วานนี้ (9ก.พ.) ที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายณิชนัจทน์ สุดลาภา หรือ ซารีน่า ไทย นางแบบผู้หญิงข้ามเพศ นายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ประธานเครือข่ายเพื่อนกระเทยไทย และตัวแทนโครงการการณรงค์เพื่อผลักดันการรับรองเพศสภาพในประเทศไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ น.พ.แท้จริง ศิริพานิช นางวิสา เบญจมะโน กรรมการสิทธิฯ กรณี สถานบันเทิง ( Onyx)ย่านอาร์ซีเอ กรุงเทพฯ เลือกปฏิบัติ ไม่ยอมให้สาวประเภทสองเข้าใช้บริการ โดย ซารีน่าไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. เวลาประมาณ 23.45 น. ตนพร้อมเพื่อนชาวต่างชาติ 4 คน จะไปฉลองปีใหม่ที่สถานบันเทิงดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงมีการตรวจบัตร โดยเพื่อนชาวต่างชาติ สามารถเข้าไปภายในร้านได้ แต่เมื่อถึงตน เจ้าหน้าที่รักษาปลอดภัยตรวจบัตรประชาชนแล้วกลับปฏิเสธไม่ให้เข้า โดยบอกว่า "เข้าไม่ได้นะครับ เพราะคุณเป็นสาวประเภทสอง" จากคำตอบดังกล่าว ทำให้ตนรู้สึกเสียใจ อับอาย เหมือนถูกดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมุนษย์ เพื่อนต่างชาติที่ไปด้วยก็บอกว่าเสียใจว่าทำไมตนเองเป็นคนไทย แต่กลับไม่สามารถใช้บริการในสถานบันเทิงของไทย จึงได้ร่วมกับเพื่อนในเครือข่าย มายื่นร้องต่อกรรมการสิทธิ เพราะอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมให้เกิดความเท่าเทียมกัน
ขณะที่นายรณภูมิ กล่าวว่า การปฏิเสธดังกล่าว ถือเป็นพฤติกรรมละเมิดสิทธิการเข้ารับบริการในฐานะผู้บริโภค ตามหลักการสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 โดยในขณะนี้ มีสถานบันเทิงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หลายแห่งที่ปฏิเสธ ไม่ให้คนข้ามเพศเข้าไปใช้บริการ อย่างโรงแรมในพัทยา จ.ชลบุรี และ จ.ภูเก็ต ก็ถึงขั้นติดป้ายว่า มี 3 สิ่งห้ามนำเข้ามาในโรงแรม ก็คือ สุนัข ทุเรียน และกระเทย ขณะที่ในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมันจะอ้างว่า เป็นนโยบายของร้าน หรือบางครั้งก็จะบอกว่า เพราะมีกระเทยเคยเข้าไปขโมยของ แอบค้าประเวณี ซึ่งไม่ควรเอาเหตุผลดังกล่าวมาเหมารวมใช้กับคนข้ามเพศทุกคน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว หากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด ถ้าพบว่ามีการเลือกปฏิบัติกับคนข้ามเพศ กฎหมายกำหนดให้มีโทษทั้งจำ และปรับ ซึ่งทางเครือข่ายก็หวังว่า จะทำให้การเลือกปฏิบัติลดน้อยลง
ด้านนางอมรา กล่าวว่า การเลือกปฏิบัติทุกประเภท ไม่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งทางกรรมการสิทธิฯ ก็จะนำคำร้องดังกล่าวไปตรวจสอบต่อไป
ขณะที่ น.พ.แท้จริง กล่าวว่า จะเชิญผู้บริหารสถานบันเทิงดังกล่าวมาสอบถาม เพราะการเลือกปฏิบัติดังกล่าว ไม่สามารถทำได้ ซึ่งที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหลายเรื่อง ทั้งไม่ให้ใช้ห้องประชุมโรงแรม ไม่ให้เข้าสถานบันเทิง หรือเอาอัตลักษณ์ไปทำให้เป็นเรื่องตลก ขบขัน ทั้งที่กรณีลักษณะนี้ ทำไม่ได้ อย่างที่ผ่านมา เครือข่ายรณรงค์เรื่องเอดส์ใช้ห้องประชุมของ รร.