xs
xsm
sm
md
lg

“ประสาร” ตอก “หมอเชิดชัย” อย่านิรโทษฯ เหมาเข่ง แนะ “ประยุทธ์” ใช้ ม.44 ปล่อยม็อบทำผิดไม่ร้ายแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประสาร มฤคพิทักษ์ (ภาพจากแฟ้ม)
คณะกรรมการปรองดอง สปช. เตือนอดีต ส.ส. เพื่อไทย ร้องนิรโทษกรรมเหมาเข่งไม่ได้ ถ้าจะทำก็ขีดวงจำกัดเฉพาะคนที่ทำผิดไม่ร้ายแรง พร้อมเสนอนายกฯ ใช้มาตรา 44 นิรโทษกรรม เชื่อสังคมรับได้กว้างขวางที่สุด วางใจเดินหน้าปรองดอง

วันนี้ (5 ก.ค.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ กรรมการในคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง ของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการนิรโทษกรรมเหมาเข่งคดีอาญาและคดีอื่นๆ ทุกคดี ตนมองว่า ทำไม่ได้ และไม่มีใครเอาด้วย เพราะการนิรโทษกรรมในขั้นตอนแรก ควรขีดวงจำกัดเฉพาะผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง ในฐานความผิดไม่ร้ายแรง เช่น ผิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ฝ่าฝืน พ.ร.บ. จราจร หรือ พ.ร.บ. ความมั่นคง ไม่ได้สร้างความเสียหายต้องเข้าสูทางชีวิต หรือทรัพย์สิน เป็นกลุ่มประชาชนที่ร่วมชุมนุมโดยสงบอย่างสุจริตใจ รวมถึงระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ ที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ส่วนคนต้องคดีอาญา คนสั่งการเผาบ้านเผาเมือง คนทุจริต คนผิดคดีหมิ่นสถาบัน ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องรับโทษทัณฑ์ และต้องสำนึกผิด จะมาห้อยโหนขอเป็นตู้รถพ่วงไม่ได้ นพ.เชิดชัย ต้องก้าวไปให้พ้นเข่งอัปยศใบเดิมที่เรียกคนออกมาหลายล้านคนขับไล่รัฐบาลชุดที่แล้วออกไป

“ขอเสนอให้รัฐบาลใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญปี 2557 พิจารณาดำเนินการให้มีการนิรโทษกรรมประชาชนกลุ่มแรกที่เข้าร่วมชุมนุมโดยสุจริตใจ ถ้าทำได้เร็วตามแนวทางนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่สังคมรับได้กว้างที่สุด จะเป็นสัญญาณทางบวก ทำให้เกิดความไว้วางใจว่า คสช. เอาจริงในความพยายามที่จะเปิดทางสู่การเดินหน้าปรองดองในขั้นต่อไป” นายประสาร กล่าว

นายประสาร ยังกล่าวต่อว่า เป็นการนำหลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านมาใช้ เป็นกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ จะสมานฉันท์หรือเมตตาธรรมโดยทิ้งกฎหมายไม่ได้ ขณะที่จะใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกวดขันโดยทิ้งเมตตาธรรม ก็จะทำให้การปรองดองเดินหน้าได้ยาก เป็นการอำนวยความยุติธรรม เพื่อเอื้อให้เกิดการสำนึกผิดและให้อภัย ทอดสะพานไปสู่สังคมสันติสุข ไม่คืนกลับไปสู่ความรุนแรงอีก แต่ก็ต้องเตรียมใจรับสภาพว่า การปรองดองไม่ใช่การบ่มแก้สรมควันผลไม้ที่จะเร่งเวลาได้ เพราะมาตรการหนึ่งใด ไม่ใช่จะทำให้สำเร็จได้ฉับพลัน ยังมีอักหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางสังคม เศรษฐกิจและการเมือง จึงต้องยอมให้เรื่องการปรองดองต้องใข้เวลาอีกยาวไกล


กำลังโหลดความคิดเห็น