นครปฐม - จังหวัดนครปฐม อัญเชิญ “พระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ไปประดิษฐาน ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ อุทยานราชภักดิ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้ว โดยมีทหาร ตำรวจ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร คาดถึงปลายทางกลางดึกคืนนี้
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (23 ก.ค.) ที่บริษัท ช.ปฏิมากรรม อินดัสตรี จำกัด ตำบลวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ได้มีพิธีอัญเชิญพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ไปประดิษฐาน ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ ภายในอุทยานราชภักดิ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ที่ถือเป็นองค์แทนพระมหากษัตริย์แต่ละสมัย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งมีความหมายว่า อุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
โดยก่อสร้างบนพื้นที่ของกองทัพบก ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 222 ไร่เศษ เพื่อเป็นการเทิดทูน และประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ทรงสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ อันนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชาติไทยตราบจนทุกวันนี้
อีกทั้งเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพบก และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในโอกาสที่มาเยือนกองทัพบกอย่างเป็นทางการ ตลอดจนเพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สำหรับให้กำลังพล และครอบครัวของกองทัพบก รวมถึงนักเรียน ทหาร และประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศได้เข้ามาทัศนศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย
สำหรับรูปแบบของพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ กรมศิลปากรได้สนับสนุนการออกแบบในลักษณะพระอิริยาบถทรงยืน มีขนาดความสูง 13.9 เมตร หล่อด้วยโลหะสำริดนอก ดำเนินการหล่อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี โดยจะมีการอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ มาประดิษฐาน ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ ภายในอุทยานราชภักดิ์ ระหว่างวันที่ 23 ถึงวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ตามเส้นทางถนนพระราม 2 ถนนเพชรเกษม และถนนเลี่ยงเมืองชะอำ-ปราณบุรี
ในส่วนของภายในอุทยานราชภักดิ์ จะประกอบไปด้วย พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ลานอเนกประสงค์เพื่อใช้สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพ และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ อีกทั้งยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ หรือห้องจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ โดยการค้นคว้า รวบรวม และจัดทำพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่สำคัญของบูรพกษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยจะดำเนินการจัดสร้างบริเวณด้านล่างของฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ
นอกจากนี้ ในพื้นที่ส่วนที่เหลือจะมีการปรับสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ และการจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวกอีกด้วย ซึ่งการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ และการก่อสร้างลานอเนกประสงค์ มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้น จะดำเนินการก่อสร้างในส่วนอื่นๆ ต่อไป โดยใช้งบประมาณก่อสร้างรวมทั้งสิ้นกว่า 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการเคลื่อนย้ายดังกล่าวได้มีการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ตั้งแต่ออกจากโรงหล่อ ผ่านมายังเส้นทางหน้าวัดวังเย็น และเข้าสู่ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปยังจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจทางหลวง พร้อมด้วยทีมช่างและทีมเคลื่อนย้ายไปตลอดเส้นทาง โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร โดยเริ่มมีการจราจรหนาแน่นด้านท้ายขบวน ตั้งแต่ช่วงตรงข้ามห้างแม็คโคร สาขานครปฐม โดยคาดว่าจะถึงปลายทางในช่วงดึกของคืนวันนี้ และเป็นขบวนแรกที่เริ่มมีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนไปประกอบยังสถานที่ดังกล่าว