xs
xsm
sm
md
lg

ช้างป่าที่ล้มป่วยอาการดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังดูแลใกล้ชิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ติดตามดูการรักษาช้างป่วยที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน ล่าสุด หลังทีมสัตวแพทย์ฯ ให้นำเกลือ ฉีดยา และวิตามินทำให้ช้างป่าเริ่มมีอาการดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอาการและดูแลใกล้ชิด

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ชายป่าใกล้อ่างเก็บน้ำศูนย์ฝึกอบรม ค่ายฤทธิฤาชัย ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร หมู่ 3 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการช่วยชีวิตช้างป่าของทีมสัตวแพทย์ทั้งจากโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน และคณะสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่พบล้มป่วยนอนอยู่ข้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ภายในค่ายฤทธิฤาชัย หมู่ 3 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ที่ผ่านมา

โดยมี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สาขาเพชรบุรี) นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ นายเมธา สันติกุล ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ นายทองใบ เจริญดง เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย (WCS) พร้อมทหาร ฉก.ทัพพระยาเสือ ทหาร ฉก.จงอางศึก ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฯลฯ พร้อมคณะสัตวแพทย์หญิงกรมอุทยานฯ ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ สัตวแพทย์หญิงเสาวลักษณ์ พาด้วง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รายงานผลการรักษาช้างป่าที่ล้มป่วยว่า ยังไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะช่วงบ่ายวานนี้มีอาการหนัก จึงทำให้ทีมสัตวแพทย์ทั้งจากของกรมอุทยานฯ และโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต้องตัดสินใจให้น้ำเกลือเพิ่มเติม รวมทั้งฉีดยาปฏิชีวนะ และวิตามิน พร้อมทั้งล้างระบบกระเพาะอาหาร นอกจากนั้น ต้องไม่ทำให้ช้างเกิดอาการเครียด โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณจุดที่ช้างป่าอยู่ ทำให้ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้จนถึงวันนี้ อาการช้างป่าอาการเริ่มดีขึ้น สังเกตได้จากเริ่มพ่นน้ำได้เอง กินกล้วย และหญ้าเนเปียได้บ้าง แต่ยังไม่มีการขับถ่าย

ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยนายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กำนัน จิตอาสา และชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจนสื่อมวลชนได้เรียกร้องขอให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ช่วยจัดเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์มาประจำในพื้นที่ส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งมีอุทยานขนาดใหญ่ ทั้งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีโขลงช้างป่าไม่ต่ำกว่า 400 ตัว และยังมีสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การช่วยเหลือรักษาอาการเจ็บป่วยของสัตว์ป่าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ด้าน นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ดูจากสภาพช้างป่าวันนี้อาการน่าจะดีขึ้น แต่ก็ยังคงต้องให้สัตวแพทย์เฝ้าติดตาม และสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 วัน ยอมรับว่าต่อไปต้องมีความพร้อมทั้งเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะเปลสำหรับที่จะใช้พยุงช้างไว้ในท่ายืน รวมไปถึงสัตวแพทย์ที่จะต้องมีการเพิ่มขึ้นมา เพราะปัจจุบันยอมรับว่ายังไม่เพียงพอ

“สิ่งสำคัญต้องยอมรับว่า ช้างตรงนี้ถือเป็นช้างของพะราชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับสั่งให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแล นอกจากนั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้ฝากขอบคุณถึงทุกภาคส่วนที่ช่วยกันดูแลช้างที่ป่วย ซึ่งท่านเองก็ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และถือว่ากรณีช้างป่าตัวดังกล่าวน่าจะเป็นกรณีตัวอย่าง เพราะช้างป่วยในลักษณะอาการแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”

ไส่วนตัวอย่างเลือดที่เก็บไป ทางสัตวแพทย์ส่งไปตรวจที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และหากผลออกมาก็จะได้ทราบว่า สาเหตุที่ช้างป่วยเกิดจากอะไร ส่วนผลเลือดที่เก็บไปตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหินนั้นทราบเพียงว่าติดเชื้อในกระแสโลหิตเท่านั้น แต่เราต้องการทราบลึกลงไปว่าเป็นเชื้ออะไร” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น