xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ลั่นมีแผนรับมือม็อบหยุดวิ่งรถ ฮึ่มอย่าล้อเล่นกับกฎหมาย วอนสื่อไม่ดึงไทยทะเลาะต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” เข้าใจจัดระเบียบประมงส่งผลกระทบทั้งรายใหญ่ - ย่อย รัฐบาลพร้อมเยียวยา ขอเกษตรกรอย่าตื่นตระหนกปัญหาภัยแล้ง ชี้ฝนเริ่มตกแล้วสถานการณ์ดีขึ้น เตือนพวกขู่นัดหยุดงาน - หยุดวิ่งรถ อย่าทำ ลั่นมีแผนรองรับไว้หมดแล้ว ฮึ่มอย่าล้อเล่นกับกฎหมาย พร้อมวอนสื่ออย่าดึงประเทศไทยไปทะเลาะกับต่างชาติ

วันนี้ (10 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า การแก้ปัญหาการทำประมงของไทยนั้น อาจจะถูกมองข้ามมานับ 10 ปี เรามีกฎหมายแต่ก็ขาดการบังคับใช้อย่างจริงจัง จึงทำให้เกิดปัญหาแรงงาน สิทธิมนุษยชน ปัญหาการเสื่อมสภาพของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลตามมา ถ้าหากว่าเราไม่แก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็ว ทะเลไทยก็จะไม่มีสัตว์ทะเลเหลือให้จับอีกต่อไป รวมถึงถูกคว่ำบาตรสินค้าทางด้านประมง ก็จะเกิดผลต่อธุรกิจเอกชน และผู้ประกอบการจำนวนมาก ทุกคนต้องร่วมมือกัน ปัจจุบันนั้นมูลค่าส่งออกสินค้าประมงและธุรกิจต่อเนื่อง มีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอุตสาหกรรมประมงของประเทศ ที่เป็นแหล่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก

ในการดำเนินการดังกล่าวนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย ตลอดจนถึงชาวประมงพื้นบ้าน อย่างไรก็ตาม ตนรับทราบปัญหาแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการดูแล เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถปรับตัวและผ่านช่วงนี้ไปได้ โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้าน และชาวประมงที่ถูกกฎหมาย มาตรการใดที่ไม่ขัดกับ IUU Fishing แล้วก็เป็นเรื่องภายในของประเทศ ซึ่งไม่มีผลเสียต่อการทำลายทรัพยากร ตนก็ได้สั่งการในที่ประชุมให้หน่วยปฏิบัตินั้นได้ไปร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ก็ได้แก่ ศูนย์บัญชาการการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) แล้วก็กรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ไปปรับแก้เพื่อให้ผู้ประกอบการและชาวประมงมีเวลาปรับตัว สำหรับกลุ่มเรือที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย แต่เรียกร้อง อันนี้ไม่ผ่อนผันให้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้สั่งการใน ครม. ให้ช่วยจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็มีหลายคณะที่ทำอยู่ วันนี้รัฐบาลก็ตั้งคณะหนึ่ง เมื่อเสร็จแล้วก็หารือกันในฝ่ายของรัฐบาล ครม. เพราะเป็นคนรู้ปัญหา เป็นคนขับเคลื่อน จากนั้นจะนำเข้าไปบรรจุไว้ในแผนการปฏิรูป แล้วก็นำไปสู่การมีกฎหมายมีองค์กรที่จะขับเคลื่อน และต้องมุ่งไปสู่เรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น เกิดความต่อเนื่อง และรับการรับรู้ การยอมรับจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายรวมทั้งรัฐบาลต่อไป แต่ตนก็ระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดปัญหาการบริหารประเทศของรัฐบาลในอนาคต


นายกฯ กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งว่า วันนี้กำลังแก้ไขปัญหาเรื่องการบริหารจัดการแหล่งน้ำที่มีอยู่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ทำไปหมดแล้ว หลายชุมชนยังมีการเบิกจ่ายที่ล่าช้า 70% เราก็มุ่งหวังให้มันมากกว่านี้ จริง ๆ แล้วมันก็มากอยู่พอสมควร เพียงแต่ทำเป็นงวด ๆ งาน เบิกเงินออกไปต้องเบิกตามงวดงาน ถ้าทำไม่เสร็จก็เบิกไม่ได้ เรื่องการเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในห้วงนี้ รัฐบาลก็หามาตรการทุกอัน เรืองผลกระทบความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ สภาวะภัยแล้ง ทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การส่งเสริมจ้างงานเพิ่มเติมให้แก่พี่น้องที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ก็จะไปจ้างให้ขุดแหล่งน้ำขนาดเล็ก โดยมีค่าจ้างให้ ก็จะได้มีเงินมาใช้จ่ายระหว่างที่ปลูกพืชไม่ได้ ก็คงช่วยได้เฉพาะในพื้นที่ที่ทำการเกษตรไม่ได้เลย ไอ้ที่ทำได้วันนี้ฝนก็เริ่มตกแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าจะช่วยกันยังไง จะมีการการฝึกงานฝึกอาชีพ ฝึกงานเพิ่มเติม รวมทั้งจะมีการสนับสนุนการลงทุนสำหรับธุรกิจ SMEs และภาคเอกชนหรือ Social Business เพื่อช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ควบคู่กันไปด้วย

ในเรื่องปัญหาน้ำ อย่าตื่นตระหนก วันนี้ฝนเริ่มตกแล้วในหลายจังหวัด ปริมาณน้ำในเขื่อนบางเขื่อนก็เริ่มสูงขึ้น ถึงแม้ว่าปริมาณยังน้อยอยู่ แต่สิ่งสำคัญก็คือเริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าเรียกร้องมากเกินไป มันก็ไม่เกิดประโยชน์ ยังไงฝนก็ยังไม่ตก ตกแล้วค่อยพูดกัน แล้วก็บริหารจัดการใหม่

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของการปฏิรูป จะเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยกัน เดี๋ยวจะให้นิสิต นักศึกษา ทั้งที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย มาคุยกันออกสื่อ ไม่ใช่มาตีกัน แล้วดูว่าจะทำความเข้าใจกันได้อย่างไร นักวิชาการก็มีทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างจะไปไหนได้ช้า อาจจะเป็นลักษณะ ของเราก็ได้ คือ เราจะไม่ปล่อยวางเรื่องอะไร สักเรื่องหนึ่ง ทุกเรื่องก็เก็บมาเป็นปัญหาได้หมด เลยทำให้ทำงานไม่ได้ ถ้าทุกคนมีปัญหา แล้วไปกันไม่ได้สักปัญหา มันเดินไม่ได้สักเรื่อง คุยกันก็ไร้ประโยชน์ ตีกันทุกวัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า การประกาศว่าจะหยุดงานตรงโน้นตรงนี้ หยุดวิ่งรถ อย่าทำ ตนเตรียมแผนไว้หมดแล้วทุกที่ ท่านหยุดก็ดี ตนมีรถมาวิ่งแทน มีรถตู้ รถเอกชน รถของประชาชน จะได้มีรายได้พิเศษ ท่านไม่เอารายได้ก็ตามใจ เพราะฉะนั้นอย่ามากดดัน ก็ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกันปฏิบัติตามแผนงาน อย่าล้อเล่นกับกฎหมาย

“ขอให้ทุกคนอยู่ด้วยความสงบสุข แล้วอย่าตื่นตระหนก ทุกเรื่องที่เป็นปัญหาในประเทศเยอะพออยู่แล้ว พยายามอย่าเอาประเทศไทยไปเกิดความขัดแย้งกับประเทศอื่น เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามพันธสัญญา แล้วเป็นไปตามประจักษ์พยาน เป็นไปตามหลักฐาน เป็นไปตามข้อกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมาย 2 ประเทศ หรือทวิภาคีอะไรก็แล้วแต่ มันก็จำเป็นต้องทำตามนั้น มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อยู่แล้ว แล้วเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งใครทั้งสิ้น ต้องเข้าใจว่าประเทศไทยบทบาทอยู่ตรงไหน เพราะงั้นเราทะเลาะกันเอง พอไหว พอรับได้ แต่เอาเราไปทะเลาะกับคนอื่น ประเทศโน้น ประเทศนี้ ผมว่าไม่ได้ เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องที่เป็นอันตราย เป็นความอ่อนไหว ก็ช่วยผมหน่อยเถิด สื่อ เสื่อ อะไรนี่ ผมไมได้ไปทะเลาะกับท่านอยู่แล้ว ในบางครั้งผมก็อธิบายยากเหมือนกันนะ อธิบายแล้ว ถามแล้ว ถามอีก ตอบแล้วตอบอีก ท่านก็เบา ๆ กับผมบ้างแล้วกัน นะ ผมก็พยายามจะเบากับท่านอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปิดท้าย

