“ประยุทธ์” ยันรัฐบาลเร่งแก้ภัยแล้ง ย้ำยังไม่ใช่เวลาผู้เห็นต่างเคลื่อนไหว

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งแก้ภัยแล้ง วอนชาวบ้านอย่างทะเลาะแย่งน้ำ กำชับปล่อยน้ำอย่างเป็นธรรม ย้ำยังไม่ใช่เวลาผู้เห็นต่างเคลื่อนไหว เพราะกำลังแก้ปัญหาชี้ มีพวกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือให้ขัดแย้งรัฐบาล ขอร้องให้หยุดการกระทำ

วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า ปัญหาภัยแล้ง รัฐบาลเข้าใจดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรในทุกพื้นที่ รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ฝนจะตกน้อยต่อเนื่อง และทิ้งช่วงไปจนถึงปลายเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น และกองทัพ วางแผนเร่งด่วน เร่งขุดบ่อบาดาล และบ่อตอก ในพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ดอนก่อน และในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา จัดระเบียบการส่งน้ำในคลองชลประทานให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม ทั้งนี้ ขอเกษตรกรฟังคำแนะนำ ถ้าไม่ฟังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย วันนี้หลายคนตำหนิว่ารัฐบาลไม่เห็นช่วยเหลืออะไร จริงๆ ช่วยนะ ให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดเกษตรกรมากสุด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เข้าไปดูอยู่ ต้องให้ความร่วมมือ ถ้าไม่เปลี่ยนแนวคิด วิสัยทัศน์ เหล่านี้มันไปไม่ได้ เกษตรกรก็ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้อีกต่อไป จะแย่ลงเรื่อยๆ วันนี้ทำทั้งระบบอยู่ แต่เกิดขึ้นในวันเดียวไม่ได้

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ฝนตกฝนน้อยไม่เท่ากัน ระบบการส่งน้ำของชลประทานส่งได้ไม่เพียงพอ น้ำต้นทุนไม่มี ท่านก็ต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชน้ำน้อย มีหลายพื้นที่เห็นเลี้ยงจิ้งหรีด ปลูกถั่ว ปลูกผัก รายได้ดีกว่าปลูกข้าวด้วยซ้ำไป ปลูกข้าวแล้วตาย ก็ต้องเยียวยา ช่วยเหลือ ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองด้วย ถ้ารู้ทำต่อไปเป็นหนี้เป็นสินเยอะๆ วันหน้าความเดือดร้อนก็กลับมาใหม่อีก เกิดปัญหาความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมมาตลอด และขอความร่วมมืออย่าทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้งกันเลย เรื่องน้ำ เรื่องท่า การปล่อยน้ำ ไม่ใช่ต้องให้ทหารไปดูทุกเรื่องนะ มันดูเหมือนต้องใช้อำนาจตลอดเลยในการทำงานไม่ได้ ต้องช่วยกัน และขอให้ช่วยกันรักษาป่าและรัฐบาลกำลังวางแผนระยะยาว แผนการบริหารจัดการน้ำ สำหรับปี 2558 - 2569 ครอบคลุมทุกมิติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การปฏิรูปต่างๆ กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว จะมีการปฏิรูป 11 ด้าน และเรื่องอื่นๆ แบ่งมาทำระยะที่ 1 โดย คสช. เข้าไปแก้ไขความเดือดร้อนที่เป็นเรื่องเร่งด่วนต้องแก้ ระยะที่ 2 นโยบายเร่งด่วน เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล และคสช.ที่ต้องขับบเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ส่วนที่เหลือที่ตนทำไม่เสร็จในระยะที่ 1 ที่ 2 ก็ต้องทำต่อเนื่องไปถึงระยะที่ 3 คือ รัฐบาลชุดหน้า จะกี่ชุดก็แล้วแต่ เพราะบางอย่างต้องใช้เวลา 10 - 20 ปี ถึงจะเข้มแข็ง ในปัญหาที่มันทับซ้อน หมักหมมมานาน เช่นปัญหาโครงสร้าง การบริหารราชการ ซึ่งจะต้องปฏิรูป วางยุทธศาสตร์ชาติให้ได้ ซึ่งไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ แต่ทำเสร็จทั้งหมดไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นร้อยเรื่อง ต้องเลือกเรื่องที่สำคัญก่อน เรื่องไหนต้องใช้เวลาก็ต้องส่งไปรัฐบาลหน้า ขอให้เข้าใจ จะมาบอกว่าให้ทำทุกอย่างๆ ให้เสร็จได้ยังไง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ห้วงเวลานี้ต้องให้ความสำคัญการรักษาเสถียรภาพรัฐบาล ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ขัดแย้ง ผู้เห็นต่าง คิดว่ายังไม่ใช่เวลาตอนนี้ที่จะออกมาเคลื่อนไหว เพราะว่าเรากำลังแก้ปัญหา กำลังสร้างประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ ตนไม่เคยปฏิเสธประชาธิปไตย แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ มีความยั่งยืน ประชาชนทุกคนมีความสุข ส่วนบางอย่างอาจต้องใช้เวลาเปลี่ยนผ่านไปให้ได้ นั่นคือ การปฏิรูป จัดระเบียบต่างๆ สำคัญอย่าไปปิดบังกัน ไม่งั้นมีปัญหาหมด ทุกวันนี้ขัดแย้งกันเต็มไปหมด ขอร้องพวกที่ยังสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ให้ขัดแย้งกับการทำงานของรัฐบาล อะไรที่เป็นประโยชน์ กรุณาเถิดอย่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ โดยกลุ่มผลประโยชน์สร้างความบิดเบือน ต้องเริ่มจากประชาชนทั้งสิ้น จะเรียกว่าประชาชน หรือพลเมืองก็แล้วแต่ก็คือคนไทยทั้งสิ้น จะต้องไม่ให้ประเทศไทยชอกช้ำเช่นในอดีต

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า การบริหารราชการแผ่นดิน เน้นการใช้จ่ายงบประมาณ เร่งรัดทุกโครงการ ตรวจสอบความโปร่งใส ส่วนไหนไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ต้องชี้แจงก่อนมีการทำประชาพิจารณ์ การตรวจสอบการทุจริตต่างๆ ทำไปตามขั้นตอน ไม่ได้ละเว้นใครเลย ทั้ง 2 บัญชีข้าราชการที่ถูกสอบทุจริตก็ทบทวน ตรวจสอบ ส่วนที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนจำนวนหนึ่ง ที่เหลือแต่ละกระทรวง ทบวง กรม จะรับรายชื่อทั้งหมดไป มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทุกคน ถ้าผิดก็ลงโทษทั้งวินัย และอาญา ขอให้รอผลการดำเนินการไป อย่าเร่งด่วน เร่งร้อน วันนี้ต้องเดินหน้าไปด้วย ข้างหลังก็แก้ตามไป ถ้าเอาอันนี้มาตี มันเดินไม่ได้ ขอให้ไว้วางใจ ตนให้ความเป็นธรรม ถ้ายังไม่ผิดก็อย่าไปหาว่าเป็นผู้ต้องหา เสียชื่อเขา ให้เป็นไปตามหลักฐาน ที่ในเชิงประจักร ผลสอบต้องถูกต้อง ต้องสร้างคนที่เป็นข้าราชการให้มีคุณธรรม จริยธรรม

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 26 มิถุนายน 2558

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นผมได้ประชุมเรื่องการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปั่นเพื่อแม่ Bike For Mom ซึ่งเป็นกิจกรรมตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ได้ทรงแสดงความกตัญญูกตเวทีแด่แม่ของแผ่นดิน

กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ระยะทางทั้งสิ้น 43 กิโลเมตร เริ่มต้นจากพระลานพระราชดุสิต ไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ แล้ววนกลับมายังพระลานพระราชวังดุสิต โดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงจักรยานร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย ซึ่งก็นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับพี่น้องประชาชนชาวไทย รายละเอียดต่างๆ นั้น รวมถึงการร่วมกิจกรรมในพื้นที่ต่างจังหวัด ขอให้ประชาชนได้ติดตามการชี้แจงประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น ได้เป็นตัวแทนของประชาชนคนไทยทุกคน จัดงานเลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดีกับนักกีฬาไทยที่ไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมา และได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ สร้างความสุขความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคน ผมขอชื่นชมนะครับเป็นการส่วนตัวด้วย ในนามรัฐบาลด้วย ขอขอบคุณทั้งนักกีฬา โค้ช ผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน และทำให้การแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนะครับ

นอกจากนั้น ผมยังได้ผมกับคณะนักเรียนและอาจารย์ ที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี 2558 ผมได้กล่าวชื่นชม และชมเชยทุกคนนะครับ ที่มีความตั้งใจ และมีความพยายามที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเราเช่นเดียวกันกับการแข่งขันกีฬา ผมย้ำไว้ว่าขอใช้โอกาสนี้นะครับในการเพิ่มประสบการณ์หาเพื่อน หาเครือข่ายใหม่ๆ ทั้งนี้ เพื่อจะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และขอให้ทุกคนเดินทางไปที่ใดก็ตาม ขอให้คิดว่าเราเป็นทูตทางวิชาการของคนไทยด้วย นอกจากจะต้องแสดงความสามารถด้านวิชาการแล้ว ยังต้องประพฤติปฏิบัติตนและแสดงออกให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยด้วย ขอให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นกำลังใจให้กับทัพนักวิชาการของไทยครั้งนี้ด้วย

สำหรับเรื่องที่รัฐบาลและคสช.ให้ความสำคัญมากนะครับ นอกเหนือจากภัยคุกคามด้านความมั่นคง ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ สิ่งที่เราเข้มงวด หรือเร่งรัดมาตรการต่างๆ ให้มันเกิดขึ้น มีผลอย่างรวดเร็วได้แก่ เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่เร่งด่วน ในปัจจุบันได้แก่เรื่องภัยแล้ง ผมและรัฐบาลเข้าใจดีในเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรในขณะนี้ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ด้วยซึ่งประสบปัญหาความแห้งแล้งไม่มีน้ำในการทำการเกษตร และผมได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าฝนจะตกน้อยอย่างต่อเนื่อง และทิ้งช่วงไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม เลยสั่งการให้ทุกหน่วยงานมีการประชุม สั่งการ รวมทั้งให้กองทัพมามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดระเบียบ การส่งน้ำในคลองชลประทาน ให้กับพี่น้องเกษตรกรให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม ก็ขอความร่วมมือด้วย อย่าทะเลาะเบาะแว้งกันเลยในเรื่องนี้ รวมถึงการให้ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้วางแผนช่วยเหลือเร่งด่วนร่วมกันในขั้นต้น

นอกจากการจัดระเบียบการส่งน้ำแล้ว ภาครัฐและท้องถิ่น ก็จะเร่งดำเนินการในเรื่องของการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล และบ่อตอก โดยให้ความเร่งด่วนตามพื้นที่เสี่ยงที่ดอนก่อน ในเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีอยู่ประมาณ 850,000 ไร่ ก็ขอให้เข้าใจสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝนตกน้อยเวลานี้ ก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก หรือที่เรียกว่าเอลนีโญ โดยหน่วยงานได้รายงานว่าเป็นปรากฎการณ์ที่กระทบต่อสภาอากาศมากที่สุดในรอบ 10 ปี นอกจากนั้นก็เกิดจากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงทั่วโลก (Climate change) ซึ่งเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถจะควบคุมได้เลย

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ การรักษาทรัพยากรป่าไม้ก็เป็นเรื่องสำคัญ บ้านเรานั้นไม่มีป่าก็ไม่มีน้ำนะ ผมพูดหลายครั้งแล้ว ต้องช่วยกันทั้งรักษาและฟื้นฟูสิ่งที่บุกรุกไปแล้วด้วย ขอความร่วมมือด้วย

สำหรับการวางแผนระยะยาว รัฐบาลได้จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำสำหรับปี 2558 - 2569 หลายปีนะครับ ไว้ 6 เรื่องด้วยกัน เพื่อจะครอบคลุมทั้งหมดในทุกมิติ ได้แก่ 1. การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งจะต้องมีการจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนในการพัฒนาทำประปาหมู่บ้าน อีกประมาณ 7,500 หมู่บ้าน ซึ่งยังไม่ครบ และพัฒนาประปาในเขตเมืองถึงเกือบ 700 แห่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปีนี้ และจะให้แล้วเสร็จภายใน 2560 รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบประปาที่มีอยู่เดิมอีกกว่า 9,000 แห่ง ได้แก่ การจัดหาน้ำสะอาดให้แก่โรงเรียน และชุมชนกว่า 6,000 แห่งด้วย

เรื่องที่สอง คือการสร้างความมั่นคงของน้ำในภาคการผลิต ก็จะมีการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำแห่งใหม่ 369 แห่ง ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ 895 แห่ง ขุดสระน้ำในไร่นา 5 หมื่นแห่ง ขุดบ่อบาดาล 1,285 แห่ง เพื่อเตรียมไว้ใช้สำหรับการผลิตทั้งภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม โดยในปี 2559 นั้น เราตั้งไว้ว่าจะสามารถเพิ่มเขตชลประทานได้ 2.2 ล้านไร่ และในปี 69 นั้น จะเพิ่มได้ถึง 8.7 ล้านไร่ และเมื่อเสร็จสิ้นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ เราจะมีพื้นที่ชลประทานทั้งประเทศจากเดิม 30 ล้านไร่ เป็นประมาณ 40 ล้านไร่ จะเพิ่มประมาณ 10 ล้านไร่ ถือว่าพอสมควรนะครับ

ในเรื่องที่ 3 คือ การจัดการน้ำท่วม และอุทกภัย จะมีการปรับปรุงทางน้ำสายหลัก และสาขา 30 แห่ง ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และทางผ่านน้ำ 3 แห่ง การพัฒนาระบบป้องกันน้ำท่วม การทำคันเขื่อนป้องกันตลิ่ง 13 แห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังดำเนินการนะครับ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3 ปี จึงจะแล้วเสร็จ

4. การจัดการคุณภาพน้ำทั้งการพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย 36 แห่ง การลดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิด การกำจัดวัชพืช และขยะมูลฝอยในแหล่งน้ำ 399 แห่ง ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีนี้ และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปีนะครับ สำหรับการผลักดันน้ำเค็ม นี่เป็นเรื่องที่ 5 จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อไม่ให้ค่าความเค็มเกินมาตรฐาน อันนี้เป็นปัญหาในน้ำต้นทุนที่จะระบายไปอีกขณะนี้

เรื่องที่ 6 คือการฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม และป้องกันการพังทลายของดิน จะมีการปลูกป่าทดแทน 25,000 ไร่ และปลูกหญ้าแฝกอีก 645,000 ไร่ จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ขอเรียนว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหา และเราจัดลำดับความเร่งด่วน มีการดำเนินการเป็นระยะ ในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง ร่วมทั้งงบประมาณด้วย คงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วยนะครับ

เรื่องต่อไปที่เป็นปัญหาหนักคือ เรื่องไอซีโอ เรื่องการค้ามนุษย์ เรื่องประมง เรื่องทิปรีพอร์ต ผมอยากเรียนว่ารัฐบาลนี้พยายามอย่างเต็มที่ในการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีหลายอย่างด้วยกัน เรื่องกฎหมาย เรื่องวิธีบริหารจัดการ เรื่องการลงโทษ เรื่องการดูแลเหยื่อต่างๆ เหล่านั้น ในเรื่องการค้ามนุษย์ ประมง ในส่วนไอซีโอ ต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการต่างๆ เรื่องกรมการบินพลเรือน เข้ามาตรวจสอบดำเนินการในข้อบกพร่องตามที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลายาวนาน วันนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ปัญหา ก็เคารพในการตัดสินของคณะกรรมการขององค์กรระหว่างประเทศทั้งหมด เราต้องปรับปรุงแก้ไข สิ่งใดก็ตามที่เป็นความบกพร่อง เราก็ต้องแก้ให้ได้ รัฐบาลนี้ทำงานอย่างหนัก แทบจะทุกวัน ทุกสัปดาห์ จะต้องมีการพูดถึงในเรื่องเหล่านี้ และติดตามความก้าวหน้าทุกอย่างก็ยังคงก้าวหน้าอยู่ไปตามลำดับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางคณะกรรมการ ซึ่งจะต้องมีจัดผู้สังเกตการณ์เข้ามาเป็นระยะ ดูความก้าวหน้าใสแต่ละเรื่องที่ผมกล่าวไปเมื่อสักครู่ ซึ่งแนวโน้มก็น่าจะทำให้เราสบายใจขึ้นได้บ้างในส่วนของการพูดจาขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน มิตรประเทศเหล่านั้นเขาก็ให้ความร่วมมือกับเราดี ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไรทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ ทุกอย่างมันต้องกลับมายังจุดเริ่มต้น ว่ามันบกพร่องเรื่องอะไร และเอาสิ่งที่เขาเป็นบรรณทัดฐาน มาตรฐาน ข้อบกพร่องกี่ข้อ เอามาดู แล้วมันเกี่ยวพันกับเรื่องอะไรบ้าง ก็ต้องแก้ไขทั้งหมด มีการบูรณาการ วันนี้ก็เอา คสช.ไปร่วมด้วย ช่วยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการค้ามนุษย์ การประมง กระทรวงคมนาคมก็ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของ คสช.เข้าไปแก้ไขในระยะแรกด้วย อื่นๆต้องใช้กฎหมาย ซึ่งจะต้องนำเสนอเข้าไปใน สนช.ในการพิจารณา พ.ร.บ.ต่างๆ การแก้ไขกฎกระทรวงอะไรเหล่านี้ ก็ดำเนินการทั้งสิ้นนะ ใน ครม.ก็พูดกันทุกครั้ง

