“ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” แนะนำคดีส่งฟ้องเด็กแว้นไม่ทันเป็นตัวอย่างไปปรับปรุงกฎหมาย ยันยังออกหมายเรียกได้ แต่ไม่ร้ายแรงเท่าคอร์รัปชัน ติงร่างรัฐธรรมนูญต้องไม่ลิดรอนสิทธิประชาชน ระบุเป็นไปไม่ได้กฎหมายสูงสุดจะแก้วิกฤตชาติได้ทุกอย่าง ชาวบ้านได้รับความจริง เตือนใครยึดติดอำนาจจะเป็นภัยตัวเอง ความยุติธรรมต้องคำนึงถึงคนทั้งประเทศ
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่อัยการส่งฟ้องไม่ทันในคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มเด็กแว้นจำนวนกว่า 100 คนจนต้องมีการปล่อยตัวทำให้สังคมรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมว่า กรณีนี้ต้องชมเจ้าหน้าทีตำรวจที่จับกุมเพราะพฤติกรรมเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม แต่กระบวนการทางกฎหมายล็อคเวลาสั้นเกินไป ประกอบกับบุคลากรมีจำนวนน้อยแต่ผู้ต้องหามีจำนวนมาก จึงควรจะใช้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงกรอบเวลาเพราะที่กำหนดไว้เป็นหลักสากลอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องมียกเว้นเพื่อผ่อนปรนเช่นกรณีนี้
นายจรัญกล่าวด้วยว่า แม้ผู้ต้องหาจะได้รับการปล่อยตัวแต่ก็ไม่ได้พ้นจากความผิดเพราะกระบวนการทางคดีเดินหน้าแล้ว สามารถออกหมายเรียกได้เพราะมีตัวบุคคลที่ทำผิดชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ไม่อยากให้สังคมใช้วิธีถึงขั้นว่าต้องล้างแค้นกันเพราะแม้ว่าจะสร้างความเดือดร้อนต่อสังคมแต่ก็ไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรง สิ่งที่ต้องจัดการเด็ดขาด คือ พวกที่ทุจริตคอร์รัปชัน ที่เป็นอาชญากรรมที่ปล่อยไม่ได้
นอกจากนี้่ นายจรัญยังกล่าวถึงความคาดหวังในร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเสรีภาพของประชาชนว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะต้องไม่ลิดรอนสิทธิประชาชนให้น้อยไปกว่าเดิม เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะไม่ได้รับการยกย่อง อีกทั้งเป็นไปไม่ได้ที่รัฐธรรมนูญจะแก้วิกฤตชาติได้ทุกอย่าง เพราะเป็นเพียงแค่ลายลักษณ์อักษรจึงเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องได้รับความจริงและมีส่วนร่วมมากที่สุด
“ผมมั่นใจว่าแผ่นดินไทยในอนาคตจะสงบเพราะเป็นแผ่นดินที่ดีที่สุดในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่ามั่นใจในตัวผู้มีอำนาจ แต่มั่นใจในประชาชนว่ามีความตื่นรู้มากพอ อีกทั้งไม่เคยมีผู้มีอำนาจไหนอยู่ได้นาน หากใครยึดติดอำนาจตัวเองว่าจะสถาปนาอยู่ได้นานก็จะเป็นภัยต่อตัวเอง ซึ่งการให้ความยุติธรรมจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของคนทั้งประเทศ” นายจรัญกล่าว