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ"” วันที่ 10 กรกฎาคม 2558

โปรย : สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สัปดาห์หน้าวันที่ 13 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ผู้ซึ่งทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านต่าง ๆ เพื่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด อีกทั้งยังทรงมีความสนพระทัยในด้าน


สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สัปดาห์หน้าวันที่ 13 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ผู้ซึ่งทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านต่าง ๆ เพื่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด อีกทั้งยังทรงมีความสนพระทัยในด้านสังคมสงเคราะห์ และการสาธารณสุข โดยได้ทรงรับโครงการต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย เป็นพระอุปถัมภ์นะครับ หลายๆ โครงการด้วยกัน

ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ กระผมในนามของข้าราชการและพสกนิกรชาวไทยทุกคน ขอถวายชัยมงคลให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนยาว และมีพระพลานามัยแข็งแรงนะครับ

วันนี้มีเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเกี่ยวกับเยาวชนไทยที่ได้ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศของเราในเวทีโลก ได้แก่ วงโยธวาทิตของโรงเรียนสุรนารีวิทยาจาก จ.นครราชสีมา ที่สามารถเอาชนะตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ กว่า 64 วง จาก 10 ประเทศ โดยคว้ารางวัลชนะเลิศนั่งบรรเลงในการประกวดวงโยธวาทิตระดับนานาชาติ ณ ประเทศเยอรมนี และคุณอภิวุฒิ มินาลัย วาทยากรของวง ได้รับรางวัลวาทยากรยอดเยี่ยมด้วย นอกจากนั้น วงโยธวาทิตจากโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ก็ได้รางวัลเหรียญทองเกียรติยศการประกวดครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เป็นเรื่องที่น่ายินดี ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น วงโยธวาทิตของโรงเรียนสุรนารีวิทยา ยังได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันระดับโลก และภาคพื้นยุโรป ประเภทนั่งบรรเลงวงเป่าที่จัดขึ้น ณ ประเทศเดนมาร์ก มาได้ 1 รางวัลด้วย ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทุกคนด้วย ที่น่าประทับใจคือ ทราบว่าเด็กทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำความสำเร็จนี้เพื่อสังคม เป็นความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตามโครงการปณิธานทำความดีในอนาคต ผมอยากให้หน่วยงานของรัฐเกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแล สนับสนุนเด็กเก่งเหล่านี้ให้แสดงความสามารถเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการ ศิลปะ หรือดนตรี ส่งเสริมชมเชย ให้รางวัลให้ความสำคัญ เพื่อเป็นกำลังใจในการที่จะพัฒนาตนเอง สร้างชื่อเสียง สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเราต่อไปด้วย วันพุธที่ผ่านมานั้นมีโอกาสต้อนรับเยาวชนไทย รวมทั้งผู้ปกครองที่มีภูมิลำเนาในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 10

ก่อนหน้านั้น ก็ได้ต้อนรับเยาวชนจากออสเตรเลีย ผมถือว่าเยาวชนเหล่านั้นนะครับ เปรียบเสมือนทูตพิเศษของประเทศไทย โดยต้องมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย รู้ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย จะต้องสามารถเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้กับต่างชาติได้นะครับ รวมความถึงจะต้องรับรู้สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นคนไทยเช่นกัน

สำหรับการแก้ปัญหาการทำประมงของเรานั้น อาจจะถูกมองข้ามมานับสิบปีนะครับ เรามีกฎหมาย แต่ก็ขาดการบังคับใช้อย่างจริงจังด้วยเหตุผลหลายประการ และความไม่ทันสมัยของกฎหมายด้วย และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการทำประมงระหว่างประเทศ และความเจริญทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เกิดปัญหาแรงงาน สิทธิมนุษยชน ปัญหาเสื่อมสภาพของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลตามมา ถ้าหากว่าเราไม่แก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็ว สิ่งสำคัญก็คือทะเลไทยนั้นจะไม่มีสัตว์ทะเลเหลือให้จับอีกต่อไป รวมความถึงถูกคว่ำบาตรสินค้าทางด้านประมงจะเกิดผลต่อธุรกิจเอกชน และผู้ประกอบการจำนวนมาก ทุกคนต้องร่วมมือกัน

ปัจจุบันนั้นมูลค่าส่งออกสินค้าประมงและธุรกิจต่อเนื่อง มีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอุตสาหกรรมประมงของประเทศ ที่เป็นแหล่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการดำเนินการดังกล่าวนั้นผมทราบดีนะครับ ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย ตลอดจนถึงชาวประมงพื้นบ้าน อย่างไรก็ตาม ผมรับทราบปัญหาแล้วนะครับ รัฐบาลจะดำเนินการดูแล เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถปรับตัวและผ่านช่วงนี้ไปได้ โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้าน และชาวประมงที่ถูกกฎหมายนะครับ มาตรการใดที่ไม่ขัดกับ IUU Fishing แล้วก็เป็นเรื่องภายในของประเทศซึ่งไม่มีผลเสียต่อการทำลายทรัพยากร ผมก็ได้สั่งการในที่ประชุมให้หน่วยปฏิบัตินั้นได้ไปร่วมมือกันในการแก้ปัญหานะครับ ก็ได้แก่ ศปมผ. แล้วก็กรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนะครับไปปรับแก้เพื่อให้ผู้ประกอบการดังกล่าวและชาวประมงมีเวลาปรับตัวนะครับ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เสียผลจอง IUU ด้วยนะครับ

เพราะว่าหากเราแก้ปัญหาได้สำเร็จนั้นสัตว์น้ำในทะเลไทยก็เพิ่มขึ้น ผมได้รับรายงานว่าประมงพื้นบ้านวันนี้ได้มีการจับปลามากขึ้น ตามลำดับนะครับ แสดงว่าการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ถูกต้องทำให้สัตว์น้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ นึ่ได้หายไปจากท้องทะเลไทยเป็นจำนวนมากนะครับ ก็โตไม่ทันนั่นแหละ แล้วก็ประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นประมงท้องถิ่นนะครับ ไม่มีรายได้หรือได้น้อยมาก เพราะว่า ปลาถูกจับไปโดยอวนที่ผิดกฎหมายนะ เป็นจำนวนมากนะครับ

วันนี้ชาวประมงพื้นบ้านก็มีความสุขขึ้นนะครับ ก็มีรายได้ หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้ไปปิดกั้นอะไรท่านอยู่แล้วนะครับ เพียงแต่ว่าท่านกรุณาไปทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย เราก็ไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำลายอาชีพของท่านเลย ผมเห็นมาฟัง มาพูดในโทรทัศน์บ้างอะไรบ้าง สื่อก็ต้องช่วยผมนะครับ ถ้าท่านขยายความไม่เข้าใจไปเรื่อยๆ มันก็จะทำให้โอกาสในการที่จะปลดใบเหลืองของ IUU นั้นมีน้อยลงนะครับ การที่เราสามารถดำเนินการได้ในวันนี้ แล้วก็เห็นชาวประมงเริ่มยิ้มแย้มแจ่มใสได้ก็จากการที่เราชะลอ หรือผ่อนผันในบางเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ เพื่อให้ประกอบการได้ แล้วเรือที่ถูกกฎหมายก็มีมากขึ้นเพราะมีการเปลี่ยนเครื่องมือบ้าง ติดอุปกรณ์ต่าง ๆ บ้างตามกฎหมายทุกประการนะครับ มีบัตร มีการตรวจสอบย้อนหลังได้ อะไรเหล่านี้

