xs
xsm
sm
md
lg

“กองทัพบก” ร่วมมือ “ซีพี-แบงก์ยักษ์” เปิดบริจาคสร้าง “อุทยานราชภักดิ์ หัวหิน” เผยขาดงบ 200-300 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กองทัพบก จับมือ “ซีพี ออลล์ - เคาน์เตอร์เซอร์วิส” และธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ เปิดช่องทางบริจาคเงินจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ หัวหิน ใช้เป็นที่ทำพิธีสำคัญ ต้อนรับต่างชาติ และเป็นที่เที่ยวของกำลังพลกองทัพบก เผยยังขาดงบประมาณอีก 2 - 3 ร้อยล้าน คาดปลายเดือน ก.ค. พระบรมราชานุสาวรีย์แล้วเสร็จ ก่อนจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ใต้ฐานจากงบประมาณที่รับบริจาคเพิ่มเติม

วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมว.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวภายหลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ซีพีออล์ จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด รวมถึงธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมโครงการ สนับสนุนเงินทุนจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า ถือเป็นการเปิดช่องทางในการบริจาคเพื่อร่วมสมทบทุนได้ง่ายขึ้น โดยขณะนี้โครงการดังกล่าวขาดแคลนงบประมาณในการจัดสร้างอีกประมาณ 200 - 300 ล้านบาท ที่เราจำเป็นที่ต้องมาดำเนินการ ซึ่งขณะนี้โครงการมีความคืบหน้าไปมาก โดยสัปดาห์หน้าถึงประมาณปลายเดือน ก.ค. พระบรมราชานุสาวรีย์ทั้ง 7 พระองค์ จะเคลื่อนย้ายมาประดิษฐานที่อุทยานราชภักดิ์ต่อไป และ ในปลายเดือน ส.ค. หรือ ต้น ก.ย. นี้ ก็จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น จะดำเนินการในเรื่องของพิพิธภัณฑ์ซึ่งต้องใช้งบประมาณที่ได้รับบริจาคเพิ่มเติมไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ

อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กองทัพบกจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม พร้อมจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์ พระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหง (สมัยกรุงสุโขทัย), สมเด็จพระนเรศวร (สมัยกรุงศรีอยุธยา), สมเด็จพระนารายณ์ (สมัยกรุงศรีอยุธยา), สมเด็จพระเจ้าตากสิน (สมัยกรุงธนบุรี), พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์), พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) โดยใช้พื้นที่ของกองทัพบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณ สมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ทรงสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ อันนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชาติไทยตราบจนทุกวันนี้, เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพบก และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในโอกาสที่มาเยือนกองทัพบกอย่างเป็นทางการ และเพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สำหรับให้กำลังพลและครอบครัวของกองทัพบก รวมถึงนักเรียนทหาร ตลอดจนประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ได้เข้ามาทัศนศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

ทั้งนี้ จะมีโครงสร้างหลักที่สำคัญ จำนวน 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ แห่งสยาม จำนวน 7 พระองค์ โดยพิจารณาเลือกพระมหากษัตรย์แต่ละยุคสมัยตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ชึ่งพระนามแต่ละพระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ โดยรูปแบบของพระบรมราชานุสาวรีย์ จะจัดสร้างในลักษณะพระอิริยาบถทรงยืน ความสูงเฉลี่ยไม่เกิน 13.9 เมตร หล่อด้วยโลหะสำริดนอก

ส่วนที่ 2 ลานอเนกประสงค์ มีเนื้อที่ประมาณ 91 ไร่ ใช้สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพ และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ และส่วนที่ 3 อาคารพิพิธภัณฑ์ หรือห้องจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ โดยการค้นคว้า รวบรวม และจัดทำพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่สำคัญของบูรพกษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยจะดำเนินการจัดสร้างบริเวณด้านล่างของฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ภายหลังจากการก่อสร้างฐานและพระบรมราชานุสาวรีย์เสร็จเรียบร้อย พื้นที่ส่วนที่เหลือจำนวน 126 ไร่ จะเป็นสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ และการจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวก ประชาชน หรือองค์กรทั่วไปร่วมบริจาคสมทบทุน โดยการโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารทหารไทย สาขากองบัญชาการกองทัพบก ชื่อบัญชี “กองทุนสวัสดิการกองทัพบก” บัญชีกระแสรายวัน หมายเลขบัญชี 077-1-07474-7 ทั้งนี้ สามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้

รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ กองกิจการพลเรือน สำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก โทรศัพท์ 0-2297-7581 ถึง 4


พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ภาพจากแฟ้ม)
กำลังโหลดความคิดเห็น