เลขาฯ สมช.เล็งนัดสื่อ-นักวิชาการ พูดคุยสถานการณ์การเมือง-ไฟใต้ ยันนักศึกษาเคลื่อนไหวไม่บานปลาย วอนทุกฝ่ายหยุด เปิดทางเดินหน้าปฏิรูปประเทศ กังขานักศึกษาที่ถูกจับประกาศไม่ขอประกันตัว หวังปลุกระดมให้มีการชุมนุมใหญ่หรือไม่
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ จ.เชียงใหม่ วันนี้ (30 มิ.ย.) นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาต่างๆ ว่า อยากให้ทราบว่าการทำงานของรัฐบาลเพื่อมุ่งหวังในการปฏิรูปบ้านเมืองให้ดีขึ้นสำหรับอนาคต ที่ไม่ใช่ของวันนี้อย่างเดียว แต่เป็นอนาคตของลูกหลาน เพื่อให้มีการปรับวางระบบให้ดีขึ้น
“ผมเชื่อว่าประเทศไทยอาจจะหาช่วงเวลาอย่างนี้ได้น้อย และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเมืองในอนาคต มองอย่างใจที่เปิดกว้าง ประโยชน์ที่การเมืองในอนาคตจะได้รับคือการปฏิรูปบ้านเมืองให้มีมาตรฐาน มีการตรวจสอบ การกำกับดูแล และจะทำให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงถาวร อาจจะดีขึ้นไม่ได้อย่างที่คาดหวัง แต่ผมเชื่อว่าต้องดีขึ้นจากในอดีต ตรงนี้เป็นห้วงเวลาที่ต้องสร้างความเข้าใจสำหรับสาธารณะ หรือการเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็น่าจะรับฟังได้ แต่ถ้าการเคลื่อนไหวก่อให้เกิดความวุ่นวาย ความไม่สงบ ตรงนี้ประชาชนไม่ได้อะไร น่าจะเอาเวลานี้มาก่อให้เกิดประโยชน์ในเรื่องการปฏิรูปบ้านเมืองดีกว่า มุมมองของผม จากประสบการณ์คิดว่าบ้านเมืองถึงเวลาต้องหยุด เพื่อกลับมามองสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และเราจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ตรงนี้สำคัญที่สุด ลูกหลานเราจะได้อะไรจากรัฐบาลชุดนี้ เราช่วยกันคิดดีกว่า”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังเชื่อหรือไม่ว่าเป็นเรื่องการเมือง นายอนุสิษฐกล่าวว่า มีหลายส่วนในระบอบของการเมืองไทย กลุ่มไหนที่มีพลัง โดยเฉพาะต่อสื่อ ถ้าสื่อลงไปเล่น กลุ่มเหล่านั้นก็จะได้รับความสำคัญ ไม่กลุ่มใดก็กลุ่มหนึ่ง และถ้าสามารถเข้ามาเชื่อมโยงและได้ประโยชน์ คิดว่าเป็นเรื่องปกติ อย่าไปคิดว่าผิดปกติ แต่การสนับสนุนจากกลุ่มการเมืองถ้าก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เกิดผลกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน เราก็ต้องเฝ้ามอง
ส่วนที่กลุ่มนักศึกษาทั้ง 14 คน ไม่ขอประกันตัวจะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายอนุสิษฐกล่าวว่า ทำไมถึงไม่ประกันตัว ปกติคนถูกจับต้องขอประกันตัว ประเด็นก็คือทำไม ตรงนี้ต้องช่วยกันคิด เรื่องเหล่านี้มันมีการพยายามปลุกกระแส ตนตามข่าวอยู่ก็พยายามเฝ้ามองว่าทำไมไม่ประกันตัวแล้วอะไรจะเกิดขึ้น จะมีการรวมตัวกันอีกหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดแล้วบ้านเมืองได้ประโยชน์อะไร ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์ เขาก็จะไม่เห็นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้คนออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้นหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ตนคิดอย่างนั้นไม่ได้ คิดได้อย่างเดียวคือประเด็นของข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวอย่างนี้เกิดประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง ในช่วงของเวลาการปฏิรูป การเปลี่ยนแปลงหรือคิดว่าการปฏิรูป การเปลี่ยนแปลงไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยกับบ้านเมือง
“คงไม่บานปลาย ผมคิดว่าท้ายที่สุดทุกคนต้องห่วงชาติบ้านเมือง โจทย์มันใหญ่กว่า การเคลื่อนไหว หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น หรือถ้าเราคิดว่าการเคลื่อนไหวตรงนี้เป็นโจทย์ที่ใหญ่กว่า ผมช่วยไม่ได้ ทุกคนก็ช่วยไม่ได้ สื่อก็ช่วยไม่ได้ เพราะมันก็กลายเป็นว่าจะทำให้เกิดการจลาจล เกิดความวุ่นวายหรือเปล่า ถ้ามันขยายตัวผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น แต่ก็อาจจะมีคนบางกลุ่มที่อยากจะให้เกิดขึ้น” เลขาฯ สมช.กล่าว และว่าคงต้องพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจ ซึ่งทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวส่วนใหญ่รัฐบาลก็จะเรียกมาพูดคุย ปรับความเข้าใจ ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมาทุกคนก็ทราบดีว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ไม่ได้ใช้อำนาจใดๆ ไปบังคับขู่เข็ญเลย
ส่วนกรณีที่มีนักคิดนักเขียนบางราย ออกมาสนับสนุนนักศึกษาที่ถูกจับนั้น นายอนุสิษฐระบุว่า เป็นข้อควรกังวลว่ารัฐบาลต่อไปจะทำอย่างไร แต่เชื่อว่าเจตนารมณ์กับการปฏิบัติจะตอบคำถามได้ดีว่ามีเจตนาที่ดี แต่การปฏิบัติบางครั้งอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครบ้างต้องอธิบายกัน แม้แต่นักวิชาการบางกลุ่ม ถ้ามีโอกาสอาจเรียนเชิญมาพูดคุยกันว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เช่นกัน บางทีเราอยู่ห่างไกลจนคนที่ทำงานซึ่งรวมไปถึงสื่อมวลชนที่ตนอาจนัดเชิญมาสัมมนาสื่อกัน โดยส่วนนี้เป็นแนวคิดส่วนตัวที่ต้องการจะชี้ให้เห็นถึงภาพโดยรวมของการปฏิรูปประเทศว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง