“คนรอบข้างเชียร์เพราะว่าเรามีอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน อาจจะเป็นคนมีพฤติกรรมเหมือนกัน ตรงๆ สนุกสนาน เราต้องรอดูไปเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้คุยอยู่คนเดียวครับ”
ครั้งหนึ่งนักแสดงหนุ่มแบดบอย “แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อถูกถามถึงกรณีที่กำลังคบหาดูใจกับดีจ. สาวแห่งค่ายเอไทม์มีเดีย “ต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์”
ดูเหมือนรักใหม่ของแทคในครั้งนี้ ออกจะสร้างความประหลาดใจให้แก่ทั้งสื่อมวลชน และทุกคนที่ทราบข่าวอยู่ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมา “ผู้หญิง” ของเขา มักจะมีชื่ออยู่ในระดับท็อปฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นนางแบบ หรือเซเลบ ไม่อีกทีก็มักจะออกแนวสวย เอ็กซ์ เซ็กซ์ฉ่ำ แต่กับต้นหอมดูเหมือนจะคนละทาง ไม่ใช่ว่าไม่เก่ง ไม่ดัง หรือไม่ดีพอ แต่แค่ผิดฟอร์มเท่านั้นเอง
ขณะที่ฝั่งต้นหอม ก็ดูเหมือนจะได้รับความเป็นห่วงเป็นใยจากคนรอบข้างไม่น้อย เพราะกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของแทคนั้น เลื่องลือไปทั่ววงการ ทุกคนก็ล้วนหวั่นใจ เกรงว่าต้นหอมจะ “เอาไม่อยู่”
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมา ก็มีข่าวรักๆ เลิกๆ กระเส็นกระสายมาอยู่เป็นระยะ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของการทะเลาะเบาะแว้ง ก็หนีไม่พ้นเรื่อง “เธอปันใจ” ของฝ่ายชายนั่นเอง แต่หลายๆ ครั้ง หลายๆ คราว ทั้งคู่ก็กลับมาสมานฉันท์กันได้อีก นอกจาก “เยื่อใย” ที่ทั้งคู่ยังคงมีให้แก่กันและกันแล้ว อาจจะเป็นเพราะะต่างคนต่างก็ยังมี “พฤติกรรม” คล้ายๆ กันอย่างที่แทคเคยให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะเรื่อง “ลูกบ้า” ดังจะเห็นได้จากกรณีที่ทั้งคู่ผลัดกันงอนง้อกันด้วยมุกแปลกประหลาด ตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ ทุกครั้งคราว โดยเฉพาะคราวที่ต้นหอมลงทุนง้อฝ่ายชายด้วยการแต่งชุดไทย ใส่โจงกระเบนสีแดง ทาหน้าขาววอก ถือพานพุ่ม เทียนแพไปขอโทษ ตามด้วยฝ่ายชาย ที่มีข่าวเรื่องย่องขึ้นคอนโดฯ นักศึกษา จนต้องลงทุนงอนง้อฝ่ายหญิงกลับ ด้วยการแต่งเป็นเงาะทาตัวดำพร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่นอกใจอีก
จนมาถึงในที่สุด ความรักของทั้งคู่ ก็มาถึง “ทางตัน” คือยื้ออย่างไร ก็ไปต่อไม่ได้แล้ว !!
