รองหัวหน้า ปชป.พร้อมถูกเชิญไปพูดคุย ย้ำปัญหาชาติต้องคุยกัน ชี้ปฏิรูป-รัฐธรรมนูญ นักการเมืองไม่พูดไม่ได้ ย้อนหุบปากจะเป็นปัญหาในอนาคต ต้องช่วยกันแก้ แต่อย่าพูดให้ขัดแย้ง รองโฆษก ปชป.ระดมล่าชื่อคัดค้านเปิดบ่อน สงสัยพฤติกรรมเข้าข่ายอัปยศหรือไม่ หวั่นรัฐบาลเพิ่มงานบริการพลเมืองหญิงอย่างเลี่ยงไม่ได้
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.พัทลุง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อ “ยินดีให้ความร่วมมือ” มีใจความว่า การที่ผู้มีอำนาจหน้าที่เชิญตนไปคุยเป็นสิ่งที่ดี ดีกว่าไม่คุยกัน เพราะปัญหาบ้านเมืองมันต้องคุยกัน หากไม่คุยกันเป็นเรื่องแปลก อาจเป็นเพราะตนเป็นคนแสดงความเห็นอยู่บ่อยๆในสองเรื่อง คือ การปฏิรูป และรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นคนที่เป็นนักการเมืองไม่พูดไม่ได้ เพราะมันใหญ่เกินกว่าคนไม่กี่คนที่จะทำให้มันสำเร็จ อย่าสงสัยตนที่แสดงความเห็นเยอะ แต่หากจะสงสัยให้สงสัยคนที่ไม่แสดงความเห็นดีกว่า
“ถึงวันนี้ คนที่เคย (ด่า) ว่า หุบปากเสียมั่ง ให้ทหารเขาทำไป คงได้สติแล้วมังครับว่า การหุบปากนั่นแหละจะเป็นปัญหากับประเทศชาติในอนาคต ลำพังจะเงียบแล้วปล่อยให้ คสช.+สนช+สปช. แก้ปัญหาชาติไม่สำเร็จหรอกครับหากคนไทยทุกคนไม่ช่วยกัน ปัญหาคือ อย่าพูดให้ขัดแย้ง อย่าให้เกิดความเกลียดชัง อย่าให้มีการชุมนุมประท้วง แต่พูดเพื่อให้เกิดสติ ให้เกิดปัญญา น่าจะพูดได้ แม้ใครจะหมั่นไส้บ้างก็ไม่เป็นไร” นายนิพิฏฐ์ระบุ
ด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ระดมเสียงคัดค้านโยบายบ่อนเสรีต่อต้านความคิดของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ที่ออกมาระบุว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันเสรี ออกมาสนับสนุนการเปิดบ่อนเสรี โดยนางมัลลิกากล่าวว่าสงสัยในจิตสำนึกและบทบาทของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจในตำแหน่งใด มีหน้าที่การงานสำคัญคือการปราบปรามอบายมุขไม่ใช่การปล่อยเสรีอบายมุข
นางมัลลิกา ใช้แฮชแท็ก ‘คัดค้านบ่อนเสรี’ ลงชื่อคัดค้านนำไปเสนอผบ.ตร. บนหน้ากระดานเพจเฟซบุ๊กลิงก์ https://www.facebook.com/Mallikaboonmeetrakool/posts/836869089736361:0 ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ของนางมัลลิกา ใช้ชื่อ @Mallikaboon ได้อธิบายเหตุผลว่า “100% คัดค้านบ่อนเสรีค่ะ ดิฉันกำลังล่ารายชื่อบนเพจเฟซบุ๊กตามลิงก์ทวีตด้านล่างนี้เพื่อแสดงเจตนาให้ คสช.ทราบชัดๆ ดิฉันไม่เห็นด้วยที่ คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะปล่อยให้ ผบ.ตร.ออกมาเต้นแร้งเต้นกาตั้งท่าจะเปิดบ่อนเสรี ไม่แน่ใจว่า ผบ.ตร.กับ สปช.จำนวนหนึ่งนั้นรับงานใครมาจึงกล้าโยนหินถามทางกับสังคม แต่เมื่อโยนมาก็จะโยนไปว่าประเทศไทยต่องตั้งใจปฏิรูปตำรวจ ขจัดอบายมุข ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ตลอดอายุ 60 ปีของ พล.ต.อ.สมยศ คงไม่มีปัญญาขจัดอบายมุขใช่ไหม แต่ไม่ได้หมายความว่าตำรวจรุ่นใหม่ยุคใหม่กว่าท่านจะทำไม่ได้ สังคมไทยต้องเดินหน้า ไม่ใช่พาสังคมถอยหลังไปยอมรับสิ่งผิดเพียงเพราะไม่มีปัญญาแก้ไขควบคุมการพนัน”
นางมัลลิกากล่าวว่า 24 บ่อนถูกกฎหมายของเพื่อนบ้านเปิดได้จริง ล่อแมงเม่านักพนันไทยปี้บ่นเป็นหมื่นล้านแม้จะจริง คำถามคือ รู้แล้วจัดการอย่างไร ขนาดเพียงมีบ่อนขนาบชายแดน มีบ่อนลักลอบรับส่วย สังคมไทยยังเละขนาดนี้แล้วยิ่งเปิดเสรี คำถาม คือ ใครการันตีว่าเงินเข้าระบบได้เท่าไร สังคมไทยจะวิบัติมากน้อยแต่ไหน ระหว่างเงินบ่อนได้มากับเงินนำไปพัฒนาแก้ไขปัญหาสังคมตามมาจะคุ้มกันไหม อย่าคิดตื้น ยิ่งเงินในกระเป๋าของประชาชนถูกดูดเข้าไปในระบบกาสิโนมากเท่าใด ก็จะทำให้เงินสูญหายไปจากระบบเศรษฐกิจปกติเท่านั้น การบริโภคสินค้าและการบริการอื่นๆลดลงทำให้เกิดการลดลงของการผลิตสินค้าและบริการต่างๆ เป็นเงาตามตัวเศรษฐกิจในภาคปกติถดถอยลง ธุรกิจการผลิตมีผลทางเศรษฐกิจสูงกว่าธุรกิจกาสิโนเพราะเงินหมุนเวียนที่เท่ากันการผลิตจะมีขั้นตอนในการสร้างเศรษฐกิจมากมาย แต่วงจรธุรกิจกาสิโนสั้นมากเพราะเงินจากผู้เล่นจะถึงมือเจ้าของกิจการตรง จึงเก็บภาษีได้ต่อเดียวไม่มีผลคูณทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ยังมีการวิจัยว่า คนมีงานทำมากขึ้นอันนี้ไม่จริง เพราะเมื่อเศรษฐกิจในภาคปกติต้องถดถอยลงก็ย่อมต้องลดการจ้างแรงงานลงไป วิจัยว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามามากเป็นอันนี้ไม่จริงเพราะเรามีจุดขายเด่นคือยิ้ม ศิลปะ ความดีงาม ศาสนาวัฒนธรรม ไม่ใช่อบายมุข ธุรกิจการฟอกเงินจากยาบ้า เฮโรอิน คอร์รัปชันจะเฟื่องฟูและแนบเนียนผ่านธุรกิจกาสิโนจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของความเลว ภาพลักษณ์ของประเทศไทยจะถดถอยลงในสายตาของชาวโลก ทำให้รัฐต้องเสียเวลาและงบประมาณมากขึ้น รัฐจะเพิ่มงานแก่พลเมืองหญิง คือ งานขายบริการทางเพศที่จะสอดคล้องกับธุรกิจกาสิโนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้