เรื่องต่อไป ด้านเศรษฐกิจ วันนี้ผมได้มุ่งเน้นเรื่องการดูแลเศรษฐกิจชุมชน เรื่องของ Social Business แล้วก็เรื่องของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ว่ามันจะเชื่อมโยงกันได้อย่างไร มันจะไปต่อเนื่องกับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม SMEs ได้อย่างไร แล้วไปโยงกับธุรกิจระดับประเทศ ธุรกิจข้ามชาติ ที่เราค้าขายกับโลกภายนอกเขา มันจะเชื่อมโยงอย่างไร ภาคการเกษตรของประชาชนจะเข้มแข็งอย่างไร บ้านเรามันก็มีทั้งพ่อค้าคนกลาง มีทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ถ้าเราสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเกษตรกรขึ้นมาให้มีความรู้ด้านการค้า การลงทุน ในเรื่องการตลาดเอง มันก็จะทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น วันหน้าก็จะเป็นเถ้าแก่ได้ เป็นเถ้าแก่ใหม่ได้

สำหรับในด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาเหล่านี้ เป็นการเพื่อจะเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทย ของประเทศ ต้องนำไปสู่ความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีในการผลิต ในการแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่า ใช้การวิจัยและพัฒนาที่เป็นรูปธรรม วันนี้จะต้องกำหนดหัวข้อในการวิจัยพัฒนาเรื่องที่เราต้องการ ประเทศเราต้องการอะไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเกี่ยวกับการแปรรูป และการใช้ประโยชน์จากด้านเกษตรกรรม ในการที่จะทำให้เกิดเป็นสินค้าและมีความแปลกใหม่ มีนวัตกรรม เพื่อจะไปแข่งขันกับโลกภายนอกเขาได้ วันนี้การส่งออกของเราค่อนข้างมีปัญหา เราต้องปรับปรุงด้านการวิจัยและพัฒนา และจัดหาธุรกิจใหม่ๆ หรือสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งแปลกกว่าเขา ขายได้ราคากว่าเขา น่าสนใจกว่าเขา เหล่านี้อยู่ในขั้นตอนที่เราเริ่มดำเนินการทั้งสิ้น ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ทันต่อสถานการณ์ในวันนี้ ทำให้มูลค่าในการส่งออกลดลง และยิ่งในเรื่องของการผลิตผลทางด้านการเกษตร วันนี้ต้องปรับทุกคน เรื่องการค้า การลงทุน การตลาดในกลุ่มต่างๆ ของโลกมีหลายกลุ่มด้วยกัน เราก็จัดวางยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนขึ้น เราจะขายใครที่ไหน ตลาดบน ตลาดล่างอย่างไร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มันต้องผูกพันเชื่อมโยงกัน สร้างห่วงโซ่ของอุปทาน ห่วงโซ่ของคุณค่า เพื่อจะเชื่อมโยงให้มันแข็งแรงทั้งประชาชน เอกชน ผู้ประกอบการธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ คือง่ายๆ คือชุมชนต้องเข้มแข็ง จังหวัดเข้มแข็ง ภูมิภาคเข้มแข็ง และไปเชื่อมโยงด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเราดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และรวมความไปถึงพื้นที่ตอนในที่มีศักยภาพด้วย

อันนี้อยากจะกราบเรียนว่า เป็นคลัสเตอร์นะครับ เขตเศรษฐกิจพิเศษอย่าไปกังวล เราจะส่งเสริมในพื้นที่ก่อนให้ได้ เพราะฉะนั้นในตรงนี้เดี๋ยวจะไม่เข้าใจกันอีก ในพื้นที่จะกลัวว่า นอกพื้นที่จะไปลงทุน ทำให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้ง เราจะให้โอกาสในพื้นที่ก่อนด้วยนะครับ มาพิจารณาดูว่า จะลงทุนกันอย่างไร จะส่งเสริมการอย่างไร มีกองทุนให้หรือไม่ในส่วนที่มีศักยภาพนะครับ ในส่วนข้างนอกเขาคงไปเติมอยู่บ้าง แต่คราวนี้ในแต่ละพื้นที่มันแตกต่างกันออกไปนะครับ มันเป็นคลัชเตอร์ของสื่อหลายๆ กิจการ ไม่ใช่ในเรื่องของโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเดียว เดี๋ยวจะกังวลเข้าไปอีก มีทั้งธุรกิจการแปรรูป คลังสินค้า คลังกระจายสินค้า มีทั้งธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม การบริการต่างๆ ทั้งหมด ที่มีศักยภาพของแต่ละภูมิภาคของเรา หมดปีนี้เกิดในระยะที่ 1 จำนวน 6 จังหวัด ปีหน้าจะเกิดอีก 4 จังหวัด อันนี้ยังไม่รวมถึงพื้นที่ที่มีศักยภาพในพื้นที่ตอนใน รวมความไปถึงการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีของ สสว. การส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอด้วยนะครับ ทั้งหมดมันผูกพันกันทั้งระบบ เราเอาทุกอย่างมาบูรณาการร่วมกัน

เรื่องต่อไปคือการสร้างความเข้มแข็งเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ผมเรียนไปแล้วว่า คือการสร้างห่วงโซ่ของมูลค่าให้ได้กับทุกกิจการที่ผมกล่าวไปแล้วเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มันเป็นท่อนๆ กันหมด เพราะฉะนั้นต้องเชื่อมโยง วันนี้เราไม่ต้องการตรงขั้นตอนใด อยากให้ทั้งหมดกลับสู่ผู้ประกอบการ ซึ่งมีทั้งภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ภาคประชาชนของเกษตรกรด้วย ที่ผมเน้นคือการนำโซเชียลบิสซิเนสเข้ามาด้วย มันเป็นส่วนหนึ่งของโซเชียลเอนเตอร์ไพรซ์ ซึ่งเอกชนทำธุรกิจขนาดใหญ่อยู่แล้ว ถ้าเราทำให้ภาคประชาชนแข็งแรง โดยเสริมระบบโซเชียลบิสซิเนสเข้าไป มันจะเชื่อมโยงกับเอสเอ็มอี เชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจชายแดน และเชื่อมโยงกับตลาดค้าชายแดน และมันมีผลส่งต่อการค้า ในอาเซียน และในประชาคมอื่นๆ ด้วย มันต้องวาดตรงนี้ออกมาให้ต่อเนื่องกัน และทำงานร่วมกันทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งมาทำเอง หรือให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งมากำหนดให้ เพราะฉะนั้น วันนี้ เรามีการพูดคุยทุกคณะ มีอนุกรรมการหลายคณะ กว่าจะขึ้นมาถึงคณะกรรมการนโยบายนะครับ

เรื่องต่อไปคือ การวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว ทั้งนี้ เพื่อให้ภาคเอกชนได้รับรู้รับทราบได้รู้อนาคต ประชาชนต้องรู้อนาคตตัวเองด้วย ชุมชนของตัวเองจะเป็นยังไงในวันข้างหน้า เพื่อจะได้จัดเตรียมการลงทุน สร้างความเข้มแข็ง ต้องใช้เวลา มันจะทำให้เกิดความเชื่อมโยงในพื้นที่ชุมชนและภูมิภาคด้วย เป็นการสร้างอนาคตให้กับเยาวชนรุ่นหลังทุกภาคส่วน ซึ่งอาจต้องมีการแก้ไขบางกฎหมาย บาง พ.ร.บ.หรือกฎกระทรวง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน อย่าไปเอารัดเอาเปรียบกันขณะนี้

