มท.1 เผยลงดาบข้าราชการในสังกัดทุจริตล็อตแรก 10 ราย พบบางส่วนทำผิดข้ามกระทรวงต้องตั้ง คกก.ร่วมตรวจสอบ เตรียมย้ายผู้ว่าฯ ที่ถูกลงโทษนอกฤดูกาล พร้อมขู่พ่อเมืองหากปล่อยมวลชนเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนเจอดี เตือนข้าราชการอย่าสร้างเงื่อนไขขัดแย้ง ส่วนการถอนพาสปอร์ต-ถอดยศ “นช.แม้ว” เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อข้าราชการที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในส่วนของกระทรวงมหาดไทยล็อตแรกว่า บางส่วนสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วและจะลงโทษทางวินัยด้วยการพักราชการ ขณะนี้มีทั้งสิ้นประมาณกว่า 10 คน ความชัดเจนทั้งหมดต้องรอมติของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) แต่ถ้าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นจะดำเนินการสอบสวนต่อ และมีบางส่วนกระทำผิดข้ามกระทรวงโดยมีข้าราชการกระทรวงอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยซึ่งอาจจะต้องตั้งคณะกรรมการร่วมในการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจสอบการทุจริตในส่วนองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นบ้างหรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ประเทศไทยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,000 กว่าแห่ง ตนไม่สามารถจะเข้าไปดูแลได้ทั้งหมด ต้องให้ผู้ตรวจกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอเข้าไปดูแลด้วย เราจะทำงานอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป็นโครงการใหญ่จะเข้าไปดูแลพิเศษ
ส่วนช่วงเวลาอันใกล้นี้จะมีการปรับย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า จะมีโยกย้ายในส่วนของผู้ถูกลงโทษ โดยจะมีคนเข้าไปแทน เพราะจะรอเวลาให้ถึงเดือนตุลาคมไม่ได้
พล.อ.อนุพงษ์ยังกล่าวถึงกรณีทหารบุกเข้าที่ประชุมแกนนำพรรคเพื่อไทยขณะประชุมอดีต ส.ส.อีสาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการสู้คดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาถอดถอนว่า “ผมอยากพูดว่า อย่าเอาอะไรมาเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้าไม่ยืนตรงจุดนี้ แล้วกล่าวอ้างว่ามีการกลั่นแกล้งกันจะเดินต่อไปไม่ได้ อย่าเอาทุกอย่างมาเป็นความขัดแย้ง แล้วเอามวลชนมาขัดแย้งอีก ประเทศชาติจะเดินไม่ได้ ที่สำคัญคือถ้ามองลึกในส่วนนี้ความขัดแย้งของคนมันแก้ไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลความเคลื่อนไหวในพื้นที่หรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า การปกครองของกระทรวงมหาดไทยจะต้องไม่ทำให้คนออกมาปลุกปั่น สร้างความขัดแย้งลุกลามไปถึงความรุนแรง ต้องเป็นไปตามแนวทางที่ประเทศไทยต้องเดิน แม้ว่าจะชอบต่างกันอย่างไรไม่เป็นไรแต่อย่ามาขัดแย้งกัน อย่ายุยงปลุกปั่นหรือนำมวลชนออกมาต่อรองทางการเมืองเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหมู่บ้านสีแดงในพื้นที่อีสานนั้น เท่าที่ติดตามขณะนี้ไม่มี แต่ถ้าเขาจะชอบสีใดตนไม่ว่า แต่อย่าไปปลุกปั่นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้
เมื่อถามว่า ระหว่างที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินหน้าแก้ปัญหาอยู่นี้จะมีการคาดโทษผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ หากจังหวัดใดนำมวลชนมาเคลื่อนไหว รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ตนยังไม่ได้คาดโทษ แต่ย้ำว่าถ้าไม่ทำตามนโยบายตนลงโทษเลย เอาคนมาตีกันไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งเศรษฐกิจ สังคม
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกถอนพาสปอร์ต และกระแสการถอดยศในต่างจังหวัดเป็นอย่างไรบ้างนั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ต้องสอนให้คนไทยรู้ว่าเป็นการทำตามกฎหมาย วันข้างหน้าถ้าตนผิดแล้วถูกลงโทษจะบอกว่ามีการกลั่นแกล้งกันก็ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าไม่กลั่นแกล้งกันเชื่อว่าประชาชนเข้าใจได้ เพราะถ้าพูดว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันจะเดินไปไม่ได้ ขณะนี้ในพื้นที่ต่างๆ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด และเชื่อว่าจากเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมาทำให้คนไทยเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้น