ต้องขอบคุณนะครับทุกคนเลย ทุกชาวประมงที่ร่วมมือนะครับ ที่ยังไม่ร่วมมือก็ขอความร่วมมืออีกด้วยนะครับ ก็ขอให้ทุกกลุ่มนะครับ ทั้งในส่วนของเรือประมงน่านน้ำนะครับ ในส่วนของเรือประมงพาณิชย์ หรือประมงพื้นบ้านที่ไม่เคยมาจดทะเบียน ก็มาทยอยจดทะเบียนได้ ในระยะเวลาที่กำหนดไว้นะครับ เรามีศูนย์จดทะเบียนกลางน้ำอีก นะ ลอยลำจดให้ก็มี บางคนก็อ้างว่าไม่มีเวลา ผมก็ให้ทหารเรือนี่เอาเรือไปจอดลอย รับจดทะเบียนอีกต่างหาก ก็ทำได้เท่านี้นะ ไปตามทำให้ทุกลำไม่ได้ ท่านก็ต้องปรับเวลาของท่านมาให้เจอ ไม่งั้นมันก็เป็นอยู่แบบนี้

เรื่องอาชญาบัตรการทำประมง ก็ออกได้มากขึ้น ถ้าท่านเปลี่ยนเครื่องมือให้ถูกต้องซะ ติดเครื่องไม้เครื่องมือตามที่กฎหมายต้องการ กฎหมายกำหนดไว้ มันก็ออกได้ทั้งหมดนะครับ ถ้ามันทำได้ แต่ถ้าท่านไม่ทำมันก็ออกไม่ได้ ก็แค่นั้นเองนะ แล้วรัฐบาลก็พร้อมรับฟังข้อเสนอต่าง ๆ การขออาชญาบัตรชาวประมงพื้นบ้าน วันนี้ให้ผ่อนผัน ให้ รวมชนิดของการประมงได้ ที่ผ่านมา แยกประเภทกันมากเกินไป ทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่าสร้างความสูญเสียกับทรัพยากรประมงน้อยที่สุด แต่ต้องใช้อุปกรณ์เหมือนกัน

สำหรับผลกระทบนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเรือที่ใช้ผิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สามารถออกเรือได้ แต่เรียกร้องเหล่านี้ ผ่อนผันให้ไม่ได้นะ ถ้าท่านทำไม่ถูกต้อง ท่านอาจต้องสูญเสียรายได้ มันก็เป็นเหตุผลและความจำเป็น ทั้งในเรื่องลูกเรือ แรงงานบนเรือ ผิดกฎหมายเหล่านี้ เพราะเราติดเรื่องกฎหมายค้ามนุษย์เข้าไปด้วย เพราะฉะนั้น เกิดมาเป็น10 ปี แล้ว ต้องแก้ทั้งอัน เชื่อมโยงกันไปหมดเลย การค้ามนุษย์อีก การไอยูยู การห้ามจับสัตว์น้ำประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศอื่นๆ แล้วแต่ มันพันไปหมด ทุกประเทศกำลังปรับปรุงอยู่ มีบางประเทศปิดอ่าวไปแล้ว เราก็เข้าไปจับไม่ได้อยู่แล้ว แก้ให้ถูกต้อง รัฐบาลพยายามพูดคุยกับทุกประเทศอยู่นะครับ

ในเรื่องกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง แพปลา เมื่อวานนี้ ผมดูในข่าว เห็นแพปลาเริ่มมีปลาเข้า เมื่อเรือที่สามารถออกได้มากขึ้น และเรือประมงพื้นบ้านสามารถจับปลาได้มากขึ้น เรื่องปลาที่ขึ้นมาที่ท่ามีมากตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะลดลงบ้าง ในช่วงนี้ถือเป็นการชั่วคราว ผลกระทบต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายทางที่ดีขึ้น มีเรือออกไปทำประมงมากขึ้น วันนี้ เราต้องสร้างความชัดเจนให้ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นมา สำหรับเรือที่หยุดทำการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นั้น สาเหตุหลัก 3 ประการนะครับ คือ 1. เป็นเรือที่อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารให้ถูกต้องเรียบร้อยตามระเบียบของราชการ 2. สภาพอากาศ มีคลื่นลมแรงนะครับ ประกอบกับเป็นช่วงคืนเดือนหงาย เรือประมงจะหยุดออกเรือในช่วงดังกล่าว 3. ก็เป็นเรือที่ไม่สามารถออกอาชญาบัตรให้ใหม่ได้ เพราะใช้เครื่องมือประมงที่รัฐบาลควบคุมนะครับ

การสำรวจเรือที่ภาครัฐดำเนินการขณะนี้ต้องการให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง ใกล้เคียงความเป็นจริงนะครับ เพื่อนำมาคำนวณเป็นค่าผลจับสูงสุดที่ยั่งยืน มาจัดสรรทรัพยากรประมง ทำให้เกิดความสมดุลระหว่าง ระดับการใช้ทรัพยากรประมง กับ ปริมาณทรัพยากรประมงที่มีอยู่อีกทั้งช่วยให้กรมประมงสามารถออกอาชญาบัตรทำการประมงในแต่ละปีให้สอดคล้องกับปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีอยู่จริง ซึ่งจะก่อให้เกิดการทำประมงอย่างเป็นระบบและยั่งยืนในที่สุด

สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่นั้น นอกจากให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ IUU แล้วนะครับ รัฐบาลมุ่งหวังดูแล ให้ความสำคัญกับประมงพื้นบ้าน การรักษาทรัพยากรประมง ให้คงอยู่และเพิ่มขึ้นในอนาคต พี่น้องประชาชน แล้วก็ชาวประมงทุกคนนะครับ ต้องเข้าใจด้วย อะไรที่เป็นปัญหา IUU นั้นเราผ่อนผันให้ไม่ได้ แต่ในส่วนที่สามารถผ่อนผันได้ เราก็ได้ดำเนินการไปแล้วนะครับ ก็ขอความร่วมมืออีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่เราจะได้รับคือเราจะมีปริมาณการจับสัตว์น้ำในทะเลไทยที่ยั่งยืน ปลาโตทัน นะไม่งั้นมันโตไม่ทัน ถูกกวาดจับทั้งหมดด้วยอวนตาถี่บ้างอะไรบ้างที่ผิดกฎหมายนะครับ ฉะนั้น เราต้องช่วยกันสร้างสิ่งดีๆ และสร้างสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อทรัพยากรประมงทะเลเพราะที่ผ่านมาท่านก็ได้ใช้ทรัพยากรดังกล่าวจนหมดสิ้นไปแล้ว เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานจนโตขึ้นมาแล้ว นะวันนี้ท่านก็ต้องกลับมาดูซิว่ารุ่นต่อ ๆ ไป จะอยู่กันอย่างไรถ้าจับปลากันจนหมดแล้ว ก็ไม่มีอยู่ดี ยังไงประมงก็ทำต่อไปไม่ได้ ท่านต้องเปลี่ยนผ่านให้ได้นะครับในช่วงนี้นะครับ

เราถือว่าทรัพยากรประมงทะเลนั้นเป็นสมบัติของชาติ ให้แก่ประชาชนรุ่นต่อๆ ไปด้วย สำหรับทรัพยากรของชาตินั้นเป็นสมบัติของพวกเราทุกคนนะครับ ทุกคนต้องช่วยกันรักษาส่งต่อให้ลูกให้หลาน ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรทางบก ในเรื่องของป่า เราได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการบุกรุกนะครับ ผืนป่า ต้นน้ำ ในภาคเหนือซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย รายงานที่ได้รับ ภาพที่ได้เห็นน่ะนะครับ น่าเป็นห่วงนะครับ ปัจจุบันทรัพยากรป่าของเราถูกบุกรุกทำลายกว่า 8.6 ล้านไร่ มีผู้บุกรุกกว่า 8 แสนคนนะครับ ชาวไทยพื้นที่สูง 80% ชาวไทยพื้นที่ราบ 10% และนายทุน 10% คิดเป็นค่าเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 469,000 ล้านบาทนะครับ ปัญหาสำคัญเกิดจาก การทำสวนยาง การปลูกข้าวโพด ปลูกกะหล่ำบนพื้นที่สูง การบุกรุกป่าต้นน้ำโดยกลุ่มนายทุน ก็คงต้องขอความร่วมมือด้วยนะครับ แล้วก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย แล้วก็จะดูแลผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นกลุ่ม ๆ พวก ๆ ไปนะครับ

สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาว จำเป็นต้องบูรณาการมีการปฏิรูปการอนุรักษ์ผืนป่า การปฏิรูปการจัดสรรที่ดินทำกิน ของคณะกรรมการที่ดินทำกินแห่งชาติ ของรัฐบาลปัจจุบันเข้าด้วยกันนะครับ โดยน้อมนำแนวทางพระราชดำริฯ ในการ “ดูแลพื้นที่ พัฒนาคน พัฒนาอาชีพ และให้คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน” มาใช้โดยต้องเป็นการ บูรณาการการทำงานของ 6 กระทรวงหลักกับ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การบูรณาการจัดการป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพบนพื้นที่สูงชัน หรือที่เรียกว่าภูเขาหัวโล้นนะครับ รัฐบาลนี้จะเริ่มต้นไว้ให้ ซึ่งต้องอาศัยการทำงานที่ประสานสอดคล้องของทุกหน่วยงาน รวมทั้ง ความเข้าใจและการสนับสนุนจากประชาชนที่เป็น “เจ้าของป่า” ในแต่ละพื้นที่ มีระยะเวลาดำเนินการ 20 ปี 2558 - 2578 นะครับ ผมก็ทำระยะต้นให้เท่านั้น ก็จะเป็นระยะเร่งด่วน 2 ปีแรก ปี 2558 - 2559 ใน 2 พื้นที่นำร่อง จ.น่านและ จ.เชียงใหม่ ระยะปานกลาง10 ปี 2560 - 2569 ในพื้นที่ 13 จังหวัด คือ 40 % ของพื้นที่เป้าหมายในภาคเหนือ และระยะยาว 9 ปี ปี 2570 - 2578 นะครับ จะดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายที่เหลือทั้งหมดรูปแบบการจำแนกพื้นที่ 4 ส่วน ประกอบด้วย 1) ป่าอนุรักษ์ดินและน้ำ 60% 2) ป่าชุมชน 10 - 20% 3) ที่ทำกินและป่าเศรษฐกิจชุมชน 15 - 20% และ 4) ที่อยู่อาศัยประมาณ 5%นะครับ ทั้งหมดเป็นไปตามหลักวิชาการ ชาวไทยบนพื้นที่สูง จะได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้คงมีอาชีพอยู่กับป่า และดูแลป่าต่อไปด้วยครับ

ในการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 7 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 2 - 4 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ผมและคณะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เป็นกันเองเช่นเคยนะครับ พบปะกับท่านผู้นำทุกท่าน ผลการประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางบรรยากาศของความเป็นมิตร ผมได้ยืนยันบทบาทของไทยในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา และร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ความร่วมมือฉบับใหม่คือ ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2015 ได้กำหนดเป้าหมายแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อจะเป็นพลังขับเคลื่อนของอาเซียน และภูมิภาคที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์กับประเทศ CLMV และญี่ปุ่น และไทยด้วยนะครับ

โดยไทยให้ความสำคัญของการเติบโตอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน มั่นคง ครอบคลุมทุกมิติ คำนึงถึงความมั่นคงในการรักษาทรัพยากรมนุษย์และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาความเชื่อมโยง และส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกได้มีการเติบโตไปพร้อมกัน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้มีการสร้างงาน สร้างรายได้ อาทิ โครงการทวายระหว่างไทย - พม่า - ญี่ปุ่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในลุ่มน้ำโขง ที่สอดคล้องเชื่อมโยงกัน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ตลาดชายแดน การส่งเสริมการลงทุนในอนุภูมิภาค ภายใต้หลักการ Thailand +1

ความร่วมมือด้านสินค้าการเกษตร มีการผลักดันการเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทยหลาย ๆ อย่าง ทั้งข้าว ทั้งยาง ผลไม้ และอื่นๆ เนื้อสัตว์แช่แข็งด้วยนะครับ รวมทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงาน การร่วมมือทางด้านการฝึกอบรมวิชาชีพ เหล่านี้ได้มีการหารือทั้งสิ้น

ในเรื่องการเดินหน้าพัฒนาประเทศนั้น หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมีแผนการพัฒนาประเทศที่เรียกว่า ยุทธศาสตร์ชาติที่ชัดเจนนะครับ ของเราไม่มีนะครับ ไม่เคยมี มีแต่แผนของสภาพัฒน์ เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องมีนะครับ โดยหลักการแล้ว ทั้งประเทศเขาใช้ แม้กระทั่งบ้านเรา ทางทิศใต้เขามีมาประมาณ 20 ปี แล้ว แล้ววันนี้การเจริญเติบโตเขาไปเร็วมาก เขาพ้นการเป็น เพราะงั้นเราต้องกำหนดให้ชัดเจน ที่เราจะเดินหน้าประเทศเราไปทางใด เพราะฉะนั้น บทบาทของประเทศในเวทีโลก เราควรจะต้องยกระดับไหม สร้างความเข้มแข็งมากกว่าเดิมไหม ไม่ว่าจะเป็นการเมืองฝ่ายใด พรรคใดก็ตามเข้ามาบริหารประเทศ มันก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของกรอบการพัฒนานี้ เพราะที่ผ่านมา ผมเข้าใจว่า การพัฒนาของประเทศไทยมันค่อนข้างไร้ทิศทางชัดเจน ไม่สามารถกำหนดให้ประเทศไทยพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ เราจะเป็นประเทศเกษตรกรรม หรืออุตสาหกรรม หรือเกษตรอุตสาหกรรม จะเอาไง มันก็น่าจะเป็นเกษตรอุตสาหกรรมด้วย เพราะอย่างเดียวมันไปไม่ได้ ต้อง 2 อย่าง แต่ไม่มีการขัดแย้งซึ่งกันและกัน และไม่เกิดมลพิษ มลภาวะในประเทศ ตลอดจนเราสามารถเป็นศูนย์กลางการค้า การเงินการบริการ ประชาชนจะมีอาชีพรายได้ที่ยั่งยืน ต้องคิดหมดจะทำอย่างไร วันนี้ รู้ปัญหาหมด ต้องคิดวิธีการให้มันสอดคล้องกัน เพราะฉะนั้น ต้องสอดคล้องกับทิศทางต่าง ๆ ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ และจากนั้น เป็นแผนของสภาพัฒน์ เป็นแผนของกระทรวง มันต้องมีแม่แบบตัวบน คือยุทธศาสตร์ชาติ

เพราะฉะนั้น วันนี้เกษตรกรมีความเดือดร้อน ลูกหลานการเกษตรละทิ้งอาชีพจากเดิมพ่อแม่ มาหางานทำในเมือง เพราะงานเบาลง รายได้ดีขึ้น แต่แรงงานภาคเกษตรอ่อนแอลง ทั้งการเงิน ความรู้ เทคโนโลยี อายุเกษตรกรก็มากขึ้น หนี้สินมากขึ้น จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ให้ชัดเจนขึ้น จะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร เกษตรอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะต้องมีคนในครอบครัว มีที่อื่นไหมจะดูแลพ่อแม่ ครอบครัวระหว่างที่รอพืชผลกว่าจะเก็บผลได้ มีรายได้

ในเรื่องความมั่นคงนั้น ความมีเสถียรภาพทางการเมือง ที่เราจะทำทุกอย่างได้นั้น มีความจำเป็น วันนี้ เวลานี้ เราน่าจะไม่ใช้การเมืองที่แบ่งแยกคนไทยออกเป็นฝักเป็นฝ่าย เพราะผมเรียนแล้วว่าผมไม่ใช่นักการเมืองที่ทำให้เกิดการแบ่งแยกคนไทยออก เป็นฝักเป็นฝ่าย เพราะผมเรียนแล้วว่า ผมไม่ใช่นักการเมือง แล้วเราไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเมือง หรือจากการเลือกตั้งนะครับ

แต่เราเป็นรัฐบาลเพื่อการปฏิรูป เพื่อหยุดความขัดแย้ง แล้วเดินหน้าประเทศ ในสิ่งที่มันต้องใช้ความเร่งด่วนในการแก้ไข ต้องใช้กฎหมายพิเศษบ้าง อะไรบ้าง ผมไม่ต้องการจะสร้างความขัดแย้งใหม่ให้เกิดขึ้นนะครับ เพียงแต่ต้องการแก้ปัญหา แล้วเดินหน้าประเทศให้ได้ แล้วก็ส่งต่อไปนะครับ เราต้องมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน รายได้ของประเทศเราจะมาจากไหน หนี้สาธารณะจะจัดการอย่างไร สัดส่วนรายได้จากภาคการผลิต ภาคการบริการ ภาคการค้า มันควรจะเป็นเท่าไร อย่างไร เพื่อจะเพิ่ม GDP ให้มากขึ้นนะครับ รายได้ประเทศก็มากขึ้น เพราะงั้นการศึกษา เราต้องพัฒนาเยาวชนให้มีความพร้อม ตรงความต้องการ มีทักษะ มีงานทำ ทำงานเป็น ด้านไหน อย่างไร

