รอยเตอร์ - องค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(โอเอสซีอี) ระบุในวันศุกร์(6มี.ค.) ว่าข้อตกลงหยุดยิงทางภาคตะวันออกของยูเครนได้รับการยึดถือและภาพรวมของความเป็นปรปักษ์ลดน้อยลง ขณะเดียวกันทางเยอรมนียังเผยด้วยว่าเคียฟและมอสโกต่างเห็นพ้องขอเพิ่มจำนวนคณะผู้สังเกตการณ์
"จากการประเมินของผม โดยรวมแล้วถือว่าข้อตกลงหยุดยิงได้รับการยึดถือ แต่ก็ยังมีการละเมิดอยู่บ้าง" ลัมแบร์โต ซานนิเยร์ เลขาธิการใหญ่องค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ พร้อมเผยว่าในเหตุละเมิดต่างๆนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นการใช้อาวุธขนาดเล็ก
"มีกรณียิงปืนครกบ้าง แต่มันเป็นอาวุธที่มีลำกล้องขนาดเล็ก" ซานนิเยร์ เปิดเผยรอบนอกที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอียู ในกรุงรีกา ประเทศลัตเวีย "ฉะนั้น เราไม่พบเห็นการละเมิดใดๆโดยการใช้ระบบปืนใหญ่ และเราเห็นด้วยว่าพวกมันถูกเคลื่อนย้ายออกมาแล้ว"
คำกล่าวของซานนิเยร์ มีขึ้นในขณะที่นายแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่ารัสเซียและยูเครนเห็นพ้องร้องขอเพิ่มคณะผู้สังเกตุการณ์จากโอเอสซีอีเป็น 2 เท่า จาก 500 คนเป็น 1,000 คน เพื่อสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามกันในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุสเมื่อเดือนที่แล้ว
สไตน์ไมเออร์ เผยว่าทั้งสองเห็นพ้องกันในเรื่องดังกล่าว ตามหลังการหารือที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงเบอร์ลิน ที่ร่วมด้วยเหล่าเจ้าหน้าที่จากรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส และเยอรมนี อย่างไรก็ตามทางซานนิเยร์ บอกว่าจำนวนของคณะผู้สังเกตการณ์ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ "ปัญหาหลักตอนนี้ไม่ใช่จำนวน แต่เป็นการเข้าถึง หากพวกเขาเข้าถึงได้มากขึ้น ผมอาจได้อะไรจากพวกเขามากกว่านี้ นี่นับเป็นความท้าทายที่แท้จริงสำหรับผม"
ซานนิเยร์ ระบุว่าเขาอยากได้เครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ(โดรน)ขนาดเล็ก เข้าไปเสริมประสิทธิภาพการทำงานของโดรนที่มีขนาดใหญ่กว่า 3 ลำที่กำลังถูกใช้สังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิงในตอนนี้
ภารกิจของโอเอสซีอี จะหมดอายุลงในวันที่ 21 มีนาคม แต่ ซานนิเยร์ แย้มมีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่ออายุออกไปอีกปี "ดูเหมือนว่าทุกคนจะรู้สึกอุ่นใจหากมีการขยายเวลาออกไปอีกเป็นเวลานาน อย่างน้อยก็ 1 ปี มันแสดงให้เห็นว่าปฏิบัติการนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี"
ยูเครนและชาติตะวันตก กล่าวหารัสเซียส่งทหารและยุทโธปกรณ์สนับสนุนพวกแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน แต่มอสโกยืนกรานปฏิเสธมาตลอด