เรื่องต่อไป เรื่องการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ปัจจุบัน อยากเรียนว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐไปมากกว่าทุกปี ในห้วงเดียวกันที่ผ่านมา ในเรื่องการดำเนินการในส่วนงบลงทุนนั้น ยังต้องเร่งดำเนินการในหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างต่างๆ ปัญหาคือมันติดตรงที่ บางโครงการต้องทำประชาพิจารณ์ ผ่านการเห็นชอบ บางพื้นที่ยังทำไม่ได้ หลายอย่าง เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โครงการกำจัดขยะ หรือหลายๆ อย่างที่เราอยากจะทำให้มันเป็นความเข้มแข็ง มันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ถ้าเราไม่สร้างตรงนี้ไว้ ยังไงเศรษฐกิจเราก็ไปไม่ได้ เราจะค้าขายแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องต่อไปเรื่องการศึกษา ระยะ 3 ปีแรก 2557 - 2559 การศึกษาเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นอนาคตของประเทศ เพราะฉะนั้นแผนพัฒนาการศึกษาของรัฐบาลระยะที่ 1 ระยะแรกนั้น คสช.ก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ยกเลิกโครงการที่ไม่คุ้มค่า แก้ไขปัญหาการขาดแคลนการเงินครูออกจากห้องเรียน การขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อจะส่งต่อในเรื่องอื่นๆ ที่เป็นเรื่องของเชิงโครงสร้าง ในเรื่องของการบริหารราชการ ในเรื่องของการทำให้เกิดความต่อเนื่อง ผลิตคนให้ตรงความต้องการของประเทศ กับความต้องการในเรื่องของ AEC ซึ่งจะต้องเร่งในระยะแรก ทุกอย่างกำลังทำทั้งหมด แข่งกับเวลาเลยนะ กระทรวงศึกษาฯ กำลังดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น จะเชื่อมต่อไปกับกระทรวงแรงงาน ซึ่งจะกำหนดความต้องการในแต่ละกิจการในประเทศไทยที่จะต้องเกิดขึ้นในปีหน้า AEC ต้องเตรียมให้พร้อมทั้งแรงงาน ประเภทใช้แรงงาน อันที่ 2 คือแรงงานที่มีคุณภาพ มีความรู้ พูดภาษาต่างประเทศได้ ที่มาลงทุน อันนี้กำลังเร่งทั้งหมด โดยเริ่มจากการต่อยอดไปก่อน ซึ่งปีต่อๆ ไปก็คงจะต้องนำเรื่องเหล่านี้เข้ามาบรรจุในแผนการใช้จ่ายงบประมาณในการผลิตคนให้ทันกับความต้องการของประเทศ

วันนี้ก็ต้องเห็นใจ ในส่วนของพี่น้องกรรมการต่างๆ ทั้งหลาย ก็ขออีกสักระยะหนึ่งก่อน ในช่วงนี้ก็ขอให้ไปรับการทดสอบฝีมือที่กรมแรงงาน ว่าเขามีอะไร ยังไง ที่ไหน ถ้าต่อไปถ้ามันเป็นไปได้ก็คือในส่วนของค่าแรงต่างๆ ก็คงเพิ่มไปตามนี้ก่อนส่วนที่มีการปรับปรุงพัฒนา ส่วนอื่นคงต้องรอ ให้งานมันเกิด ให้เศรษฐกิจมันขับเคลื่อนดีขึ้น ผมเป็นห่วงท่านอยู่แล้ว ช่วงนี้ก็ขอให้ระมัดระวังการใช้จ่าย ผมคิดว่าเดือนร้อนกันทั้งประเทศอยู่แล้วในขณะนี้ คงไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรอก

ในส่วนเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานั้น เรามีการเพิ่มโอกาสให้การเข้าถึงทางการศึกษาที่มีคุณภาพ เร่งการผลิต และพัฒนากำลังคน รองรับการพัฒนาประเทศ เสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน และพัฒนาระบบการบริหารจัดการครู รวมไปถึงการวางแนวทางพัฒนานโยบายการศึกษา การปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบให้ได้ความต่อเนื่อง เพื่อจะเตรียมเข้าสู่ระยะที่ 3 คือการส่งต่อรัฐบาลใหม่ผ่านสภาปฏิรูปเข้าไป ในการที่จะขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต ในเรื่องของการศึกษานั้น สิ่งที่ผมให้แนวทางไว้คือ ง่ายๆ คือทำอย่างไรเด็กจะมีความสุข เด็กจะมีเวลาที่จะคิดต่างของตนเอง มีเวลาที่จะใช้ความพัฒนาเรียนรู้ตามวัยของตัวเอง และมีความสุขในการเรียน สรุปง่ายๆ ในส่วนของผู้ปกครองต้องลดค่าใช้จ่ายของเขา ลดความกังวลในเรื่องของอาชีพต่อไปของลูกหลานของเขา ในเรื่องของค่าเรียน ค่าอุปกรณ์ทางการเรียนการสอนเพิ่มเติมเหล่านี้ การกวดวิชาด้วย สั่งแล้วในส่วนของโรงเรียนต้องมีการพัฒนาให้มันมีคุณภาพมาตรฐานที่ใกล้เคียง อันไหนที่ยังไปไม่ได้ก็ใช้ทางไกลผ่านดาวเทียมไปก่อน

เหล่านี้เป็นเรื่องที่เราพัฒนาทั้งระบบทั้งสิ้นนะครับ ในส่วนของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้นเป็นสิ่งสำคัญ จะต้องก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางการโลก ถ้าเราไม่พัฒนาทรัยากรมนุษย์ให้เรียนรู้วันนี้ไม่ได้ วันนี้เกษตรกรต้องรู้จักการปลูกข้าว ปลูกพืชเหล่านี้ไม่ได้ ต้องรู้การตลาด รู้ว่าราคาสินค้าในอาเซียนเป็นอย่างไร ประจำวันเป็นอย่างไร ลมฟ้าอากาศเป็นอย่างไร นี่คือการที่จะปลูกพืชโดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีช่วยทำอย่างไร ต้องเรียนรู้ วันนี้ต้องเปิดเว็บแล้ว วันนี้เขาให้ข้อมูลไว้แล้วตรงไหนมีน้ำ ตรงไหนควรจะปลูกพืชอะไร พื้นที่ไหนควรจะทำ เหล่านี้จะต้องดูนะครับ ถ้าท่านไม่ดูแล้วเราแนะนำไปอะไรไปมันก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อไม่เกิดขึ้นมันก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย อย่างวันนี้หลายคนก็ตำหนิว่า เอ๊ะรัฐบาลไม่เห็นช่วยเหลือเลย จริงๆ ช่วยนะครับ มีศูนย์การเรียนรู้ตั้ง 800 กว่าแห่ง และในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เหล่านั้นเขาก็ไปช่วยกันดูอยู่ ขับเคลื่อนอยู่ผ่านในส่วนของ อบต. อบจ. ไปให้คำแนะนำ ทั้งในส่วนของปราชญ์ชาวบ้าน เดินไปสอนไปอบรมเหล่านี้ต้องให้ทุกคนให้ความร่วมมือนะครับ ถ้าท่านไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องการรับความรู้ การเปลี่ยนแนวความคิด เปลี่ยนวิสัยทัศน์ เหล่านี้ มันไปไม่ได้ ประเทศมันไปไม่ได้ เกษตรกรเราก็ไม่มีวันจะลืมตาอ้าปากได้อีกต่อไปในอนาคต มันจะแย่ลงเรื่อยๆ วันนี้ เราทำทั้งระบบอยู่นะครับ แต่มันไม่เกิดขึ้นในวันเดียวนี่ซิ นี่คือปัญหาของผม ของท่าน

ส่วนของเกษตรกรนั้น วันนี้ น้ำแล้ง ผมก็บอกให้มีการปรับปลูกพืชให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและพื้นที่ด้วย วันนี้ฝนตก ฝนน้อย ไม่เท่ากัน ระบบการส่งน้ำของชลประทานส่งได้ไม่เพียงพอ น้ำต้นทุนไม่มี ท่านก็ต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชน้ำน้อย มีหลายพื้นที่นะครับ เลี้ยงจิ้งหรีดก็มี ปลูกอะไร ปลูกถั่ว ปลูกผัก ปลูกอะไรเยอะแยะไปหมด มีรายได้ดีกว่าปลูกข้าวด้วยซ้ำ เพราะบางทีปลูกข้าวแล้วมันตาย ใช่ไหม พอน้ำมันขาดตอนจะออกรวง ก็ไม่ออก ไม่มีน้ำ มันไม่ออก มันแห้งตาย เป็นงี้ทุกปี สุดท้ายต้องเยียวยาช่วยเหลือ ท่านต้องปรับเปลี่ยนตัวเองด้วยนะครับ ท่านต้องรู้ว่าทำต่อไปแล้วเป็นหนี้เป็นสิน ท่านก็ต้องมาหาความรู้ เราไม่สามารถเดินบอกทุกบ้านได้ทุกครอบครัวได้ ท่านต้องฟังนะครับ ผมถึงบอกไง

