xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ถกแม่น้ำ 3 สาย รับงานคืบอยู่ระยะ 2 ย้ำ ต้องเคารพ กม.-หมดอำนาจกลับบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” สรุปผลงานที่ประชุมแม่น้ำ 3 สาย รับอยู่ระยะที่ 2 รอ รธน.ผ่านหรือไม่ ย้ำ ม.44 ใช้ในส่วนที่ต้องรอกฎหมาย ชี้ รบ.ใหม่ต้องรับปัญหาไปแก้ต่อ พร้อมคุยเพื่อความสงบ เผยต่างประเทศยอมรับ ลงทุนไม่ได้ลด ชี้เอกชนต้องเป็นผู้นำพัฒนาชาติ รื้อระบบงบเป็นก้อน ขอประชาชนไม่เกลียดก็พอ รับปฏิรูปคือหัวใจ วันนี้งานคืบหน้าหยุดเลือดได้ รอใส่วิตามินลุย ลั่นหมดอำนาจกลับบ้าน ยันทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ปรองดองคนละเรื่องนิรโทษกรรม



วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่รัฐสภา มีการสัมมนาร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อรับฟังการดำเนินงานที่ผ่านของรัฐบาลในรอบ 1 ปี โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม โดยมีการแบ่งกรอบผลการดำเนินงานของรัฐบาล ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและจิตวิทยา ด้านต่างประเทศ ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมและด้านอื่นๆ พร้อมให้เขียนชื่อ นามสกุล ของผู้ที่ต้องการสอบถามด้วย เพื่อใช้ในการจัดลำดับการซักถามนายกฯ และ รัฐมนตรีที่เข้าร่วมงานสัมมนาด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ได้สรุปผลงานของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาฟังทีวี อ่านเอกสาร แต่ไม่ได้คุยกัน จึงต้องมาคุยกัน วันนี้การทำงานอยู่ในระยะที่ 2 รอรัฐธรรมนูญว่าจะผ่านหรือไม่ ส่วนจะแก้ไขอะไรก็ขอให้ไปดำเนินการได้ เพราะเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ โดยการแถลงครั้งนี้เป็นสองระยะ คือ ระยะแรกของ คสช.และกฎอัยการศึกเพื่อยุติความขัดแย้งและความรุนแรงต่างๆ จนสถานการณ์สงบเงียบ และระยะที่สองที่มีรัฐบาลและ คสช.รวมถึงมีมาตรา 44 ที่ได้ลดกฎหมายพิเศษต่างๆ ลงไป ไม่ได้หมายความว่าให้เอามาตรา 44 ไปแก้อะไรก็ได้ แต่ต้องการบูรณาการทุกหน่วยงานได้ทำงานผ่านกฎหมายแต่หน่วยงานของตัวเอง อะไรที่ต้องรอกฎหมายผ่านสภาก็ต้องออกตามมาตรา 44 เพราะไม่เช่นนั้นทำงานไม่ได้ เช่นการแก้ปัญหาโรฮีนจา ถือเป็นการปฏิรูประยะที่หนึ่งของเขา หากปล่อยไปก็แก้อะไรไม่ได้

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาใหญ่ๆก่อนที่เหลือก็ส่งไปว่าจะปฏิรูปอย่างไร เป็นสิ่งที่ สปช.ต้องนำไปดำเนินการต่อ ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่เพราะเราได้เริ่มไปแล้ว บางอย่างน้อยปี 58, 59 หรือ 60 ต้องทำต่อแล้วให้รัฐบาลใหม่รับไปดำเนินการ ถ้าไม่เข้าใจก็รวนกันไปหมด ปัญหาทั้่งหมดใน 1 ปีเขาทำเสร็จไม่ได้ สปช.ต้องรับไปทำแล้วโยนไปให้รัฐบาลใหม่ทำต่อ

นอกจากนี้ยังมีการตั้งรองนายกฯ 5 คนคอยขับเคลื่อนกลุ่มงานต่างๆ แต่ละกระทรวงจะเดินตามยุทธศาสตร์นี้ บางเรื่องต้องทำเลยและทันที ถ้าจบไม่ได้ก็ต้องทำสองสามต่อไป และไม่ได้สั่งให้ทำเสร็จในทันที ถ้าจำป็นต้องใช้มาตรา 44 ก็ต้องใช้ เพื่อให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทุกอย่างต้องทำพร้อมกัน แต่ละกระทรวงต้องไปจัดความเร่งด่วนขึ้นมา ไม่เช่นนั้นงานเต็มไปหมด ข้างบนสั่งข้างล่างงานก็ล้นมือไปหมด ในส่วนภูมิภาคนั้นผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบงานทุกด้าน เป็นพระเอก และทุกกระทรวงต้องร่วมรับผิดชอบ