ตามความสมัครใจนะครับ แล้วในเรื่องของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ นักวิจัยพัฒนา วิทยาศาสตร์ ควรจะต้องเพิ่มเติมไหม ด้านใดด้านหนึ่งที่เป็นศักยภาพของประเทศเรานะครับ ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมของประเทศ ก็เดินหน้าไปเรื่อย ๆ นะครับ รถไฟ รถไฟฟ้า ถนน เส้นทางต่าง ๆ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ การขนส่งทางน้ำ ทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ก็ทำทั้งหมด แหละนะครับ เพียงแต่ว่ามันอยู่ในระยะเริ่มต้น มันทำไม่ได้เสร็จทีเดียวหรอก รัฐบาลหน้าทำต่อไป ผมทำให้ในระยะแรกนะครับ ไม่อยากให้มีปัญหา

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้สั่งการใน ครม. นะครับ ให้ช่วยไปจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็มีหลายคณะที่ทำอยู่ วันนี้รัฐบาลก็ตั้งคณะหนึ่ง แล้วเสร็จแล้วก็ทำหารือกันในฝ่ายของรัฐบาล ครม. เพราะเป็นคนรู้ปัญหา เป็นคนขับเคลื่อนในขณะนี้ ในระยะที่ 1 อยู่แล้ว เพราะงั้นเราก็จำเป็นต้องเขียนระยะยาว แล้วส่งไปให้สภาปฏิรูปนะครับ เข้าไปบรรจุไว้ในแผนการปฏิรูป แล้วก็ไปสู่การมีกฎหมายมีองค์กรที่จะขับเคลื่อน แล้วต้องมุ่งไปสู่เรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญด้วยนะครับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น เกิดความต่อเนื่อง และรับการรับรู้ การยอมรับจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายนะครับ รวมทั้งรัฐบาลต่อไป แต่ผมก็ระมัดระวังนะครับ ไม่อยากให้เกิดปัญหาการบริหารประเทศของรัฐบาลในอนาคตนะครับ ผมไม่ทราบว่าท่านเป็นห่วงเหลือเกินนะ การที่เราจะทำยุทธศาสตร์ชาติการที่จะกำหนดแนวทางในการพัฒนาประเทศท่านก็ต่อต้าน ท่านก็ไม่เห็นด้วยอะไรต่างๆ ก็ท่านไม่ทำยังไง ผมก็ต้องทำไว้ให้ แต่ท่านจะทำหรือไม่ ทำวันหน้าประชาชนก็เรียกร้องเอานะครับ ถ้าเห็นว่าที่ผมทำแล้วมันดี ท่านก็ไปให้รัฐบาลใหม่เขาทำแล้วกัน ผมเพียงมุ่งหวังให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิรูปอย่างแท้จริง

ในเรื่องโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนะครับ รัฐบาลวางแผนระยะยางไว้ จะเห็นได้ว่าวางไว้ถึง 65 บ้าง 69 บ้าง อะไร นี่ก็ไม่ใช่ผมจะใช้เงินทั้งหมดไปถึงโน่นเลยไม่ใช่ บางอันมันต้องใช้เพราะเป็นโครงการ G to G นะครับ บางอย่างเป็นระยะ ๆ ไป อันไหนทำได้ผมก็ทำ ที่จะต้องทำให้หนี้สาธารณะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก แล้วก็มีขีดความสามารถในการชำระหนี้ ชำระดอกเบี้ย ชำระเงินต้นอะไรก็แล้วแต่ ไม่อยากสร้างภาระไว้นะครับ ผมทำอย่างระมัดระวังที่สุด นี่คือปัญหาของการบริหารราชการที่มัน ผมว่ามันยากตรงนี้ ทำอย่างไรถึงจะไม่เป็นภาระ ถ้าทำแล้วมีภาระนี่ ทำแล้วให้คนรักคนชอบ ทำง่ายอยู่แล้ว

เราจะเป็นต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การเชื่อมโยงในภูมิภาค ด้วยการพูดคุยที่มันมีแนวทางที่ชัดเจนกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้ วันนี้ชัดเจน ไทยเสนอตัวที่จะเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน ของอาเซียน ร่วมมือกันนะครับ ไม่ใช่เราประเทศเดียวอาเซียน CLMV ทั้งหมดนี่ต้องร่วมมือกันเป็นศูนย์กลางทั้งหมด พูดง่าย ๆ ศูนย์กลางโลกก็แล้วกันในด้านนี้นะครับ ได้มีการเริ่มลงทุนบ้างแล้วบางโครงการ เช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือเส้นทางรถไฟทางคู่ จิระ - ขอนแก่น อันนี้เป็นเส้นทาง 1 เมตร ปีหน้าเพราะว่ามันสวนกันได้บ้าง ที่ผ่านมามันสวนกันไม่ได้เลย จะเริ่มเห็นการลงทุนที่เป็นรูปธรรมในปลายปีนี้ แล้วก็ต้นปีหน้า

อีกหลายโครงการก็มีการศึกษาทำรายละเอียด และทำโครงการนะครับ ที่จะดำเนินการต่อไป ทั้งระบบราง ระบบการขนส่ง การปรับปรุงสนามบิน เพื่อรองรับการค้าการลงทุน รวมไปถึงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็เป็นแต่เพียงระยะแรก ทำได้เท่าไร ผมก็ทำเท่านั้น แล้วก็ผมทำให้จบไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันใช้เงินเยอะ และก็ยาวนะครับ ผมได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เข้าไปดูและประเมินถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนทุกคนอยากให้เกิดเร็ว แต่เราก็อย่าลืมว่าภาระมีเยอะ ภาระวันนี้มีทุกเรื่องเลย ที่เกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจโลกด้วย อะไรด้วย ความยากจนความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม มันต้องใช้เงินทั้งหมด ถ้าเราไปทุ่มเทอันใดอันหนึ่งมันก็ไม่ได้ แต่ถ้าไม่ลงทุนเลย มันก็ไม่ได้อีก คนจนก็ต้องดูแล การศึกษาก็ต้องให้ สาธารณสุขก็ต้องปรับใหม่โอ้ย เยอะแยะนะ รายได้เรายังไม่เพิ่ม แต่เราต้องลงทุนไว้ คาดว่าน่าจะมีผลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้นะครับ จะทำให้เราทันเขา เราจะเสียเปรียบเขาไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เราต้องทำ อย่างไรก็ตาม เราต้องมั่นคง และสำรวจการใช้จ่ายของรัฐบาล อยากให้ประชาชนเข้าใจ เราต้องรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศให้ได้ รวมทั้งความผูกพันต่าง ๆ ที่เราจะต้องส่งต่อให้รัฐบาลถัดไปด้วยนะครับ รัฐบาลนี้เริ่มต้นวางแผนงานโครงการเข้าไปลงทุน ร่วมทุนบ้าง ลงทุนเองบ้าง เอกชนลงบ้างอะไรต่าง ๆ ในชั้นต้น ระยะต้น มันก็ไม่เป็นระยะยาวหรอก เราจะได้แบ่งปันกันไปนะครับ วันนี้ต้องเริ่มทั้งรัฐ เอกชน ร่วมมือกัน

ในเรื่องของการศึกษารายละเอียดเรื่องเส้นทางความเร็วสูงกับญี่ปุ่นนะครับ กำลังศึกษากันอยู่ คาดว่าคงใช้เวลาที่จะศึกษาต่อปีหน้าก่อนคงยังเกิดเร็วไม่ได้ เพราะว่าต้องหารือกันเรื่องการลงทุนด้วยนะครับ หากว่าเราสำรวจความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว จะส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนต้องเข้มแข็งก่อน รัฐบาลจะส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนหลายอย่างแล้วนะครับ กำลังอยู่ในขั้นการแสวงหาความร่วมมือ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ให้เกิดความเป็นธรรม สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ

คราวนี้ในเรืองของการทำสัญญาต่าง ๆ นั้น ได้มีการเพิ่มคำว่า สัญญาคุณธรรม (IP) นะครับมาใช้ โดยทั้งหน่วยงานภาครัฐ และผู้จัดซื้อจัดจ้าง เอกชนทุกคนนั้น จะต้องลงนามในสัญญาที่ว่า จะไม่มีการรับหรือให้สินบน รวมทั้งระบบ Cost มาจากประเทศอังกฤษนะครับ แล้วก็การตรวจสอบของภาคเอกชนนั้น มันต้องมีขั้นตอนของมันนะครับ ว่าโครงการใดบ้างที่จะเข้าตรวจสอบปริมาณราคาเท่าไร อะไรยังไง ไม่ใช่ตรวจสอบกันทุกโครงการ มันเดินหน้าไม่ได้สักอันนะครับ แล้วมันก็มีปัญหาเรื่องอะไร การใช้จ่ายงบประมาณ เพราะว่าเล็กน้อยโดนหมด ไม่ได้ ประชาชนจะเข้ามาดูหมดมันก็ไม่ใช่อีก ไปดูตอนเขาสร้างแล้ว หรือกำลังสร้างอยู่ว่า ทุจริตหรือเปล่า ก็ได้อีกนี่ครับ ก็แจ้งมา ผมจะได้ยุติและลงโทษ

เพราะฉะนั้น ต้องไว้วางใจกันขณะนี้ การออกทีโออาร์ การประกวดราคา การก่อสร้าง การตรวจรับงาน ผลที่เกิดขึ้น อันนี้ผมก็ดูให้หมดนะครับทุกมิติ ก็น่าจะเป็นที่ไว้วางใจได้

เรื่องความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความมีเสถียรภาพของประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทุกอย่างที่ผมกล่าวข้างต้น มันเดินหน้าไปได้ ก็อยากขอความร่วมมือคนไทยทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกระดับ อย่าเป็นศัตรูกันอีกเลย ถ้าเป็นเรื่องกฎหมาย เราต้องมาหารือกัน ร่วมมือกัน อยากให้ทุกคนรับรู้สถานการณ์ ปัญหาความเสียหายต่าง ๆ ที่ประเทศนี้เกิดขึ้น จากการเป็นประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ วันนี้เราสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ใครก็ต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองอะไรก็แล้วแต่ ในอดีต ถ้าจะเลือกตั้งต่อ ไม่มีความผิดต่าง ๆ ก็เข้ามาผมไม่ได้รังเกียจอยู่แล้ว

เรื่องการศึกษา ฟังการพูดคุยของบุคลากรทางการศึกษา มีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา และนักวิชาการ บุคลากรต่าง ๆ ทุกคนรู้ปัญหาหมด แต่ทำไมไม่แก้ไข ไม่ทราบเหมือนกัน แก้ไขไม่ได้ บางอันบอกว่า เป็นรัฐมนตรีน้อยเกินไป เปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อย แล้วใครเปลี่ยนละครับ พรรคการเมืองไม่ใช่เหรอเป็นคนเปลี่ยน รัฐบาลเป็นคนเปลี่ยนเอง ประชาชนไม่ได้เปลี่ยนท่านนี่น่า ก็ต้องบอกพรรคของท่าน บอกรัฐบาลของท่าน อย่ามาอ้างแบบนี้ เหตุผลฟังดูแลผมจับต้องไม่ได้ซักอย่าง รู้หมดละปัญหา แต่วิธี ฮาว ทู ดู ใครจะทำ ทำเมื่อไร ที่ไหน มีภาระให้กับประเทศชาติแค่ไหน ไม่พูดละ ต่อไปนี้ถ้าจัดรายการให้ก็พูดแบบนี้ด้วย พูดวิธีการทำด้วย พูดปัญหาใครก็พูดได้ การบริหารจัดการต่าง ๆ เหล่านี้ เรื่องการศึกษาสำคัญที่สุด หลักสูตรทันสมัยหรือเปล่า ทำอย่างไร แก้ไขระดับไหนบ้าง ผมจะเร่งทำตรงนี้ให้ การบริหารจัดการชั่วคราวทำยังไง ขบวนการยังไง เวลาเรียนของนักเรียนเด็ก ๆ มากเกินไปหรือเปล่า 8 กลุ่มวิชา จำเป็นไหม ลดตรงนู้น ค่าใช้จ่ายประเทศใช้เงินแสนกว่าล้าน การศึกษา เกือบ 1 ใน 5 ของงบประมาณทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เป็นงบบุคลากร งบประจำ ทำให้งบที่เหลือมาพัฒนาการศึกษาน้อยมาก และคนจนเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา เงินไม่พอ งบประมาณการผลิตครู ก็ไม่ตรงความต้องการ สถานฝึกอบรม หรือสถานศึกษาของเอกชนก็ผลิตคนที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ขาด เช่น ครูด้านวิทยาศาสตร์ ครูด้านวิจัย และพัฒนา ด้านคำนวณ คณิตศาสตร์ ไปผลิตในเรื่องของเป็นครูที่สอนทุกเรื่องมันน่าจะปรับเปลี่ยนนะ ผมว่าต้องตรงนะ แยกประเภท ใครจะผลิตอะไรต่าง ๆ มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชนนะ อาชีวะ ทั้งครู ทั้งนักเรียน ทั้งแรงงานที่มีฝีมือ มันต้องแบ่งแยกกันให้ทำ ผมขอร้องแล้วกัน ถ้าจะเอาแต่ อะไร การเรียนให้มากขึ้น ตอบแทนให้มากขึ้น แล้วท่านรับผิดชอบกับเขาไหม เขามาเรียนกับท่านแล้ว เสียเงินเสียทอง ไปแล้วจบไปแล้วไม่มีงานทำ ผมถามว่าท่านช่วยเราสร้างชาติหรือเปล่านี่ ท่านอาจจะไม่รู้ตัวนะ ไม่ได้เจตนาอย่แล้วผมเข้าใจ เพราะงั้นรัฐบาลก็จะจัดสรรปันส่วนตรงนี้ให้ได้ ก็ต้องขอความร่วมมือนะครับผมบังคับท่านไม่ได้อยู่แล้ว แต่ท่านต้องเห็นปัญหาของประเทศ

อีกเรื่องหนึ่งคือผมให้เพิ่มวิชา ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองกฎหมายเบื้องต้นนี่ ค่านิยม ผมไม่ได้หมายความว่า อันเดิมมันเรียนมากอยู่แล้ว ผมให้เอาวิชานี้ไปแทรก 4 - 5 วิชา ผมคงไม่เบาปัญญาขนาดนั้น เดิมนี่ท่านจำไว้ ปมสั่งให้ลดเวลาของเดิมให้ได้มากที่สุด ให้เด็กมีเวลาว่าง ที่จะอยู่กับพ่อกับแม่ มีเวลาว่างที่จะเรียนรู้ตามวัย คิดบ้างทดลองปฏิบัติบ้าง อะไรบ้าง ไม่ใช่ท่องตำราอย่างเดียว ทำหารบ้าน 2 อย่างหมดแล้ววันหนึ่ง ผมบอกอย่างนั้น เมื่อท่านลดตรงนั้นลงไปแล้วนี่ท่านถึงจะเอาวิชาของผมที่ว่านี่ ไปรวมกลุ่มซะ ทำไมจะต้องไปสอนอะไรกันมากมาย ไม่ใช่กฎหมายทั้งวิชา ไม่ใช่หน้าที่พลเมืองทั้งวิชา ไม่ใช่ค่านิยม 12 ประการ สอนกันเป็น 4 ชั่วโมง 5 ชั่วโมง ไม่ใช่หรอกครับ เข้าใจกันใหม่นะ เข้าใจใหม่ด้วยนะ ท่านก็รู้กันทั้งนั้นแหละ เพราะงั้นลดเวลาให้ได้มากที่สุด แล้วไปใช้เวลาในการคิดในการทำต่างประเทศเขาสอนในห้องแล้วเขา สอนวิธีการทำงานด้วย วันนี้จบมาแล้ว มีความรู้ ทำงานไม่เป็น คิดไม่ออก