อันนี้คือสิ่งที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต้องเข้าใจนโยบายรัฐบาล และนำไปบอกเล่ากันในการประชุมประจำเดือนของแต่ละตำบล แต่ละหมู่บ้าน หน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน หน้าที่ของสมาชิกต่างๆ อบท. เป็นผู้ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด ถ้าท่านไม่มีความรู้ ถ้าท่านไม่เอาสิ่งนี้ นโยบายที่กำลังถ่ายทอดอยู่ ที่กำลังทำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ สร้างความเข้าใจประชาชนไม่ได้จะ มันจะเกิดปัญหาอยู่แบบนี้ วันหน้าความเดือดร้อนจะกลับมาใหม่อีก มันก็เกิดปัญหาความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมมาตลอด ขอความเป็นธรรมนะครับ ขอตรงนี้ คงต้องร่วมมือกันต่อไปนะครับ อย่าขัดแย้งกันอีกเลย เรื่องน้ำเรื่องท่า การปล่อยน้ำ ไม่ใช่ต้องให้ทหารดูทุกเรื่องนะ มันดูเหมือนต้องใช้อำนาจตลอดเลยในการทำงาน มันไม่ได้ ต้องช่วยกันนะ รวมถึงการปลูกพืช หรือการผลิตอะไรก็แล้วแต่ มันต้องตรงกับความต้องการของตลาด ทั้งในชุมชน ในจังหวัด ในภูมิภาค ถ้าเราปลูกเกินความต้องการของตลาดจะไปขายใครได้ ราคาก็ตกแบบนี้ ตัดราคากันไปเรื่อยๆ

วันนี้ กำลังหารือกับทุกประเทศในอาเซียนนะครับ เมื่อเราเป็นอาเซียนด้วยกัน ทำอย่างไรเราจะยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ผมเสนอในที่ประชุมทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เสนอประเด็นเรื่องการประชุมที่ผ่านมาที่เมียนมาร์ รับกันว่าเดี๋ยวถ้าคุยกันคราวหน้าครั้งต่อไปในเร็วที่สุดในเรื่องของการดูแลสินค้าการเกษตร โดยเฉพาะข้าว ว่าทำอย่างไรจะทำให้ข้าวของเรา ของอาเซียน มันมีราคาที่ดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น เพราะเราเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลกเหมือนกัน

ในส่วนของการปลูกพืชประหยัดน้ำ ใช้น้ำน้อย วันนี้เราบอกแล้วทั้งในเขตชลประทาน นอกเขตชลประทาน เขตชลประทานทำได้แค่ 30% เอง ถ้าเพิ่มมาก็ไม่เกิน 10% ต้องมาดูแล้วว่า อันไหนในเขตชลประทาน มีน้ำ ส่งน้ำได้ นอกเขตยังไงก็ส่งไม่ได้ ใช้น้ำฝน พื้นที่ดอน ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก ฉะนั้นต้องจัดสัดส่วนการผลิตให้ดี จะผลิตข้าวอะไรอย่างไร อันไหนจะเป็นข้าวคุณภาพ อันไหนข้าวในเชิงบริโภค ราคาต่ำ แต่อย่างไรก็ต้องมีคุณภาพ ในการทำให้คนเจริญเติบโต มีสติปัญญา มีความเข้มแข็ง ข้าวทั้งนั้น ฉะนั้นมีความแตกต่างในการบริหารจัดการ

ส่วนพื้นที่ที่น้ำไม่ถึง ยิ่งวันนี้ยิ่งมากกว่าเดิม น้ำน้อย เห็นไหมในส่วนของลำคลอง แม่น้ำ คู แคว ต่างๆ น้อยไปหมดเลย เพราะน้ำ ต้นทุนไม่มีไง ก็ฝนไม่ตก ส่วนใหญ่ก็ตื้นเขินบ้างอะไรบ้าง ผมกำลังสั่งการว่าเราลองดูสิว่า จะขุดลอกอะไรได้บ้างแค่ไหน ใช้วิกฤติเป็นโอกาสแล้วกัน ในเมื่อน้ำมันน้อยก็ขุดลอกซะเลย อย่างน้อยโชคดีฝนตกลงมา ท้องน้ำของคู คลอง แคว ต่างๆเหล่านี้ก็เก็บน้ำได้จำนวนหนึ่ง เดี๋ยวเผื่อวันหน้าน้ำมันไม่มีอีก ฉะนั้นจะต้องเก็บกักเป็นช่วงๆนะ ไม่งั้นมันก็ไหลพรืดๆ ลงข้างล่างหมด บางทีก็ท่วมบ้างอะไรบ้าง ถ้าเราสต็อกไว้เป็นตอนๆ บางส่วนลึก พอมันเกินตรงนี้เก็บไว้ได้ ก็จะล้นส่วนที่สอง ส่วนที่สาม แทนที่เราจะไปทำเขื่อนอาจจะต้องขุดลึกเป็นตอนๆ ได้หรือเปล่าไม่รู้ อาจจะต้องดูทางเทคนิคก่อนแล้วกัน อย่างไรก็ไม่ไปเปลี่ยนในเรื่องของนิเวศวิทยา ในส่วนของเรื่องการปรับเปลี่ยนจำนวนการปลูกยางในประเทศ ถ้าวันนี้การใช้ยางในประเทศ การใช้ยางต่างประเทศ มันยังมีปัญหาอยู่ เหมือนที่ใช้คำว่า อาจจะเกินความต้องการอยู่บ้าง เพราะว่าวันนี้ในประเทศมันผลิตได้ไม่ถึงประมาณซัก ใช้ประมาณซัก 10% เท่านั้นเอง มันต้องเพิ่มให้ได้ 25% อย่างน้อย เรากำลังเร่งให้ได้ภายใน 3 ปี จะต้องเพิ่มมูลค่า มีการแปรรูปในประเทศ ใช้ประโยชน์ในประเทศจาก 10% ให้เป็น 30% ภายใน 3 ปี จะอยู่ในแผนการจัดตั้งรับเบอร์ ซิตี้ ในการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งหมดมันต้องเอาผลผลิตต่างๆ ที่เรามีอยู่มากมายแปรรูปให้มันมีมูลค่าสูงขึ้น ให้ไปเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่นๆ ให้ได้ในการควบคุมปริมาณยางในช่วงนี้ ที่ปลูกในพื้นที่บุกรุกก็จำเป็นนะครับ ก็ต้องขอคืน ยางในพื้นที่บุกรุกทั้งหมด ที่เป็นนายทุน ระยะแรกต้องดำเนินการก่อนนะครับ ในส่วนของคนจนเดี๋ยวกำลังพิจารณาหารือว่า จะดูแลกันอย่างไรให้ทำประโยชน์กันได้อย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นให้รับรู้ว่า ทั้งหมดมันผิดกฎหมายทั้งสิ้น แต่รัฐบาลจะไม่ไปทำร้ายประชาชน คนมีรายได้น้อยตั้งแต่บัดนี้นะครับ

ในเรื่องของการดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย ชุมชนแออัดต่างๆ เหล่านี้ผมคิดว่า มันต้องคิดกันแล้วแหละว่า มันต้องตั้งประเด็นไว้ว่า เราจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้มีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีอาชีพมีรายได้ มีตลาดค้าขายที่เพียงพอนะครับ มีคุณภาพชีวิตที่ดี เราจะมีการวางแผนเป็นระยะๆ นะครับว่า ปีนี้ หรือ 3 ปีนี้มันควรจะมีที่พักในลักษณะที่เป็นอพาร์ทเมนท์ เป็นแฟลตอะไรต่างๆ ให้คนจน คนมีรายได้น้อยอยู่ ปีละควรเท่าไร ซักกี่หน่วย อันนี้ให้กระทรวง พม.กำลังไปวางแผนมาอยู่ ต้องไปสอดคล้องกับ กทม. สอดคล้องกับมหาดไทย ทั้งในกรุงเทพฯ ทั้งในต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดอันหนึ่งที่อยากให้ไปคิดเพิ่มคือว่า ถ้าเรามีเส้นทางรถไฟ เราสามารถที่จะหางาน หาพื้นที่ให้เขาอยู่แถวๆ นี้ได้ไหม อย่างน้อยมันเป็นการพัฒนาเมือง ขยายเมืองต่อไปในอนาคตด้วย