ทาวน์อินทาวน์ แต่เมื่อผู้บริหารมาชี้แจงก็จะอ้างว่า ไม่เคยห้าม แต่ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ระดับล่างก็จะอ้างว่าเป็นนโยบายของโรงแรม ซึ่งบางครั้งการไม่ให้ใช้ หรือเข้าสถานที่ มีทั้งที่เป็นความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ระดับล่าง หรือระดับนโยบายสั่งมา จึงต้องมีการเชิญมาทำความเข้าใจกัน แต่คิดว่าขณะนี้ ร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังมีการยกร่างอยู่ ได้มีการกำหนดเรื่องห้ามไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศสภาพไว้ด้วย ถ้าหากร่างรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ การให้ความเป็นธรรมและความเท่าเทียบกับกลุ่มคนเหล่านี้ในเรื่องต่างๆ ก็จะดีขึ้น
ขณะที่นายรณภูมิ กล่าวว่า การปฏิเสธดังกล่าว ถือเป็นพฤติกรรมละเมิดสิทธิการเข้ารับบริการในฐานะผู้บริโภค ตามหลักการสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 โดยในขณะนี้ มีสถานบันเทิงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หลายแห่งที่ปฏิเสธ ไม่ให้คนข้ามเพศเข้าไปใช้บริการ อย่างโรงแรมในพัทยา จ.ชลบุรี และ จ.ภูเก็ต ก็ถึงขั้นติดป้ายว่า มี 3 สิ่งห้ามนำเข้ามาในโรงแรม ก็คือ สุนัข ทุเรียน และกระเทย ขณะที่ในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมันจะอ้างว่า เป็นนโยบายของร้าน หรือบางครั้งก็จะบอกว่า เพราะมีกระเทยเคยเข้าไปขโมยของ แอบค้าประเวณี ซึ่งไม่ควรเอาเหตุผลดังกล่าวมาเหมารวมใช้กับคนข้ามเพศทุกคน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว หากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด ถ้าพบว่ามีการเลือกปฏิบัติกับคนข้ามเพศ กฎหมายกำหนดให้มีโทษทั้งจำ และปรับ ซึ่งทางเครือข่ายก็หวังว่า จะทำให้การเลือกปฏิบัติลดน้อยลง
ด้านนางอมรา กล่าวว่า การเลือกปฏิบัติทุกประเภท ไม่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งทางกรรมการสิทธิฯ ก็จะนำคำร้องดังกล่าวไปตรวจสอบต่อไป
ขณะที่ น.พ.แท้จริง กล่าวว่า จะเชิญผู้บริหารสถานบันเทิงดังกล่าวมาสอบถาม เพราะการเลือกปฏิบัติดังกล่าว ไม่สามารถทำได้ ซึ่งที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหลายเรื่อง ทั้งไม่ให้ใช้ห้องประชุมโรงแรม ไม่ให้เข้าสถานบันเทิง หรือเอาอัตลักษณ์ไปทำให้เป็นเรื่องตลก ขบขัน ทั้งที่กรณีลักษณะนี้ ทำไม่ได้ อย่างที่ผ่านมา เครือข่ายรณรงค์เรื่องเอดส์ใช้ห้องประชุมของ รร.ทาวน์อินทาวน์ แต่เมื่อผู้บริหารมาชี้แจงก็จะอ้างว่า ไม่เคยห้าม แต่ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ระดับล่างก็จะอ้างว่าเป็นนโยบายของโรงแรม ซึ่งบางครั้งการไม่ให้ใช้ หรือเข้าสถานที่ มีทั้งที่เป็นความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ระดับล่าง หรือระดับนโยบายสั่งมา จึงต้องมีการเชิญมาทำความเข้าใจกัน แต่คิดว่าขณะนี้ ร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังมีการยกร่างอยู่ ได้มีการกำหนดเรื่องห้ามไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศสภาพไว้ด้วย ถ้าหากร่างรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ การให้ความเป็นธรรมและความเท่าเทียบกับกลุ่มคนเหล่านี้ในเรื่องต่างๆ ก็จะดีขึ้น