ตัวแทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน นครราชสีมา ยื่นหนังสือหนุน “ประยุทธ์” ทำหน้าที่ต่ออีก 2 ปี รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ รับหนังสือ ยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบทุจริต เรียกร้องประชาชนร่วมป้องกัน
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน กพ. ตัวแทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จ.นครราชสีมา เข้ายืนหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยึดอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งอาจผิดหลักการประชาธิปไตยแต่ได้ส่งผลดีต่อประเทศชาติ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 2 ปี เพื่อปฏิรูปประเทศให้เสร็จก่อน โดยเฉพาะการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตำรวจและอัยการ ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติ ทวงคืนผืนป่าและพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งปฏิรูปพลังงาน การศึกษา ปัญหาปากท้อง และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนรับหนังสือพร้อมกล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจรัฐบาล และระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตและเน้นมาตรการในการปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนเป็นผู้ที่ขยะแขยงคนโกง และที่สำคัญต้องไม่ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกวิถีทางเพื่อการป้องกันการทุจริต และอยากให้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นผู้สังเกตุการณ์ ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถขอข้อมูลจากส่วนราชการได้ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากพบว่าเกี่ยวข้องกับทุจริตก็ต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะมียศใหญ่โตเพียงใด จะเป็นเป็นนักการเมือง ข้าราชการ หรือนักธุกิจก็ต้องถูกดำเนินการทั้งสิ้น
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน กพ. ตัวแทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จ.นครราชสีมา เข้ายืนหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยึดอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งอาจผิดหลักการประชาธิปไตยแต่ได้ส่งผลดีต่อประเทศชาติ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 2 ปี เพื่อปฏิรูปประเทศให้เสร็จก่อน โดยเฉพาะการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตำรวจและอัยการ ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติ ทวงคืนผืนป่าและพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งปฏิรูปพลังงาน การศึกษา ปัญหาปากท้อง และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนรับหนังสือพร้อมกล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจรัฐบาล และระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตและเน้นมาตรการในการปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนเป็นผู้ที่ขยะแขยงคนโกง และที่สำคัญต้องไม่ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกวิถีทางเพื่อการป้องกันการทุจริต และอยากให้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นผู้สังเกตุการณ์ ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถขอข้อมูลจากส่วนราชการได้ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากพบว่าเกี่ยวข้องกับทุจริตก็ต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะมียศใหญ่โตเพียงใด จะเป็นเป็นนักการเมือง ข้าราชการ หรือนักธุกิจก็ต้องถูกดำเนินการทั้งสิ้น