โดยเริ่มจากที่แทคให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า
“ตอนนี้คือเราจบแล้วครับ เราได้เลิกรากันเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านั้นเราไม่ได้คุยกันหรือติดต่อกันมาประมาณอาทิตย์หนึ่งครับ สาเหตุมันมีเหตุหลายๆ เรื่องด้วยครับ หนึ่งคือชีวิตของผมด้วย สองคือที่บ้านด้วย แล้วก็ทางครอบครัวของผมด้วยครับ หอมเป็นคนตัดความสัมพันธ์กับผมครับ หอมเป็นคนบอกเลิกผม เราก็แน่นอนครับ เราเป็นลูกผู้ชายก็ต้องยอมรับในเหตุผลของผู้หญิงที่เขาเป็นคนตัดใจครับ หนึ่งอาทิตย์ที่เราไม่ได้คุยกันผมก็ได้ไตร่ตรอง ได้ทบทวนหลายๆ อย่าง ถามว่าเสียใจไหม เสียใจครับ อยากกลับไปไหม แน่นอนครับ อยากกลับไป แต่พอคิดอีกทีหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนี้อีก เราอยู่ด้วยกันอีก เราไปขอคืนดี เดี๋ยวมันก็เป็นเหมือนเดิม เราก็เลยคิดว่าตัดตอนนี้อย่างน้อยก็ยังเจ็บน้อยกว่า”
เบื้องต้นแทคยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง หรือมือที่สามแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องรูปที่จูบกับหญิงอื่น จนหลายคนมองว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รักล่ม
“หลายคนอาจจะสงสัยว่าต้องง้อไหม ผมบอกเลยนะครับ ณ ตอนนี้ทุกอย่างจบ ถามว่าง้อได้ไหม มันง้อได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก แต่ถามว่าถ้าง้อไปมันก็จะเป็นแบบนี้เหมือนเดิม ผมคิดว่าถ้าจบก็จบตอนนี้ดีกว่า อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนน่ารัก เป็นคนที่ดีกับเรา ผมก็ไม่อยากจะตัดความสัมพันธ์ตรงนี้ออกไป คบกันมานี่ก็หนึ่งปี จบด้วยดีครับ ผู้ชายคนนี้ขอบคุณมากครับ ถ้าผู้ชายคนนี้ได้ทำอะไรที่ไม่สบายใจ ที่ทำให้หอมผิดหวังผมขอโทษนะครับ ถามว่ายังรักอยู่ไหม ยังรักอยู่และยังคิดถึงนะครับ แต่ว่ามันถึงจุดที่เราต้องจบมันก็ต้องจบ ต่อไปนี้ก็อยากให้เดินต่อไปครับ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอครับ”
แต่ดูเหมือน “คำให้การ” ของแทค จะค้านกับคำให้สัมภาษณ์ของต้นหอมโดยสิ้นเชิง เพราะฝ่ายหญิงลั่นปากออกมาเอง ว่ารับไม่ได้กับความเป็นคนเจ้าเสน่ห์ และมีข่าวคราวกับผู้หญิงอื่นไม่หยุดหย่อน ทั้งที่เคยจุดธูปสาบานกันแล้วว่าจะไม่นอกใจกัน และนั่นคือฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้เส้นทางรักของทั้งคู่ขาดผึง
โดยต้นหอมได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “คลับฟรายเดย์โชว์” โดยมี "ดีเจ พี่ฉอด และดีเจ พี่อ้อย" เป็นคนสัมภาษณ์
