xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ต้อนรับคณะเยาวชนลุ่มแม่น้ำโขง ย้ำเป็นแรงสำคัญสร้างประชาคมอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี ต้อนรับคณะเยาวชนลุ่มแม่น้ำโขง ชื่นชมที่ร่วมทำสาธารณประโยชน์ทั้งในประเทศและเพื่อนบ้าน แนะตระหนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การค้ามนุษย์ และ ยาเสพติด ย้ำไทยและอนุภูมิภาคร่วมกันเชื่อมโยงการพัฒนาพื้นที่ชายแดน การสื่อสาร เยาวชน เป็นแรงสำคัญสร้างประชาคมอาเซียน เผยรัฐบาลให้ความสนใจข้อคิดเห็น แนะทำหน้าที่ตั้งใจเรียน เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และสร้างเสริมเครือข่ายระหว่างกัน

วันนี้ (9 ก.ค.) คณะเยาวชนลุ่มแม่น้ำโขงเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้โอกาสและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทย และเยาวชนประเทศเพื่อนบ้าน ในการสร้างเครือข่ายเยาวชนเพื่อร่วมทำกิจกรรมเพื่อสาธารณะต่าง ๆ และกิจกรรมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ โครงการเยาวชนเพื่อมิตรลุ่มน้ำโขง เป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านการเชื่อมโยงระดับประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยคัดเลือกเยาวชนระดับอุดมศึกษาจาก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และ ไทย

สำหรับสาระสำคัญ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปคือ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับเยาวชนจากประเทศต่าง ๆ จำนวน 45 คน จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนเยาวชนเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมโครงการของเพื่อนสมาชิก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมที่เยาวชนได้ทัศนศึกษา และร่วมทำสาธารณประโยชน์ทั้งในประเทศของตน และประเทศเพื่อนบ้าน โดยกิจกรรมในปีนี้ มีหัวข้อหลัก คือ “การจัดการกับสิ่งท้าทายในภูมิภาค” (Addressing Regional Challenges) เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้และตระหนักถึงประเด็นท้าทายในลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า มีอย่างน้อย 3 ประเด็นที่มีความสำคัญในขณะนี้ ได้แก่ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การค้ามนุษย์ และ ยาเสพติด ซึ่งการจัดการกับสิ่งท้าท้ายเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกประเทศและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในระดับผู้นำ สิ่งที่รัฐบาลประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกำลังดำเนินการ คือ การทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงในภูมิภาค ประเทศลุ่มน้ำโขงตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางของการคมนาคม ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เยาวชนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแนวเหนือ - ใต้ เส้นทางแนวตะวันตก และ เส้นทางแนวตะวันออก - ตะวันตก ขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยและประเทศในอนุภูมิภาคต่างกำลังร่วมกันทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อทำให้เกิดการเชื่อมโยงการพัฒนาพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริง ซึ่งจะนำมาซึ่งการค้า การลงทุน และ การท่องเที่ยว และยกระดับความกินดีอยู่ดีของประชาชน นอกจากการเชื่อมโยงทางกายภาพแล้ว รัฐบาลประเทศลุ่มแม่น้ำโขงยังได้เล็งเห็นความสำคัญของการเชื่อมโยงระดับประชาชนผ่านการสื่อสารและการไปมาหาสู่กัน การทำกิจกรรมมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น และการแลกเปลี่ยนมิตรภาพระหว่างประชาชนในอนุภูมิภาคและภูมิภาค โดยเยาวชนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างประชาคมอาเซียนโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและการพัฒนาในอนุภูมิภาค และมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน การเข้าร่วมในโครงการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ จะช่วยให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนในภูมิภาค ทำให้เกิดความเข้าใจและการเปิดใจเรียนรู้และรับรู้ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม โครงการเยาวชนเพื่อนมิตรลุ่มน้ำโขงนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่ได้เชื่อมโยงเยาวชนในอนุภูมิภาคเข้าด้วยกัน

นายกรัฐมนตรี ทราบว่า เยาวชนจะมีโอกาสนำเสนอสิ่งที่ตนเรียนรู้ตลอดการเข้าร่วมโครงการ และข้อเสนอแนะต่อการจัดการกับสิ่งท้าทายในภูมิภาค (Addressing Regional Challenges) ในวันปิดโครงการด้วย ซึ่งข้อคิดเห็นของเยาวชนและความรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของภูมิภาคเป็นสิ่งที่รัฐบาลสนใจและให้ความสำคัญ เนื่องจากเยาวชนจะเป็นผู้ขับเคลื่อนที่สำคัญในอนาคต ทั้งนี้ พวกเราทุกคนต่างมีหน้าที่ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ภูมิภาค และประชาชนโดยรวม ในขณะที่เยาวชนก็มีหน้าที่ในการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และสร้างเสริมเครือข่ายระหว่างกัน เพื่อเตรียมเป็นผู้ใหญ่ที่จะร่วมกันสานฝันให้เป็นจริงในอนาคต

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ และศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ดำเนินโครงการที่ดี และหวังว่า จะดำเนินการสืบต่อไปในอนาคต พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงข้อคิดเห็นต่อการพัฒนาอนุภูมิภาค และเปิดโอกาสให้เยาวชนซักถาม









กำลังโหลดความคิดเห็น