่วนที่สุดถึงบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เรื่องข้อชี้แจงต่อข้อความในคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” ตอน “แรงเสียดทานประชาธิปไตย” ลงนามโดยนางลินนา ตังธสิริ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสารนิเทศ โดยระบุว่า “ตามที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันจันทร์ที่ 13 ก.ค. 2558 ได้ตีพิมพ์คอลัมน์ดังกล่าว โดยปรากฏข้อความว่า “ที่ประชุมสหภาพยุโรปลงมติคว่ำบาตรประเทศไทยอย่างเป็นทางการ...แม้แต่การเดินทางมาเยือนประเทศไทยถูกระงับทั้งหมด...” นั้น
กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนว่า ข้อความในคอลัมน์ข้างต้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงอาจทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและตีความคลาดเคลื่อนไปว่า สหภาพยุโรปตัดความสัมพันธ์กับไทยในทุกๆ ด้าน และระงับการเยือนไทยในทุกๆ ระดับ
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอให้พิจารณาแก้ไขเนื้อข่าวในโอกาสแรก เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนต่อไปด้วย จักขอบคุณมาก”
อนึ่ง เมื่อวันอังคารที่ 14 ก.ค. คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้ชี้แจงในหน้าเฟซบุ๊ก “European Union in Thailand” ว่า ตามที่มีรายงานข่าวว่าสหภาพยุโรปได้คว่ำบาตรไทยนั้น คณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงและเข้าใจว่ารายงานดังกล่าวอ้างถึงผลสรุปการประชุมคณะมนตรีสหภาพยุโรปที่รับรองเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2557 และยังไม่มีการออกผลสรุปใหม่ใดๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศก็ได้มีการชี้แจงประเด็นดังกล่าวเช่นกัน แต่มิได้ลงข้อความอ้างอิงถึงชื่อและหนังสือพิมพ์ต้นเหตุ โดยระบุเพียงว่า กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนว่า ข้อมติของคณะมนตรีสหภาพยุโรป (The Council of the European Union) เมื่อปี 2557 เป็นเพียงการระงับการเยือนอย่างเป็นทางการในระดับการเมืองเท่านั้น มิใช่การตัดความสัมพันธ์กับไทยในทุกๆ ด้าน รวมทั้งมิใช่การระงับการเยือนไทยในทุกๆ ระดับ ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ยังมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างทั้งสองฝ่ายในระดับต่างๆ ที่ไม่ใช่ระดับรัฐมนตรีหลายคณะอย่างต่อเนื่องและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รวมทั้งความร่วมมืออื่นๆ ที่มีอยู่ยังดำเนินดังเช่นปกติ อาทิ ความร่วมมือสาขาการศึกษา และวิทยาศาสตร์
ปัจจุบันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหภาพยุโรปอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่องและการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมติของคณะมนตรีสหภาพยุโรปข้างต้น โดยสหภาพยุโรปยังคงเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 4 ของไทยเมื่อปี 2557 ไทยส่งออกไปสหภาพยุโรป มูลค่า 23,342 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากสหภาพยุโรป มูลค่า 19,459 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านการลงทุน สหภาพยุโรปยังคงเป็นนักลงทุนโดยตรงอันดับที่ 2 ของไทย โดยระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ย. 2557 สหภาพยุโรปลงทุนสุทธิโดยตรงในไทยมูลค่า 957 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยลงทุนสุทธิในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 63.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. 2558 นักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางมาไทยประมาณ 2.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตามจากการสืบค้นในเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ ก็ไม่ปรากฏบทความดังกล่าวอยู่ในหน้าเว็บไซต์แล้วเช่นกัน