นั่นแหละ ปัญหาของเรามีแค่นั้นแหละหลักๆ เพราะงั้นปัญหาเราจะต้องแก้ไขระยะนี้ให้เร็วที่สุด ในเรื่องที่มันแก้ได้ โดยทันทีหลักสูตรนี่ทำยังไง แปลงให้ได้เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ไปวางแผน 5 ปี 10 ปี มันจะไปทันการอะไรล่ะครับ ทำมันปีนี้แหละ เดี๋ยวผมจะกวดขันในเรื่องนี้ ทำปีนี้นะ ไม่งั้นมันไม่มีผลสัมฤทธิ์อะไร ในปีนี้ให้ผมจับต้องได้ แล้วประชาชนข้างนอกก็รับไม่ได้ ในเรื่องของการแก้ไขโครงสร้าง ในการบริหารจัดการ จะ 5 แท่ง 6 แท่ง จะ 10 แท่ง เหลือแท่งเดียว โน้นส่งสภาปฏิรูป ถ้าอยากให้เขาทำตอนนี้หรอ ส่งมาผมจะมาตรา 44 ให้ จะเหลือแท่งเดียวก็เอา

เพราะฉะนั้นทุกอย่างในการเปลี่ยนแปลงที่จากของเดิม กระทรวงศึกษานะครับ ฝ่ายสังคมวิทยาก็ต้องขออนุมัติผม คณะรัฐมนตรี ครม. ให้ความเห็นชอบด้วยนะครับทุกเรื่อง เรื่องที่ผมพูดไปเมื่อกี้ อย่าเพิ่งไปทำอะไรเองทั้งหมดนะครับ ทุกคนตั้งใจ ผมเข้าใจ แต่ต้องตรงกับสิ่งที่ผมต้องการ ผมมองในเชิงบริหาร ในเชิงปฏิบัติ ผลสัมฤทธิ์ แต่เอาวิชาการมาจับต้องด้วย ผมก็ถามท่านทุกอัน แต่สิ่งที่ผมต้องการจากทุกกระทรวงวันนี้ก็คือ เร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลรูปธรรม ภายในปี 2559 เพราะผมจะต้องไปเป็นตามรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาทุกอันนะครับ

ปัญหาภัยแล้งวันนี้กำลังแก้ไขปัญหาเรื่องการบริหารจัดการแหล่งน้ำที่มีอยู่ ต้นทุนที่มีอยู่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ทำไปหมดแล้วนะครับ หลายชุมชนยังมีการเบิกจ่ายที่ว่าล่าช้านี่ มันก็ 70% นะครับ ไอ้เราก็มุ่งหวังให้มันมากกว่านี้ จริง ๆ แล้วมันก็มากอยู่พอสมควร เพียงแต่ทำเป็นงวดๆ งาน เบิกเงินออกไปมันต้องเบิกตามงวดงาน ถ้าทำไม่เสร็จก็เบิกไม่ได้ นั่นแหละผมก็ไล่อย่างนี้ ทำไม่ได้ ทำไมมันช้าหรือเปล่า ช้าเกินไปไหม ประสิทธิภาพดีไหม เหล่านี้มีการตรวจสอบหรือเปล่า อันไหนที่ตรวจสอบแล้วก็ให้ทำๆ เร็วๆ ไม่อย่างนั้นไม่เสร็จซักที มันก็เบิกเงินไม่ได้ เงินไม่ออกไปใช้จ่ายข้างนอก ผมไม่ได้หมายความว่า ใครบกพร่องหรอกนะ สื่อกรุณาอย่าไปตีความให้มัน ให้ผมไปทะเลาะเบาะแว้งกับคนทุกคน ประเทศนี้ไม่รู้เป็นไร

เรื่องการเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในห้วงนี้ รัฐบาลก็หามาตรการทุกอัน เรื่องผลกระทบ ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ สภาวะภัยแล้ง ทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การส่งเสริมการจ้างงานเพิ่มเติมให้กับพี่น้องที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ จะไปจ้างให้ขุดอะไร แหล่งน้ำขนาดเล็กโดยใช้แรงงาน มีค่าจ้างให้ มันได้มีเงินมาใช้จ่ายไง ระหว่างที่ปลูกพืชไม่ได้ คงช่วยได้เฉพาะในพื้นที่ที่ทำการเกษตรไม่ได้เลย ที่ทำได้วันนี้ฝนก็เริ่มลงแล้ว ต้องยอมรับว่า จะช่วยกันอย่างไร จะมีการฝึกอาชีพ ฝึกงานเพิ่มเติมนะครับ รวมทั้งได้มีการสนับสนุนการลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี และภาคเอกชน หรือ Social Business นะครับ เพื่อช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ ควบคู่ไปด้วย

ในเรื่องของการปฏิบัติน้ำ อย่าตระหนกนะครับ วันนี้ฝนเริ่มตกแล้วหลายจังหวัดด้วยกัน ปริมาณน้ำในเขื่อนบางเขื่อนก็สูงขึ้น ถึงแม้ว่าปริมาณยังน้อยอยู่ แต่สิ่งสำคัญก็คือว่าเริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าเรียกร้องมากเกินไป มันก็ไม่เกิดประโยชน์ ยังไงฝนก็ยังไม่ตก ถ้าตกแล้วค่อยพูดกัน แล้วก็บริหารจัดการใหม่

มีหลายเรื่องที่อยากจะเติมอีกนิดหนึ่ง เมื่อฝนตกแล้วต้องระมัดระวังเรื่องอะไร เรื่องวาตภัย ลม คลื่นลมแรง ในทะเลอีก เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุอีก การท่องเที่ยวอีก อะไรอีกนะครับ โดยเฉพาะพี่น้องชาวประมงน้ำตื้น ประมงพื้นบ้านต้องระมัดระวัง ให้ส่วนราชการทุกส่วนให้มีการเตรียมการ การช่วยเหลือให้พร้อม มีการซักซ้อมไว้ด้วยนะครับ

ในเรื่องของการขุดลอกบ่อน้ำ ขุดลอกอะไรต่าง ๆ นี้ ทางฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจก็กำลังไปดำเนินการ มหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ใช้งบประมาณของรัฐบ้าง งบประมาณของแต่ละหน่วยงานบ้าง ที่ให้ไปแล้วไปปรับเปลี่ยนดูบ้าง ทั้งนี้ ก็เพื่อจะช่วยเหลือเกษตรกรที่มีความเดือดร้อน เป็นพื้นทีๆ ไป ไม่ใช่ว่าทุกพื้นที่ต้องได้ เท่ากันหมดมันเป็นไปไม่ได้ วันนี้ก็ต้องเผื่อแผ่ แบ่งปันกันบ้าง

ในส่วนของการจัดการ ปฏิรูป เปิดเวที เปิดโอกาส เปิดเวลาให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยกันนั้นความมุ่งหมายก็คือว่าผมต้องการให้โอกาสนะครับ ทุกคน เดี๋ยวเราจะมีโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ทั้งที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ได้มาคุยกัน ออกสื่อออกมายนะ ทั้งสองฝ่ายก็มีทั้งสนับสนุน ไม่สนับสนุน ทั้งที่มาสนับสนุนรัฐบาล อีกพวกก็ไม่สนับสนุน ก็จะเอาทั้ง 2 พวกมาคุยกัน ไม่ใช่มาตีกันนะ มาคุยกัน แล้วดูว่าเออ จะทำความเข้าใจกันได้อย่างไร นักวิชาการก็มีทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย

วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างจะไปไหนได้ช้า อาจจะเป็นลักษณะของเราก็ได้ คือเราจะไม่ปล่อยวางเรื่องอะไร สักเรื่องหนึ่ง ทุกเรื่องก็เก็บมาเป็นปัญหาได้หมด เลยทำให้ทำงานอะไรไม่ได้ เพราะเมื่อ 2 คน เก่งทั้งคู่ 2 คนก็ต้องคุยกันให้ได้ หรือ 3 คน คุย 3 คน 4 คน คุย 4 คน 100 คนก็คุย 100 คนถ้าทุกคนมี 100 ปัญหา แล้วไปกันไม่ได้สักปัญหา มันเดินไม่ได้สักเรื่องคุยกันก็ไร้ประโยชน์ ตีกันทุกวัน ถ้าร้อยคนร้อยปัญหาก็ลดลงสัก 20 ปัญหา แล้วทำ 80 ร่วมกันได้อีก 20 ก็ค่อยๆแก้ไปเดี๋ยวก็ลดลงเอง บางทีปัญหาไม่มี แต่ก็ต้องหาเรื่องใหม่มาจนได้ ให้มันเกิดปัญหาเรื่องใหม่มาอีก ผมก็ตามแก้ทุกวัน