“ก็อย่างที่แทคบอกว่าเป็นเรื่องของผู้หญิงด้วย สำหรับหอมตั้งแต่วันที่เดินออกมาขอยุติความสัมพันธ์ หอมให้เหตุผลเดียวก็คือเรื่องของผู้หญิงค่ะ และหอมก็ขอให้เขามีความสุขค่ะ สิ่งที่หอมเจอ หอมขอเก็บไว้เป็นส่วนตัวแล้วกันค่ะ แต่ครั้งนี้ด้วยพยานบุคคลที่หอมเชื่อใจได้และหอมไว้ใจมากจริงๆ เป็นคนบอกกับหอมเรื่องนี้ คือที่ผ่านมามันอดทนมาก็จริงนะคะ แต่ว่าตั้งแต่เรากลับมาดีกัน แทคสัญญาว่าแทคจะไม่นอกใจ มีหอมคนเดียว และตั้งแต่นั้นมาหอมก็ไม่เคยรับรู้เรื่องผู้หญิงอีกเลย แค่มีคำถามในใจว่าจะมีไหม ทำไมเรายังรู้สึกไม่ไว้ใจอยู่เลย อาจจะเป็นความระแวงของหอมก็ได้ แต่ว่าครั้งนี้ที่หอมเจอ คือพยานบุคคลของหอมน่ะเชื่อถือได้และหอมเชื่อใจพยานบุคคลหอมมากๆ หอมก็เลยตัดสินใจที่จะยุติ
หอมถามแทคค่ะ แต่หอมไม่ได้คำตอบ ไม่ว่าถามอะไรทุกเรื่องก็ตาม หอมไม่ได้คำตอบจากคนคนนี้เลย แต่หอมมีคำตอบในใจแล้ว เพราะคนที่บอกหอมเรื่องนี้ เป็นเพื่อนรักของหอมเลย เราคบกันมา 10 ปีแล้ว หอมเชื่อว่าเพื่อนหอมคนนี้เขาไม่โกหก
ถามว่าเพื่อนมีหลักฐานมาให้เราไหม ไม่มีค่ะ แค่บอกหอมเท่านั้นพอแล้ว คือก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นหอมรู้สึกว่ามันมีแววอยู่แล้ว หอมเลยบอกกับเพื่อนว่าสัญญากันข้อหนึ่ง ถ้าเกิดอะไรขึ้นคืนนี้อย่าโกหกนะ (ร้องไห้) พูดออกมา คือที่หอมร้องไห้ หอมไม่ได้เสียใจด้วยซ้ำ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เซ็นซิทีฟกับเพื่อนมากๆ เพราะเพื่อนหอมก็ไม่อยากพูดความจริงอยู่แล้ว มันก้ำกึ่งมาก เพราะเพื่อนหอมก็สนิทกับเขาและกับหอม ฉะนั้นมันเป็นช่วงที่อึดอัดมากในการเผชิญกับความจริง คือเขาก็ไม่อยากบอกหอม จนหอมพูดประโยคหนึ่งว่า ถามจริงๆ ว่าอยากให้หอมอยู่กับผู้ชายคนนี้ต่อไปไหม คิดว่าหอมสมควรอยู่ตรงนี้ไหม เขาถึงพูดความจริงกับหอมทั้งหมด หอมก็ถามความจริงจากปากแทค แต่หอมไม่ได้คำตอบเลย แต่วันที่หอมตัดสินใจบอกเขาว่าจะยุติความสัมพันธ์ หอมพูดกับเขาชัดเจนเลยว่าหอมเลือกเชื่อเพื่อนหอม หอมเชื่อว่าเพื่อนหอมพูดจริงและไม่โกหก”
ฟังคำสัมภาษณ์ของต้นหอม แล้วก็แอบรู้สึกทะแม่งๆ คือไม่ได้เข้าข้างแทค เพราะภาพความเจ้าชู้ของแทคก็ชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร แต่การที่ต้นหอมบอกว่าเลือกที่จะเชื่อเพื่อนมากกว่าแทคนั้น มันบ่งบอกว่าลึกๆ แล้ว เธอเองก็ไม่เคยเชื่อมั่นในพฤติกรรมของผู้ชายที่ตนกำลังคบหาอยู่เลย คือคบกันอยู่บนความหวาดระแวงตลอดเวลา เมื่อมีใครมาจุดไฟนิดหนึ่ง ก็พร้อมจะโหมกระพือจนกลายเป็นกองเพลิงเผาไหม้ตัวเอง
ไม่ได้บอกว่าเพื่อนของต้นหอมใส่ไฟ หรือกุเรื่องขึ้นมาเพราะความไม่หวังดี แทคอาจจะมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงๆ แต่เรื่องของความรัก คือเรื่องของคน 2 คน เมื่อใดก็ตามที่มีมากกว่า 2 คน ยังไงก็พัง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
บางทีการที่ต้นหอมหวั่นไหว และไม่หนักแน่นพอ นั่นต่างหากที่ทำให้ไปกันไม่รอด ไม่ได้เกี่ยวกับว่าแทคจะมีหญิงอื่นหรือไม่มี !!
ที่มา นิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 295 27 มิถุนายน – 3 กรกฏาคม 2558