ทุกอย่างมันต้องเอามาวางแผนสอดคล้องกัน ถ้ามันเดินแต่ละอันๆ มันก็ไม่ต่อกัน และใช้งบประมาณสูง ถ้ามันอยู่ในกติกาการลงทุนร่วมอะไรต่างๆ มันน่าจะดีนะ ลองคิดดูแล้วกันอันนี้ผมริเริ่มให้ กำหนดนโยบายให้ แต่กระทรวงต้องไปหารือ และนำเข้าสู่คณะกรรมการขับเคลื่อน กรรมการนโยบาย และ ครม.ด้วยนะครับ แต่ต้องมีการวางแผนที่ชัดเจนเป็นระยะๆ เพราะงบประมาณมันจำกัด บ้านเราเศรษฐกิจมันยังไม่ดี ทุกวันนี้รายได้มันก็น้อย แต่มันต้องพัฒนา มันต้องสร้างความเข้มแข็ง ดูแลประชาชน คนยากไร้ เยอะแยะไปหมด ก็ต้องขอร้อง ขอความร่วมมือกัน ขอให้เป็นระยะๆ ได้มั้ยช่วงนี้ทุกคนต้องสู้กันไปก่อนนะ สู้เหมือนที่ผมสู้วันนี้ สู้กับปัญหา สู้กับการเดินหน้าประเทศให้ได้

ในเรื่องของการจัดระเบียบใน กทม.เมืองใหญ่ ชนบท เราต้องสร้างชุมชนเมืองให้ได้ในเขตชนบท เพราะว่าถ้าเรากระจายมากๆ การลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ มันลงทุนสูง ถ้าเรามารวมกันซะ แล้วในพื้นที่ไร่นาต่างๆ ก็ห่างไปเล็กน้อย พอที่จะเดินไปก็ได้ หรือจะไปด้วยรถอีแต๊ก อีแต๋น อะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราสร้างชุมชนในชนบทได้ เราก็จะลดภาระในเรื่องของสาธารณูปโภคพื้นฐานได้มากพอสมควร จากนั้นก็ไปสู่ไร่นา เราจะได้มีเงินที่จะพัฒนาในเรื่องของการใช้เครื่องไม้เครื่องมือ สร้างความทันสมัยในการผลิตอย่างไร เพราะทุกวันนี้พี่น้องชาวนาก็อายุเยอะแล้ว ลูกหลานส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ทำ ส่วนใหญ่ก็จะจ้างคนทำบ้าง ต้นทุนมันก็สูง วันนี้เราดูแลเรื่องต้นทุนด้วย จะเห็นว่ามีการลดราคาปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ และในเรื่องของการที่จะจัดหาเครื่องไม้เครื่องมือเป็นส่วนรวม เพื่อให้สหกรณ์ได้เข้าไปใช้ บางส่วนก็ให้ทหารเข้าไปดูแล อันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนนี้ พยายามจะเร่งให้เร็วที่สุด แล้วก็เรื่องอะไรอีกอันหนึ่ง เรื่องของการราคาการเช่าที่ดิน ขอร้องบรรดาเจ้าของที่ดินอย่าไปเรียกร้องมากนักเลยกับชาวไร่ชาวนาวันนี้ น่าสงสาร น่าเห็นใจเขา ถ้าไม่มีเขา ท่านก็ไม่มีรายได้ ถ้าท่านต้องการจะมีรายได้ ท่านก็ต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน ดูแลเขา สร้างบุญสร้างกุศลต่อกันนะ

ในเรื่องของการพลังงานนั้น เราก็มีแหล่งพลังงานหลายพื้นที่ด้วยกันที่ต้องมีการสำรวจอย่างต่อเนื่อง กฎหมายก็กำลังออกมา กฎหมายออกมาก็ทำตามกฎหมายที่ออกมา ก็ขออย่าเพิ่งเรียกร้องอะไรกันอีกเลย วันหน้าเราค่อยว่ากันใหม่ เราต้องดำเนินการในส่วนที่มันจำเป็นเสียก่อน ที่เหลือก็เป็นไปตามกฎหมาย ตามข้อเรียกร้องทั้งหมดที่เรียกมา เราก็ทำให้ทั้งหมดอยู่แล้ว อย่ากังวล ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจกันบ้าง ในขณะนี้ผมไม่เข้าสร้างปัญหาใหม่นะ แต่ทั้งหมดทั้งนี้ทั้งนั้นวันหน้าก็ต้องไปพัฒนาสู่สิ่งที่มันดีกว่าเดิม เหมือนที่ผมกำลังทำวันนี้นั่นแหล่ะ

ในเรื่องการปรับโครงสร้างสัดส่วนการใช้พลังงาน กราบเรียนแล้วว่าถ้าใช้แก๊ส ใช้น้ำมันอย่างนี้ วันหน้าเราใช้มากขึ้น ถูกเบียดเบียนมากขึ้น จากภาคครัวเรือนต้องนำมาใช้ภาคขนส่งด้วย เหล่านี้เป็นปัญหาผูกพันทำให้รัฐใช้งบประมาณจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าวัตถุดิบในการเป็นพลังงานนะครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน เป็นแก๊สก็ตาม มีทั้งแอลพีจี เอ็นจีวี ซึ่งจริงๆแล้วแอลพีจี น่าจะไม่ต้องใช้ จริงๆ ตามหลักการต้องใช้ภาคครัวเรือน วันนี้ ไปใช้ในภาคขนส่งมากเกินไป และมีการลักลอบไปต่างประเทศ ไปใช้บิดเบือนทั้งหมด วันนี้ จำเป็นต้องขอความร่วมมือนะครับ ในส่วนของแอลพีจี ควรใช้ภาคครัวเรือน ในส่วนเอ็นจีวี ส่วนใหญ่ต้องใช้ภาคขนส่ง

เพราะฉะนั้น เราต้องหาแหล่งพลังงานมาทดแทนทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องการใช้แก๊ส กับน้ำมัน ถึง 70% ในการใช้พลังงานไฟฟ้าวันนี้ ถ้าวันหน้ายังใช้อยู่แบบนี้ แล้วราคามันขึ้นในอนาคตเราจะแย่ ค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้น ทำยังไง ต้องเตรียมการวันนี้ให้ได้ ในยุคนี้ ช่วงที่ผมอยู่ปรับสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ แก้ไขกฎหมาย ทำกฎหมายใหม่ ให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมในการดำเนินการ ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศ ต้องดูแลประชาชนด้วย ทั้งเรื่องการลงทุนร่วม ภาครัฐ เอกชน การรับซื้อไฟฟ้าต้องเป็นไปตามแผนพลังงานของประเทศ มีหลายส่วน ทั้งส่วนคณะกรรมการพลังงานของกระทรวงพลังงาน ทั้งส่วนของคณะทำงานเรกูเลเตอร์ที่ต้องกำหนดจำนวนการผลิตไฟฟ้าแต่ละประเภทให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ถ้าทำอันใดอันหนึ่งมากเกินไป จะมีผลกระทบกับการค้าการลงทุนทั้งสิ้นในอนาคตนะครับ อันนี้คือปัญหาของพลังงานที่มันเชื่อมโยงทุกวัน

เรื่องการปฏิรูปต่างๆ นั้นเรียนแล้วว่า ที่ คสช.เข้ามานั้น กำหนดไว้ และร่างไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวคือจะมีการปฏิรูปกิจกรรมต่างๆ ทั้ง 11ด้าน มีเรื่องอื่นๆ อยู่แล้ว มีเรื่องเฉพาะการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม สื่อที่ว่าไป และมีเรื่องอื่นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นสรุปไปแล้ว ผมเอาแนวทาง 11 ด้านของผมมาทำระยะที่ 1 คสช. ระยะที่ 2 ส่วนของรัฐบาล และคสช. ที่เหลือ คำว่าที่เหลือของผม คือ ที่ผมทำไม่เสร็จระยะที่่ 1 ที่ 2 จะต้องทำต่อเนื่อง ถึงระยะที่ 3 ที่ว่าจะเป็นรัฐบาลเดียว 2 รัฐบาล 3 รัฐบาล ก็แล้วแต่ บางอย่างมันต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี 20 ปี ถึงเข้มแข็งได้ เราต้องวางยุทธศาสตร์ชาติให้ได้ ระยะนี้ เพราะฉะนั้น ผมจะสรุปให้ทราบอีกครั้งว่า ทบทวนอีกครั้ง ระยะที่ 1 เราทำอะไรเสร็จแล้วบ้าง อันนี้เร่งด่วน ความเดือดร้อน ระยะที่ 2 เรื่องที่เป็นนโยบายเร่งด่วน นโยบายที่จะต้องขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว เรื่องของสิ่งที่กำหนดไว้ตามพื้นที่เราได้ประกาศไว้เป็นวาระแห่งชาติ นอกนั้นก็เป็นเรื่องของปัญหาที่มันทับซ้อนมาหมักหมานานแล้วเกิดปัญหาในเวลานี้เช่น เกิดปัญหาโครงสร้าง ปัญหาในเรื่องของการบริหารราชการในเชิงบูรณาการ ซึ่งมันจะต้องเกิดขึ้นให้ได้ มันจะได้สามารถปฏิรูปต่อไปได้ในระยะที่ 3 คือของรัฐบาลหน้า ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ ผมทำให้เสร็จไม่ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว มันเป็นร้อยเรื่อง แต่ละเรื่องมีเป็น 10 กิจกรรม ใน 10 กิจกรรม ผมก็จะเลือกอันไหนสำคัญก่อน สำคัญหลัง อะไรสำคัญน้อยกว่า ต้องใช้เวลามากกว่า ผมก็ต้องส่งไปรัฐบาลหน้า ขอให้เข้าใจด้วย ทุกคนบอกว่า ทำทุกอย่างๆให้เสร็จ มันจะไปเสร็จได้ไง แต่ละเรื่องมันมีกิจกรรมย่อยเป็นสิบเป็นร้อย ฉะนั้นขอให้เข้าใจเราด้วย

สำหรับในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เราก็เน้นในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ เร่งรัดทุกโครงการ ตรวจสอบความโปร่งใสการทุจริต เน้นการบูรณาการทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนไม่ให้เป็นภาระของข้าราชการ ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ต้องชัดเจน มันต้องมีการชี้แจงก่อน มีการทำประชาพิจารณ์ด้วยซ้ำ ถึงบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนในภาพรวมไปก่อน จะได้รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างนี้นะ ผมเคยบอกถึงว่าอาจจะต้องขึ้นเครื่องบินดูกัน ว่าแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร มันเจริญต่างกันอย่างไร ตรงไหน ถ้าทุกคนไม่เห็นคนอื่น มันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไรให้ทันคนอื่นเขาไง เราก็มองแต่พื้นที่ตัวเอง อันนี้ก็ได้สั่งการไปแล้ว กระทรวงคมนาคม จะร่วมมือกับ คสช.ในการที่จะถ่ายภาพไปให้ดูว่า พื้นที่ในเขตเมืองทั้งหมดมันควรจะเป็นอย่างไร มันถึงจะเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็ง มีความทันสมัย มันต้องมีทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม มีทั้งในส่วนที่จะต้องเป็นความภาคภูมิใจในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีการท่องเที่ยว มันต้องเป็นคลัสเตอร์ในพื้นที่ของทุกจังหวัด อาจจะต้องทุกอำเภอ ทุกตำบลด้วยซ้ำไป มันจะได้เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน รายได้จะได้ต่อเนื่องกัน จะได้ไม่ต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพื้นที่ของตัวเองไม่ดีกว่าหรือ

เรื่องต่อไป เรื่องการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าตามแนวชายแดน อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะแก้ปัญหาโดยการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ มาควบคุมการค้าชายแดนให้มันถูกต้อง เป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติการข้อตกลงสัญญาทางการค้าของอาเซียน มันมีอยู่ เราต้องรับซื้อผลิตผลของเขา แต่จะซื้อมาทำอะไรต่อก็ต้องมาพูดคุยกันให้มันชัดเจนขึ้น เพราะว่าต่างคนต่างก็ปลูกเหมือนกัน มันต้องแลกเปลี่ยนกันนะ ผมคิดว่า ใช้สิทธิ GSP บ้านเขา แปรรูปบ้านเราได้มั้ย หรือเข้ามาแล้วก็ไปศูนย์กระจายสินค้า เป็นคลังสินค้า รวบรวมเอาไว้ แล้วไปแปรรูปเป็นสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นแล้วส่งออก อะไรทำนองนี้ มันต้องเชื่อมโยงกัน ต้องดูแลประเทศเพื่อนบ้านกันด้วย

ในเรื่องการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวก็เดินหน้าไปเยอะแล้วนะ ก็ต้องพัฒนาต่อไปอีกนั่นแหล่ะนะ วันนี้ในเรื่องของการพิสูจน์สัญชาติมันช้า เพราะต้องมาจากต้นทางเขา เขาก็ยังพร้อมบ้าง ไม่พร้อมบ้างแต่เราก็ได้อนุโลมผ่อนผันในบัตรอนุญาตชั่วคราว แต่ต้องมาต่อ ในแต่ละปี ที่เขาประกาศ ในหนังสือพิมพ์ก็ลง ไปต่อซะ การอนุญาตชั่วคราวนี้ไม่อนุญาตให้ข้ามเขตนะ เพราะฉะนั้นบรรดาเจ้าของกิจการที่ชอบไปเอาแรงงานที่อื่นเขามา ที่เขากำลังทำงานอยู่ ให้ราคาดีกว่าอะไรดีกว่า แล้วเอาเขาออกมา เขาก็ขาดแรงงาน เขาขออนุญาตมาแล้วนี่ เขาอาจจะเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลแรงงานของเขา แต่ปรากฏว่าท่านไปเอาแรงงานเขามาแทน อย่างนี้ไม่เป็นธรรมนะ ท่านอย่าเอาเปรียบคน แรงงานเองก็ต้องรู้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องรู้ แยกแยะให้ออกว่ากฎหมายมันคืออะไร เขาเขียนไว้แค่ไหน อนุโลมใคร ไม่ใช่ว่าใช้กฎหมายอย่างเดียวจนไม่มีรัฐศาสตร์ ไม่ได้ ต้องไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่ให้ได้ พอใจทั้งผู้ประกอบการ อะไรที่เป็นกติกาก็ต้องเข้มงวด อะไรที่ผ่อนผันได้ก็ต้องผ่อนผัน ตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการไปแล้วทั้งสิ้น

ต่อไปในเรื่องของการแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ มันก็มีในทุกระดับนะ ทั้งประชาชน ทั้งข้าราชการ ในส่วนราชการทั้งหมด การตรวจสอบการทุจริตต่างๆ เราก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน วิธีการ กระบวนการทั้งหมด ไม่ได้ละเว้นใครเลยนะ บัญชีต่างๆ ที่กล่าวถึงทั้งสองบัญชีก็ทบทวนและตรวจสอบในส่วนที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน จำนวนหนึ่ง ที่เหลือก็แต่ละกระทรวง ทบวง กรม แต่ละหน่วยงาน ก็จะรับรายชื่อทั้งหมดไป ก็จะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบทุกคน ว่ามันถูกหรือไม่ถูก ผิดตรงไหน อะไรยังไง ถ้าผิดก็ลงโทษทั้งวินัยและอาญา ก็ขอให้รอผลการดำเนินการไป อย่าเร่งด่วนเร่งร้อน วันนี้มันต้องเดินหน้าไปด้วย ข้างหลังก็แก้ตามไป ถ้าเอาอันนี้มาตี อันนี้มันเดินไม่ได้ ขอให้ไว้วางใจผมก็แล้วกัน เพื่อจะให้ .. ในการให้ความเป็นธรรม ถ้ายังไม่ผิดก็อย่าไปหาว่าเป็นผู้ต้องหา มันเสียชื่อเค้า ขอให้เป็นไปตามหลักฐานที่เป็นเชิงประจักษ์ มันต้องชัดเจน ผลการสอบสวนที่ถูกต้อง

เรื่องต่อไปที่ผมให้ความสำคัญก็คือการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์ ในเรื่องของการวางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ว่าเชิงรุก ประเทศไทยต้องเข้มแข็ง และเมื่อประเทศไทยเข้มแข็ง อาเซียนก็เข้มแข็งด้วยนะครับ เราเป็นหนึ่งในอาเซียน เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลเพื่อนเราด้วย เราต้องร่วมมือกันเป็นผู้นำพาอาเซียนไปสู่ความเข้มแข็ง ผมเรียนกับผู้นำทุกประเทศ เราต้องนำด้วยกัน ไม่ใช่คนใดใครเป็นคนหนึ่ง และมีการแลกเปลี่ยนถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน แต่ท้ายสุดก็คือ เพื่ออยู่ในกรอบของความเชื่อมั่นไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง และพื้นฐานของประโยชน์ที่เท่าเทียมกันนะครับ ดูแลประชาชนทุกประเทศ เราจะทำให้อาเซียนเข้มแข็ง มีศักยภาพในเวทีโลกด้วยนะครับ

เรื่องต่อไปในเรื่องของการปรับปรุงการท่องเที่ยวไทยในแนวใหม่ มันเป็นสิ่งที่เพิ่มรายได้ให้เราในขณะนี้ ในเมื่อเศรษฐกิจส่งออกตก แต่วันนี้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศสูงขึ้นมากขึ้น มันอาจจะเป็นโชคดีของเรา เรามีความพร้อมอยู่เยอะพอสมควร เยอะมาก วันนั้นเราเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด วันนี้ก็ต้องเน้นในเรื่องของความปลอดภัย ในเรื่องของการเชื่อมโยงทั้งธุรกิจการท่องเที่ยวในหลายๆ ประเภท ทั้งในประเทศเรา ประเทศเพื่อนบ้านทางบก ทางเรือ ทางอากาศ เป็นการท่องเที่ยวแพคเกจ หรือเป็นคลัชเตอร์ ต้องทำนะครับ และเพื่อนบ้านเขายอมรับให้เราเป็นผู้นำในเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เขาเห็นว่าเรามีประสบการณ์สูงในเรื่องของการท่องเที่ยวนะครับ