“ขณะนี้ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศพอสมควร การค้าการลงทุนไม่ได้ลดลงไปกว่าเดิม แต่มูลค่ามันลดลง เราต้องลดต้นทุนการผลิตลง ยึดแนวทางปรัชญาของในหลวงไว้ ส่วนการรักษาความสงบ ก็ให้ คสช.ช่วยดูคนที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย แต่ไม่ได้ไปกดหัวใคร ไปรับฟังปัญหามาเพื่อหาข้อสรุปใน ครม. เพื่อทำความเข้าใจ เขารับฟังมาจากสื่อบ้าง เพื่อนๆ พี่ๆ สื่อเขาไม่ฟังก็ต้องให้ลูกน้องฟังแล้วนำมารายงานให้ทราบ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าประชาชนต้องการอะไร การพัฒนาประเทศต้องให้เอกชนเป็นผู้นำและให้คนที่อยู่ข้างล่างแข็งแรง เพื่อเชื่อมต่อสู่อาเซียน ภาคเกษตรต้องมีการกำหนดการผลิต เหลือไว้เท่าไหร่ ส่งออกขายได้เท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะที่ผ่านมางบประมาณไปเป็นก้อนเราต้องรื้อระบบทั้งหมด ถ้าไม่ใช่รัฐบาลนี้ทำไม่ได้ แต่ใครจะเกลียดเขาก็ไม่เป็นไร รักได้แต่ไม่ต้องมาก แต่ขอไม่ต้องเกลียดก็พอ วันนี้ปฏิรูปคือหัวใจ หยุดเลือดแล้ว ตอนนี้ให้น้ำเกลือนิดหน่อย วันหน้าท่านใส่วิตามินให้เข้มแข็งและไปสู้กับข้างนอก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องทำให้คนไทยเข้าใจว่าต้องการปฏิรูปหรือไม่ หากชาวบ้านไม่ต้องการพวกเราก็ต้องกลับบ้านหมด ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประเทศต้องร่วมมือกัน ถ้ายังสร้างความขัดแย้งกันอยู่มันไปไม่ได้ ฝืนก็ไปไม่ได้ต้องยอมรับก่อนว่ากติกาคืออะไร

“การปฏิรูปจะทำหรือไม่ทำก็ไปว่ากันมา ผมไม่ยุ่งเกี่ยว ทำแค่นี้ก็ปวดหัวอยู่แล้ว วันนี้ประชาคมโลกเชื่อใจเรา สื่อฯต่างชาติมาหลายคณะแล้ว เขารู้หมดว่าเราทำอะไร แม้แต่ชีวิตวัยเด็กของผม มาถามว่าหากหมดอำนาจแล้วจะไปเป็นอะไร ขอยืนยันว่าไม่อยากเป็น ขอกลับบ้านนอนกลับลูกหลานมีความสุข”

นายกฯ กล่าวอีกว่า สื่อต่างชาติถามว่าบ้านเมืองจะสงบอีกต่อไปหรือไม่ ตนเชื่อว่าคนไทยและรัฐบาลจะทำได้ เรื่องนี้เป็นการบ้านของพวกท่านที่จะต้องไปทำ และเขาก็บอกว่าประเทศไทยขณะนี้เสถียรภาพนิ่งมาก ปัญหาแก้ได้หลายอย่าง ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย

“ทุกคนต้องเคารพกฎหมายและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ทุกเรื่องใครผิดใครถูกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่าปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม คำว่าปรองดอง บอกว่ายกโทษทั้งหมด มันไม่ใช่ กฎหมายมันไม่ได้ ปรองดองก็คือเจอหน้าทักทายกันได้ ไม่มีประท้วง ไม่มีตีหัว ไม่มียิงกันหรือระเบิด เรียกว่าปรองดอง แต่ถ้าไปนิรโทษกรรมเป็นคนละเรื่อง มันต้องเข้ากระบวนการยุติธรรมก่อน และต้องไปถามประชาชนด้วยที่สูญเสีย จากการประท้วงว่าเขายอมหรือไม่หากไม่ยอมก็ไปหาวิธีการทางกฎหมายให้ได้ วันนี้มีการถามว่าเมื่อไหร่จะมีการประกันนักโทษการเมือง มันไม่มี แต่ที่มีคืออาญาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายหรือ กฎอัยการศึกก็คือกฎหมาย เพราะรู้ว่าเป็นกฎหมายและทำกันทำไม วันนี้เราเดินหน้าได้ด้วยกฎหมาย อย่ามาปฏิเสธระบบยุติธรรมของเรา แต่หากทุกคนยอมรับกติกาแล้วค่อยหาทางออกกันอย่างอื่น” นายกฯ กล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น