“ไก่อู” เผย ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ยกระดับ ป.ป.ท.เป็นองค์กรใกล้เคียง ป.ป.ช. ให้มีประสิทธิภาพปราบโกงภาครัฐ ตามแนวทาง คสช. มีวาระ 7 ปี ขีดเส้นพิจาณาเรื่องร้องเรียนให้เสร็จ 3 เดือน สั่งฟ้องเองได้ คุณสมบัติต้องได้ ป.เอกกฎหมาย-สอบเนติฯ อยู่ ป.ป.ท.ไม่ต่ำกว่า 8 ปี ส่วนผู้ถูกกล่าวหาต้องโดนพักราชการ-ย้าย พร้อมผ่าน 3 ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอลชง สนช.
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการยกระดับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นองค์อิสระในระดับใกล้เคียงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่เกิดขึ้นในภาครัฐมากยิ่งขึ้น และเป็นไปตามแนวทางในประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 69/2557 โดยได้กำหนดวิธีการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ท.จากเดิมที่สรรหาบุคคลที่เหมาะสม 6 รายให้วุฒิสภาเป็นผู้พิจารณา ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นให้ ครม., ป.ป.ช. และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เสนอบุคคลที่เหมาะสมเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ท.ที่ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดองค์กรละ 5 ราย รวมเป็น 15 ราย ก่อนส่งชื่อให้คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกให้เหลือเพียง 6 ราย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.มีวาระการทำงาน 7 ปี
พล.ต.สรรเสริญกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยังกำหนดให้ ป.ป.ท.มีระยะเวลาพิจารณาเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือนหลังจากรับการกล่าวหา และมีอำนาจฟ้องคดีได้เอง หากพนักงานอัยการเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ได้รับสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ป.ป.ท. และสำนักงาน ป.ป.ท.ให้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงสถานะของสำนักงาน ป.ป.ท.ให้ส่วนราชการระดับกรมที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้การทำงานของสำนักงานเป็นอิสระและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงาน ป.ป.ท.ตามโครงสร้างใหม่นั้น ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกทางกฎหมาย และสอบเนติบัณฑิตได้แล้ว โดยต้องมีประสบการณ์ในการสอบสวนข้อเท็จจริงและวินิจฉัยคดีไม่น้อยกว่า 1 ปี ส่วนกรณีผู้สำเร็จการศึกษาระดับต่ำลงมานั้น ต้องรับราชการในสำนักงาน ป.ป.ท. มาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี สำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหานั้น ร่างกฎหมายใหม่ได้กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องใช้มาตรการทางวินัย ในส่วนของการพักราชการหรือย้ายออกจากพื้นที่เดิม ในระหว่างที่ถูกสอบสวนด้วย
พล.ต.สรรเสริญเปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกานำเสนอ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการปรับปรุงและรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิตอลที่ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการไปก่อนหน้านี้จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งมีเนื้อหาที่เกี่ยวโยงกันเข้าด้วยกัน โดยได้มีการปรับปรุงในส่วนของการจัดการกองทุนต่างๆ ตามร่างกฎหมายเดิมให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้นตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะไปก่อนหน้านี้ โดยจะมีการนำเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป