เครือข่ายกะเทยแถลงร่วม กสม. แจงผับดังออนิกซ์ยอมขออภัย เหตุห้ามนางแบบสาวประเภทสองเข้า ลั่นมีอีกจะสู้คดีต่อ เชื่อ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศคลอดจะแก้เลือกปฏิบัติได้ วอนสถานบริการอย่าเลือกปฏิบัติ ปลุกสาวประเภทสองลุกขึ้นสู้
วันนี้ (10 ก.ค.) เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย นำโดยนายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ ประธานเครือข่ายฯ และอาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยนายณัชนัจทน์ สุดลาภา หรือซารีน่าไทย นางแบบคนข้ามเพศ แถลงภายหลังเข้าร่วมหารือกับ นพ.แท้จริง ศิริพานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิผู้สูงอายุ ผู้พิการ บุคคลหลากหลายทางเพศ และการสาธารณะสุข และนายยุทธนา เขมสุวัฒนา ผู้จัดการสถานบันเทิงออนิกซ์ย่านอาร์ซีเอ ต่อกรณีที่ซารีน่าไทยถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าใช้บริการสถานบันเทิงดังกล่าวเมื่อวัน 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นสาวประเภทสอง
โดยนายรณภูมิกล่าวว่า จากการหารือทางผู้บริหารร้านยอมรับผิดพร้อมขออภัย และระบุว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยให้เหตุผลว่าการปฏิเสธไม่ให้สาวประเภทสองไม่ให้ใช้บริการเกิดจากความผิดพลาดในการทำความเข้าใจของผู้บริหารร้านกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทางร้านได้จ้างมา โดยทางร้านยืนยันว่าหลังจากนี้จะมีการทำความเข้าใจกับพนักงานของร้านไม่ให้ปฏิเสธสาวประเภทสองหรือบุคคลข้ามเพศด้วยเหตุแห่งเพศสภาพที่จะเข้ามาใช้บริการของร้าน และผู้กล่าวหาจะถอนแจ้งความกับทางร้าน แต่หากภายหลังทางร้านไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงก็จะนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะจบลงด้วยดี แต่เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เมืองไทยมีกฎหมายกำหนดเรื่องเพศสภาพ และวันที่ 9 ก.ย. นี้ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศจะมีผลใช้บังคับ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลด้วยเหตุแห่งเพศสภาพในระดับหนึ่ง โดยตามกฎหมายดังกล่าวหากผู้มีเพศสภาพไม่ตรงกับการเกิดได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม สามารถยื่นคำร้องต่อ กสม.ได้ และถ้ากระทำความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติ ก็มีโทษทั้งจำและปรับ
ด้านซารีน่าไทย ได้กล่าวขอบคุณ กสม. และทางผู้บริหารร้านที่จะมีการแก้ไขปัญหา โดยอยากให้สถานบริการทุกแห่งได้ใช้กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างในการไม่เลือกปฏิบัติ เพราะที่ผ่านมาทางเครือข่ายฯยังได้รับการร้องเรียนจากคนข้ามเพศอีกนับสิบเรื่องในการเลือกปฏิบัติของสถานบริการ จึงอยากเรียกร้องไปยังสถานบริการ หน่วยงานรัฐและเอกชน อย่าได้มีการเลือกปฏิบัติกับคนข้ามเพศ โดยให้คำนึงถึงความรู้ความสามารถมาเป็นหลักในการเลือกบุคคลเข้าทำงาน รวมทั้งขอเรียกร้องให้คนข้ามเพศที่ถูกเลือกปฏิบัติอย่านิ่งเฉย แต่ให้ออกมาร่วมต่อสู้เพื่อยุติการเลือกปฏิบัติ