ในเรื่องของการเตรียมการเข้าสู่ AEC ก็คืบหน้าไปตามลำดับ เราได้วางแผนระเบียบเศรษฐกิจไว้หมดแล้ว เส้นทางรถไฟ อะไรต่างๆวางไว้หมดแล้ว แต่ทำไม่เสร็จหรอกครับ เพราะเพิ่งมาทำสมัยนี้ ที่จะเป็นเรื่องเป็นราว ฉะนั้นตำหนิใครไม่ได้อยู่แล้ว

วันนี้อยากขอบคุณส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร พี่น้องประชาชน นิสิต นักศึกษา ครูอาจารย์ นักวิชาการ ทุกคนเลยที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และมาออกแสดงความคิดเห็นขณะนี้ ผมคิดว่าทุกอย่างแนวโน้มน่าจะดีขึ้น มีความเข้าใจมากขึ้น ลดการกดดันผมลงไปพอสมควร ยังไงก็ตาม คนที่กดดันอยู่แล้วก็กดดันเหมือนเดิม ช่วยกันดูแลแล้วกันอย่าให้ผมต้องใช้กฎหมายมากนักเลย มันทำให้เกิดปัญหาหมด เดี๋ยวก็เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ขบวนการยุติธรรมเสียหาย เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ได้ การปฏิรูปไม่เกิด แล้วมันจะทำอะไรกัน แล้วใครรับผิดชอบให้ผม เพราะฉะนั้นใครทำก็รับผิดชอบแล้วกัน

วันนี้หลายอย่างชัดเจนขึ้นนะครับ ในเรื่องการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ รัดกุมขึ้น มีหลักฐานชัดเจนขึ้นใครทำอะไร ที่ไหน เกี่ยวพันยังไง เดี๋ยวแถลง รอฟังแล้วกัน อย่ามาอ้างผมพูดเรื่อยเปื่อยอีก ถ้ามีก็รับกันซะบ้าง

ส่วนการจัดตลาดชุมชนนะครับ ผมเป็นกังวลเหมือนกัน ที่ผมพยายามเปิดตลาด ตลาดที่เรียกว่าคลองผดุง ไม่ใช่ตลาดผมนะ ตลาดของคลองผดุง ตลาดประชาชน ผมต้องการนำร่องเท่านั้นเอง ให้มีการท่องเที่ยว คุยกัน เจอกัน พบกัน ซื้อของที่มันน่าสนใจ บางคนยังไม่รู้เลยไอ้นี่ทำในประเทศไทย เพิ่งรู้ หลายอย่างที่ผมดู สินค้าเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพร เกี่ยวกับสปา เป็นมูลค่าปีละหลายร้อยล้าน จะเป็นพันล้านแล้วนะบางยี่ห้อ ไปดู ใครยังไม่ได้มามาซะ ตลาดคลองผดุง ต่างจังหวัด หรือ 4 มุมเมือง 4 พื้นที่ของกรุงเทพฯ ช่วยไปจัดด้วย ไม่ว่าจะเป็นราชการ หอการค้า อุตสาหกรรม ร่วมซิครับ จัดเองบ้าง อย่ารอรัฐบาลอย่างเดียว ท่านก็มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศกับผมไม่ใช่หรือ กำไรต่างๆ ท่านก็มีมาพอสมควร วันนี้ เศรษฐกิจมันแย่ ท่านเลยเรียกร้องให้ผมดูแลมากขึ้น ผมพยายามจะขับเคลื่อนอยู่ ท่านก็มีฐานะดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว คนจนมากๆ ไม่มีเงินขนาดนั้น ท่านต้องช่วยผม เพียงหาที่ให้เขาขายของแค่นั้น ท่านทำได้ไหม หรือไม่ผลิตสินค้ามา ลดราคาสินค้าลงซัก 5% 10% เป็นน้ำใจ มันอาจไม่ต้องมากมาย คงไม่ทำให้ท่านขาดทุน จนล้มละลายหรอกมั้ง ผมขอร้องนะ ไม่ทำก็แล้วแต่ คนไทยเดือดร้อนอยู่

วันนี้ก็ขอให้ทางผู้ว่าฯ หอการค้า อุตสาหกรรมทุกจังหวัด ได้บูรณาการ ผมก็ไม่รู้จะฝากใคร ฝากท่านนะ บางทีเขาขอแค่สถานที่ บางทีขอเงินทุนเล็กๆ น้อยๆ ช่วยกัน ทุกคนมีองค์กรอยู่แล้ว ไปทำสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่เอา

เรื่องสุดท้ายนะครับ การมีการประกาศจะหยุดงานตรงนู้น ตรงนี้ หยุดวิ่งรถ อย่าทำๆ ผมเตรียมแผนไว้หมดแล้ว ทุกที่ ท่านหยุดก็ดี ถ้าหยุดนะ ผมมีรถมาวิ่งแทน มีรถตู้ มีรถเอกชน รถของประชาชน จะได้มีรายได้พิเศษยังไง ท่านไม่เอารายได้ของท่านก็ตามใจ เพราะฉะนั้นอย่ามากดดันผม ก็ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกันอยู่แล้ว ปฏิบัติตามแผนงาน ตามสิ่งที่เราวางแผนไว้ให้ท่านนี่ เพราะอะไร ทำไมถึงบอกว่าผมถึงมากำหนดท่าน ก็มันไม่เคยกำหนดกันยังไง พอกำหนดแล้วก็เกิดปัญหา เมื่อเกิดปัญหาผมก็ต้องแก้

แล้วถ้าผมกำหนดอะไรไม่ได้เลย แล้วมันจะแก้ได้ไหมเล่า เพราะฉะนั้นอย่าทำ ผมไม่ได้ไปท้าทายท่านอยู่แล้ว เพียงแต่ผมเตือนเท่านั้นเอง ทุกเรื่องน่ะ อะไรที่เป็นเรื่องของทางกฎหมาย อย่าทำเลย อย่าล้อเล่นกับกฎหมาย ทุกเรื่องนะ

การเป็นประชาธิปไตยก็ เดี๋ยวมันก็มาอยู่แล้วล่ะ มาวันนี้แล้วมันล่มจมกันวันนี้โดยที่ยังไม่ได้แก้ไข ผมถามว่าใครรับผิดชอบ ท่านรับผิดชอบนะ ผมจะบันทึกไว้ว่าใครก็แล้วแต่ ทีเรียกร้องกัน

ในขณะที่มันยังไม่เรียบร้อยนี่ ผมก็ไม่เคยไปบิดเบี้ยว ไปบิดเบือนอะไรท่านสักอย่างนะ ผมบิดเบี้ยวอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว นะครับ ขอขอบคุณนะครับ

ขอให้ทุกคนอยู่ด้วยความสงบสุข แล้วอย่าตื่นตระหนก นะครับ ทุกเรื่องที่เป็นปัญหาในประเทศเยอะพออยู่แล้ว พยายามอย่าเอาประเทศไทยไปเกิดความขัดแย้งกับประเทศอื่นในโลก เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามพันธสัญญา แล้วเป็นไปตามประจักษ์พยาน เป็นไปตามหลักฐาน เป็นไปตามข้อกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายสองประเทศ หรือทวิภาคีอะไรก็แล้วแต่

มันก็จำเป็นต้องทำตามนั้น มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อยู่แล้ว แล้วเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งใครทั้งสิ้นนะครับ ต้องเข้าใจว่าประเทศไทยอยู่บทบาทตรงไหน เพราะงั้นเราทะเลาะกันเอง พอไหว พอรับได้ แต่เอาเราไปทะเลาะกับคนอื่น ประเทศโน้น ประเทศนี้ ผมว่าไม่ได้ เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องที่เป็นอันตราย เป็นความอ่อนไหว ก็ช่วยผมหน่อย สื่อ ผมไม่ได้ไปทะเลาะกับท่าน อยู่แล้ว ในบางครั้งผมก็อธิบายยากเหมือนกัน อธิบายแล้ว อธิบายอีกนะ ถามแล้ว ถามอีก ตอบแล้วตอบอีก ท่านก็เบาๆ กับผมบ้างแล้วกัน นะ ผมก็พยายามจะเบากับท่านอยู่

ขอบคุณครับ สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขในวันหยุดราชการเสาร์อาทิตย์นะครับ สวัสดีครับ ปลอดภัยนะครับทุกคน
กำลังโหลดความคิดเห็น