xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” ขู่ฟันซ้ำหัวหน้าองค์กรท้องถิ่นที่ถูกเด้ง ชักใยระดับรองฯ ที่ขึ้นมาแทนทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา (แฟ้มภาพ)
ผอ.ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ระบุมีรายงานส่อทุจริตองค์กรท้องถิ่นอีก หลังย้ายหัวหน้าแต่ระดับรองฯ ที่ขึ้นมาแทนกลับออกลาย โดยมีหัวหน้าเก่าบงการ เตือนฟันไม่เลี้ยงแน่หากสอบพบทำผิดจริง เล็งดูกฎหมายพิเศษแก้ค้ามนุษย์

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งรายชื่อข้าราชการที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตเพิ่มเติมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาตติ (คสช.) ตามนโยบายการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลว่า เรื่องนี้ต้องทยอยดำเนินการ รายชื่อเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกถึงความสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว นอกจากนี้ รายชื่อที่ได้รับบางส่วนก็ยังมีที่ไม่ถูกต้องบ้าง เนื่องจากหน่วยงานที่สอบสวนไม่ใช่หน่วยงานต้นสังกัด ดังนั้นจึงต้องค่อยๆ ทำไป ไม่ได้กำหนดระยะเวลาให้ 4 หน่วยงานจะต้องส่งรายชื่อมาที่ ศอตช.เมื่อไหร่ เขาเป็นหน่วยงานที่เป็นองค์กรอิสระจึงไม่สามารถไปเร่งรัดได้

“เรื่องอย่างนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่มีรายชื่อเหล่านั้นด้วย ที่สำคัญคือต้องไม่มีการประกาศชื่อออกมา เพราะถ้าประกาศชื่อจะถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากสังคมอาจเข้าใจได้ว่ามีการกระทำความผิดไปแล้วได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาทำไม่ถึงปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการจนคนผิดเกษียณอายุราชการไปก่อน พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ต้องเข้าใจกระบวนการยุติธรรมของเราว่า มีหลายขั้นตอน ก่อน คสช.จะเข้ามาเราใช้เพียงเฉพาะเรื่องของตุลาการ แต่วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ใช้มาตรการของฝ่ายบริหาร มีการย้ายออกจากตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งตนพยายามย้ำว่าผู้มีรายชื่อนั้นเพียงแค่มีความเกี่ยวพันแต่ยังไม่เป็นความผิด จึงจำเป็นต้องย้ายออก

“เรื่องนี้ผมได้มีการเปิดช่องไว้ว่า ผู้ที่มีรายชื่อหากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถเข้ามาร้องเรียนที่ ศอตช.ได้ ผมจะให้หน่วยงานที่เขาส่งรายชื่อเข้ามาเป็นผู้ชี้แจง แต่ก็ต้องถามกลับกันว่า กล้าที่จะแบกหน้าออกสื่อหรือไม่ เอาเอกสารมาแบกันต่อหน้าเลย จะได้รู้ว่ามีความผิดอย่างไร ถ้ากล้าผมก็เอาด้วย หรือจะคุยกันเงียบๆ ก็ได้ เพราะผมมีความมั่นใจในการเปิดเผยหลักฐาน และได้ย้ำกับ 4 หน่วยงานมาตลอดว่าอย่ากลั่นแกล้งใคร และวันนี้เริ่มมีการรายงานกันว่าเมื่อมีการย้ายหัวหน้าหน่วยงานส่วนท้องถิ่นออกไปแล้ว คนเป็นรองที่ขึ้นมาแทนก็ชักจะเหมือนเดิม ซึ่งผมบอกไปแล้วถ้าเหมือนเดิมแล้วสอบเจอก็ต้องออกอีก ถ้าท่านเข้ามาแทน แต่ผู้ที่ออกไปแล้วยังชี้อยู่หลังไมค์ให้ท่านทำ อย่างนี้ไม่ได้ เราทราบอยู่แล้ว ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ แม้จะโดนออกไปแล้ว แต่ยังบงการอยู่ข้างหลัง อย่าคิดนะว่าเราจะไม่สอบ เราเข้าใจดี เมื่อรองขึ้นมานั่ง รองก็จะโดนไปด้วย ผมเห็นแล้ว เพราะมีข่าวจากประชาชนในพื้นที่แจ้งมา ก็ดีเหมือนกันผมจะได้เอารองออกอีกสักคน” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดรายชื่อตำรวจและทหารที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตถึงมีจำนวนน้อย พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปบอกให้ 4 หน่วยงานทำเรื่องใด แต่เป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงานที่จะดำเนินการ

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ว่า ตนไม่ได้ดูแลเรื่องนี้โดยตรง แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปช่วย ซึ่งกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวบางฉบับอยู่ภายใต้หน่วยงานสังกัดกระกรวงยุติธรรม เราเพียงเข้าไปสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนดูแลด้านกฎหมายของ คสช. จะต้องมาพิจาณาว่าจะใช้กฎหมายพิเศษอะไรหรือไม่ ที่จะเข้าไปดูแล โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งรัด อย่างเช่นที่ผ่านมาได้ใช้มาตรการพิเศษตั้งศูนย์ปฏิบัติการประมงผิดกฎหมาย โดยเร่งรัดให้กฎหมายแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น