ในเรื่องของด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมนั้น วันนี้แก้ไขกฎหมายเป็นจำนวนมาก 100 กว่ากฎหมายไปแล้ว ซึ่งจะทำให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ต้องใช้กฎหมายให้เกิดประโยชน์ทำให้สังคมเข้มแข็ง สังคมอยู่ร่วมกันได้ ปราศจากความขัดแย้ง คนยากคนจนมีกองทุนยุติธรรม และทุกกฎหมายนั้นจะต้องชัดเจนว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรเป็นอันดับแรก

2.คือเจ้าหน้าที่จะได้มีเครื่องมือในการทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ไปตามกฎ โดยไม่มีความขัดแย้งระหว่างรัฐ ข้าราชการ กับประชาชนให้ได้มากที่สุด กฎหมายเป็นเครื่องมือในการสร้างสันตินะครับ ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง จะต้องสอดคล้องสภาวะปัจจุบัน และที่เรามีพันธกรณีต่างๆ กับสากลด้วย ต้องแก้ไขทั้งหมดนะครับ ที่มันล่าสมัย

ในส่วนของการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบันรัฐบาลนี้ สิ่งใดที่ยังไม่เสร็จ หรือยังไม่ได้เริ่ม แต่เราจะกำหนดหัวข้อไว้ และจะส่งให้กับสภาปฏิรูปไปทำแผนงาน และกำหนดให้มียุทธศาสตร์บางอย่าง อาจจะปีเดียว 4 ปีรัฐบาล 5 ปีแผนพัฒนาเศรษฐกิจ หรือก็เป็นส่งต่อไป 5 ปีต่อไป ทุกอย่างวันนี้มันเดินทีละ 5 ปีหมดในเวทีประชาคมโลก เพราะฉะนั้นเราจะต้องกำหนดให้มันชัดเจนว่า 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เราควรจะเป็นประเทศแบบไหน ประเทศประชาธิปไตยที่เป็นประเทศเกษตร อุตสาหกรรม ต้องบวกในเรื่องอื่นๆ ไปด้วย ต้องในเชิงที่เรามีความได้เปรียบ ไม่ว่าจะเรื่องการเป็นฮับ เรื่องการท่องเที่ยว ในเรื่องการรักษาพยาบาลต่างๆ ต้องเอาสิ่งเหล่านี้มา ต้องเกื้อกูลเพื่อนบ้านด้วย ไม่งั้นไปด้วยกันไม่ได้ ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เรารวยคนเดียวไม่ได้ ผมคิดอย่างนั้นนะ ในประเทศก็เหมือนกัน คนรวยมากต้องดูแลคนรวยน้อย คนรวยน้อยต้องดูแลคนรวยน้อยกว่า ตามลำดับไป พ่วงไปเรื่อยๆ พี่จูงน้อง พ่อจูงลูก เป็นสิ่งที่น่าต้องทำ

ส่วนของยุทธศาสตร์ชาตินั้น ยาว 20 ปีได้ มันจะประเมินทุก 5 ปี ทุกรัฐบาลต้องทำตามนี้ในส่วนที่เป็นประเด็นหลักๆ ในเรื่องความมั่นคง ในเรื่องของเศรษฐกิจสังคม ในเรื่องของพลังงาน สาธารณูปโภคพื้นฐาน การสร้างความเข้มแข็ง การลดความเหลื่อมล้ำ การให้ความเป็นธรรมเหล่านี้ มันต้องเดินควบคู่ไปเป็นเวลานาน และไม่ใช่ผมอยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้น วันนี้ เราพยายามจะเสริมสร้างระบบธรรมาภิบาลในส่วนราชการให้ได้ ส่วนของรัฐให้ได้ สร้างคนที่มีคุณธรรม จริยธรรม ทางสังคมด้วย

เพราะฉะนั้น วันนี้เราต้องการให้ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ให้เป็นข้าราชการที่ดีใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของราษฎร ของประชาชน ตามพระเนตรที่ทรงได้มอบภารกิจเหล่านี้ลงมาให้กับพวกเรา ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนนะครับ และห้วงนี้เป็นห้วงสำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล และช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ขัดแย้ง ผู้เห็นต่าง ผมคิดว่ายังไม่ใช่เวลาตอนนี้ ที่ท่านจะออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ เพราะว่าเรากำลังทำสิ่งที่มีปัญหาในอดีต

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ให้เราแก้ไขวันนี้ มันจะเกิดขึ้นอีกนะ เรากำลังสร้างประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ ต้องใช้คำว่า ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ ผมไม่เคยปฏิเสธประชาธิปไตย แต่เราต้องมีประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ ยั่งยืน ทุกคนมีความสุข บางอย่างอาจต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนผ่านในเวลานี้ เปลี่ยนผ่านให้ได้ ทำยังไง จะวางตัวยังไง ลำบากไหม เหนื่อยไหม จะต้องอดทน เขาเรียกว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในอนาคต นั่นคือการปฏิรูป จัดระเบียบต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง มีการบูรณาการร่วมกัน มีการกำหนดเป้าหมายล่วงหน้า มีการประเมินห้วงระยะเวลา แล้วประชาชนจะต้องรู้อนาคตของเขา สำคัญที่สุด อย่าไปปิดบังกัน ไม่งั้นก็มีปัญหาหมดล่ะ ต้องรู้ก่อนแผนใหญ่เป็นยังไง แล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของการกำหนดโครงการต่างๆ ลงไป เป็นไปตามการทำประชาพิจารณ์ มันก็ไม่ขัดแย้ง ทุกวันนี้ขัดแย้งกันเต็มไปหมด ก็ขอร้องผู้ที่ยังเข้าไปสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ให้ขัดแย้งกับการทำงานของรัฐบาล อะไรที่เป็นประโยชน์ กรุณาเถอะครับอย่าขัดแย้งเลย อย่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ อธิบายให้เขาเข้าใจ ผมรับได้นะถ้าบอกว่า เขาต้องการจะอยู่แบบยากจนแบบนี้ หรือเขาจะอยู่ในชีวิตที่ดีขึ้น มันไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ หรอกนะ มันต้องร่วมมือกัน เพราะฉะนั้นถ้าไม่ร่วมมือกัน มันก็จะต้องอยู่แบบนี้ มันก็จนอยู่อย่างนี้ รายได้ก็ไม่มี ธุรกิจก็ไม่เกิดขึ้นในพื้นที่ แล้วใครจะทำให้ท่านร่ำรวยขึ้น ลูกหลานท่านจะเอาอะไรเรียนหนังสือ วันหน้าที่อื่นเขาพัฒนาไปแล้ว เขามีโครงการใหญ่ๆ เข้ามา มีอาชีพ มีรายได้ มันก็ดีกว่าพื้นที่ที่ไม่มี ต่างประเทศเขาแย่งกันว่าตรงไหนจะเป็นแหล่งการค้าการลงทุน เขาแย่งกันไปเลยนะ อยากให้มาลงทุนพื้นที่ตัวเองจะได้เจริญ ไอ้ของเราบางทีก็ถูกชี้แจงในทางที่ไม่เข้าใจกัน หลายอย่างนะ ไม่เข้าใจด้วย การเมืองด้วย อะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ความขัดแย้ง กลุ่มผลประโยชน์ มันทำให้ทุกอย่างมันบิดเบือน ความร่วมมือก็ไม่เกิด มันก็ทำไม่ได้ ประเทศก็พัฒนาไม่ได้ ถ้าชุมชนทำไม่ได้ แล้วอะไรจะทำได้ล่ะครับ มันต้องเริ่มจากชุมชนทั้งสิ้น เริ่มจากประชาชนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรียกว่าประชาชน หรือเป็นพลเมืองก็แล้วแต่ ก็คือคนไทยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องไม่ให้ประเทศไทยนั้นต้องชอกช้ำ ต้องเป็นเช่นในอดีตที่ผ่านมา นั่นคือสิ่งสำคัญที่พวกเรา คสช.และรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน โดยไม่ได้คิดอะไรอื่นใดเลย เพียงแต่ว่าต้องทำภารกิจให้สำเร็จ คือให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ขอบคุณครับ สวัสดีครับ ขอให้มีความสุขวันหยุดสุดสัปดาห์นะครับ สวัสดีครับ