นายกฯ ขี้เกียจพูดเรื่อง 14 นักศึกษา รมว.ยุติธรรมบอกอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ชักเริ่มหงุดหงิดเบิกงบประมาณช้าไม่ทันใจ ข้องใจที่ผ่านมาเบิกกันเร็ว สั่งตรวจสอบ เมินบริษัทใหญ่ไม่ประมูลงานภาครัฐ กลัวกำไรน้อย บอกรัฐบาลช่วยทุกอย่าง ควรช่วยตัวเองบ้าง ถ้าไม่มีจริงจะเอาบริษัทเล็ก ไม่กังวลแท็กซี่ขู่หยุดวิ่ง ขู่จะหารถวิ่งแทน ดีใจเยาวชนไทยในต่างประเทศเยือนบ้านเกิด ให้เป็นทูตของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มนักศึกษาที่ได้รับการปล่อยตัวออกมายังมีการเตรียมการที่จะเคลื่อนไหวว่า “พอแล้วๆๆ ขี้เกียจพูดแล้ว พอแล้ว คุณก็จะไปพูดถึงเขาทำไม เขาเมตตาแล้วก็ยังพูดยังขุดอยู่นั่น ไม่รู้จะขุดกันไปทำอะไรไม่รู้ สื่อก็ไปเรียกเขาออกมาสิ สื่อไปชวนเขามาเลย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพูดว่าอย่างไรก็ตามนั้น เป็นเรื่องของกฎหมาย”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความไม่พอใจในการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าของแต่ละกระทรวงว่าอยากให้มีการเบิกจ่ายมากกว่านี้ จริงๆ แล้วก็มากกว่าทุกปีแต่ก็ยังไม่ทันใจตนเอง ไม่ทันใจตนเองไม่เท่าไหร่ แต่ไม่ทันใจพวกท่านและประชาชนด้วย ตนได้ให้ไปดูรายละเอียดว่าทำไมเบิกจ่ายไม่ได้ แต่ทำไมก่อนหน้านี้เบิกจ่ายเร็วนัก มันอยู่ที่การตรวจสอบอะไรหรือเปล่า แต่ก่อนทำเร็วเกินไปหรือไม่ มันมีรอยรั่วเยอะหรือไม่ วันนี้ต้องตรวจสอบให้พบรอยรั่ว แต่มันช้าเพราะอะไร เพราะขั้นตอนระเบียบต่างๆ มันรัดกุมเข้มแข็งขึ้น การกระทำต่างๆ ที่มันเคยง่ายมันก็ยากแค่นั้นเอง
“ผมก็อยากให้มันเร็วกว่าเดิม ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าข้าราชการไม่ทำ ข้าราชการเขาทำเต็มที่เดี๋ยวจะหาว่าผมไปว่าเขาอีก เขาทำเต็มที่แล้ว แต่ต้องเข้าใจว่าลักษณะการจัดทำงบประมาณในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นการจัดงบประมาณกระจายไปทุกพื้นที่ เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งมันไม่เคยทำ ที่ผ่านมาทำเป็นพื้นที่ มันก็ง่าย ให้งบประมาณเป็นก้อนลงไป ทำให้มีคนมาจัดซื้อจัดจ้าง ง่ายขึ้น มีบริษัทไม่กี่บริษัทมารับไป อยากถามว่ามันทั่วถึงหรือไม่ วันนี้ต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างไรจะประกอบธุรกิจอย่างไร ไม่ใช่อะไรๆ ก็รัฐบาล วันนี้รัฐบาลทำให้ทุกอย่างแต่ขอให้ช่วยตัวเองกันบ้าง บริษัทห้างร้านเอกชนไปหาวิธีการว่าจะทำอย่างไร แต่กลับมาบอกว่างบประมาณน้อยไม่ได้กำไร ถ้าไม่ทำก็อย่าทำ เดี๋ยวบริษัท เล็กๆ น้อยๆ มีกี่บริษัทก็ไปประมูลมา บริษัทใหญ่ไม่อยากเอาก็อย่าเอา อยากได้ก็ไปเอารัฐบาลหน้านู้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางบริษัทแท็กซี่ระบุว่า ถ้าชะลอการปรับมิเตอร์ขึ้นให้ก็จะหยุดวิ่งให้บริการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าชะลอก็ต้องชะลอ ตนก็ต้องฟังคณะกรรมการ รัฐมนตรีเขาไม่ได้พูดคนเดียว แต่มีคณะกรรมการดูอยู่ ทั้งนี้เรื่องค่าโดยสารค่าแรงอะไรต่างๆ ก็ต้องอย่าให้มีปัญหา
“ถ้าหยุดตนก็จะหารถไปวิ่งแทน เอาอย่างนี้แล้วกัน ดูซิมันจะเป็นอย่างไร เคยตัวกันมามากแล้วทุกเรื่อง ก็บ้านเมืองมีปัญหาอย่างนี้ แล้วคนอื่นเขาไม่มีปัญหาหรืออย่างไร มันก็มีทุกพวกนั้นแหละ ถ้าอันนี้ได้อันนั้นก็ต้องเอาแล้วจะเอาเงินที่ไหน เอาข้าวไปสิ ข้าวในคลังนะเอาไป”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการที่เยาวชนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา และยุโรป รวมทั้งผู้ปกครองที่กลับมาตามโครงการสำนึกรักบ้านเกิด เข้าเยี่ยมคารวะว่า วันนี้ดีใจที่ได้พบกับเยาวชนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมทั้งผู้ปกครองซึ่งเป็นการจัดกิจกรรม 2 ปีครั้ง สัปดาห์ก่อนก็มีเยาวชนไทยจากออสเตรเลียกลับมาเยือนแผ่นดินแม่ ซึ่งเป็นโครงการที่จัดโดยกงสุลใหญ่ ร่วมกับวัดไทย และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนงบประมาณ ก็จะมีการเดินทางไปเยี่ยมเยียนในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว เพราะต้องการให้มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยถือว่าทุกคนคือทูตพิเศษของไทยเพราะเป็นคนไทยก็ต้องไปสร้างคามเข้าใจกับต่างประเทศให้ได้ว่าบ้านเมืองไทยเป็นอย่างไร ซึ่งตนก็ได้เล่าให้ฟังทั้งหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไรบ้าง วันนี้ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะดำเนินการ ตนก็มีหน้าที่เดินหน้าทำให้ประเทศมีความมั่นคงแข็งแรง มั่งคั่งและยั่งยืน