“โฆษกคุณชาย” ป้องนาย ไม่หนีปัญหาทำงานมากกว่าพูด โต้ “ศรีสุวรรณ” ส.โลกร้อน” ทำอะไรบ้าง? ด้านผู้บริหาร กทม. ย้ำ “อุโมงค์ยักษ์” ยังใช้งานได้ดี ระบบทำงานได้เต็มที่ ยอมรับหาก ฝนตก เกิน 60 มม.น้ำขังแน่! เผย สำนักเทศกิจ สั่ง 50 เขต เข้มใช้กฎหมายปรับ 2,000 บาท ฟันเหตุขยะล้นคลอง
วันนี้ (9 มิ.ย.) มีรายงานว่า นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกในกรุงเทพฯ ว่า ตามที่วานนี้เกิดฝนอ่อนถึงปานกลางปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ที่สถานีสูบน้ำวัดไทร เขตบางคอแหลม 55 มิลลิเมตร (มม.) สถานสูบน้ำแจงร้อน 51.5 มม. สถานีสูบน้ำสาทร 45.5 มม. ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด แต่เจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายน้ำจนแห้งทุกจุดเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.
ทั้งนี้ หากปริมาณฝนอยู่ในระดับนี้ ระบบระบายน้ำของ กทม. สามารถระบายน้ำได้ทันที ซึ่งจุดที่เกิดน้ำท่วมข้างต้นเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมาก มักเกิดปัญหาเป็นประจำทุกครั้งที่ฝนตกอยู่แล้ว สำหรับปัญหาขยะที่เป็นอุปสรรคระบายน้ำเป็นอุปสรรคอยู่แล้วทุกปี กทม. ก็ได้ขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะมาโดยตลอด เนื่องจากเมื่อเกิดฝนตก น้ำจะพัดเอาขยะที่อยู่ข้างทางและพื้นที่ต่างๆ ไหลไปลงท่อระบายน้ำ ซึ่งมีตะแกรงปิดไว้ เมื่อมีขยะหน้าตะแกรงจำนวนมาก ก็ทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำบนผิวจราจรลดลง จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง กทม. ต้องจัดเจ้าหน้าที่ไปประจำจุดเพื่อคอยนำขยะออกจากหน้าตระแกรง เช่นเดียวกับที่สถานีสูบน้ำทุกแห่ง ที่มีจำนวน 166 แห่ง
ส่วนอุโมงค์ยักษ์ยังใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ นายสัญญา กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของอุโมงค์ยักษ์ ยืนยันว่าใช้งานได้ตามปกติ ระบบมีประสิทธิภาพการทำงานเต็มที่ แต่ขอเรียนอีกครั้งว่าระบบที่มีรองรับปริมาณฝนตกได้ 60 มิลลิเมตร หากตกมากกว่า 100 มิลลิเมตรก็ต้องรอน้ำระบาย
ด้าน นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะโฆษกประจำตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ กับการทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า ไม่เคยหนีปัญหาหรือปฏิเสธปัญหาประชาชนเลย แม้แต่ตรั้งเดียว” “เลือกทีจะทำงานด้วยการปฏิบัติมากกว่าการทำงานด้วยการพูด”
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายวสันต์ ยังได้โพตส์ตอบโต้ถึง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน มีใจความว่า “ถึง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้ มาตรา 44 สั่งปลดผู้ว่าฯ กทม กรณีฝนตกและน้ำท่วมขังรอระบาย ในถนนสายหลัก ไม่เกิน 2 - 3 ชั่วโมง ในขณะที่ฝนตก 4 - 5 ชั่วโมง ติดต่อกัน เรื่องการแก้ปัญหา เจ้าหน้าที่บุคลากรของ กทม. ทำอย่างเต็มที่ถึงแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย ไม่เคยปฏิเสธหรือแก้ตัว เพราะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ ถ้าเปรียบเทียบกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมในอดีด ต้องข้ามวันข้ามคืนกว่าน้ำบนถนนจะแห้ง เช่น ปี 52 เป็นต้น ความเปลื่ยนแปลงดังกล่าวคือสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการกำหนดนโยบายและการพัฒนาระบบระบายน้ำของ กทม. อย่างต่อเนื่อง”
“ผมอยากจะถามกลับไปถึงสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ภายใต้การนำของคุณศรีสุวรรณ ว่า นอกจากการเดินหน้าร้องเรียนในทุกเรื่องแล้ว สมาคมฯ เคยมีผลงานที่เป็นรูปธรรมอะไรบ้างไหม นอกจากทำให้ตัวผู้ร้องได้รับความสนใจจากสื่อ เท่านี้น หรือเพื่อประโยชน์อื่นใด”
มีรายงานว่า ขณะที่มีผู้โพตส์ข้อความในลักษณะเดียวกันในเพจของ นายวสันต์ อีก เช่น ฝากถึงสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เนื่องจากตอนนี้ประเทศไทยร้อนมาก โลกก็ร้อนมากมายสมาคมของท่านได้แก้ไขอะไรข้างไหมคะ ทำไมโลกยังร้อนอยู่ และไม่มีทีท่าว่าจะคลายร้อนแต่อย่างได ดิฉันจึงขอเสนอว่าให้ท่านยุบสมาคมนี้ไปเถอะค่ะ มีไปทำไมมีแล้วโลกยังร้อนอยู่เลย มันเศร้าใจจริงๆ มีไปทำไมสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
“ฝากถึง..สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พวกเกาะกระแส ตอนน้ำท่วมใหญ่ กรุงเทพเป็นเดือน ไปมุดหัวอยู่ไหน เงียบ นี้น้ำระบายไม่ทัน ไม่ถึง 2 ชั่วโมงออกมาโวยวาย ...”
มีรายงานจาก สำนักเทศกิจ กทม. ว่า ผู้บริหาร กทม. ได้ย้ำกับเจ้าหน้าเทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขต ให้เข้มงวดกวดขัดการทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ คู คลองของประชาชนทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นหน้าฝน ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่อันเป็นต้นเหตุในการทำให้น้ำท่วมขัง และมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
“ตามความผิดในการทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในสถานสาธารณะนอกภาชนะหรือที่ที่ราชการส่วนท้องถิ่นจัดไว้มาตรา 31(2) โทษสูงสุดปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนการเทหรือสิ่งปฏิกูลมูลฝอย น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ มาตรา 33 โทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท”