xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” ยอมรับส่งออกติดลบ และจีดีพีโตต่ำ แต่ยังไม่หั่นเป้าเดิมที่ตั้งเอาไว้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“คลัง” ยอมรับส่งออกติดลบ และจีดีพีโตต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจโลก เตรียมยกระดับความสำคัญ และนำเข้าหารือ ครม.สัญจร วันศุกร์นี้ เบื้องต้นยังคงเป้าส่งออกเติบโตไว้ที่ 1.4% และเศรษฐกิจขยายตัวที่ 3.9% โดยเชื่อว่าการท่องเที่ยว จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากตัวเลขการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ติดลบร้อยละ 6.14 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักขยายตัวลดลง โดยพบว่าในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเติบโตลดลงจากร้อยละ 6 เหลือ 3 ขณะที่การค้าโลกเคยขยายตัวได้ร้อยละ 4.5 เหลือเพียง 3 เท่านั้น ดังนั้น จึงส่งผลกระทบต่อการส่งออกของทุกประเทศ โดยเฉพาะในปีนี้สถานการณ์การส่งออกได้รับผลกระทบมากขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้รายได้จากการส่งออกยิ่งลดลง

ดังนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรในวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2558 กระทรวงการคลังจะหารือสถานการณ์การส่งออกและภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตต่ำให้ ครม.รับทราบ โดยกระทรวงการคลังยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกที่ ร้อยละ 1.4 และเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.9 ซึ่งคาดว่าการท่องเที่ยวจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยในเดือนมกราคมการท่องเที่ยวขยายตัว ร้อยละ10 และ 30 ในเดือนกุมภาพันธ์ และด้านการส่งออกจะพยายามเน้นการส่งออกไปยังประเทศกลุ่ม CLMV และอาเซียน เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้มีการเติบโตสูง

นอกจากนี้ นายสมหมาย ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริตนัดแรก ได้เพิ่มจำนวนโครงการนำร่องในการทำร่างข้อตกลงด้านคุณธรรมในการลงทุนพัฒนาโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท อีก 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์สู่อนาล็อกสู่ดิจิตอลของกรมประชาสัมพันธ์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท//โครงการจัดซื้อระบบเอ็กซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ของกรมศุลกากร มูลค่า 1,300 ล้านบาท//และโครงการซื้อเครื่องจักรของโรงงานยาสูบ มูลค่า 7,400 ล้านบาท เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่มีการทำข้อตกลงด้านคุณธรรมในการจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน และโครงการก่อสร้างรถไฟสายสีน้ำเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจริงจังในการแก้ไขและป้องกันการทุจริตในโครงการลงทุนต่างๆ ของประเทศ และจะทำในโครงการอื่นๆ มากขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตต่างๆ ลดลง คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต จะร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพาะคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชนในการสรรหากรรมการและผู้สังเกตุการณ์ในการป้องกันการทุจริตในการประมูลงานภาครัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น