พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เปิดเผยถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 16/2558 ที่สั่งพักราชการเจ้าหน้าที่รัฐ 45 คน ที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบกรณีอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า รายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 45 รายชื่อ เป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อข้าราชการที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่ ศอตช. ส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในลอตแรก ที่มีทั้งสิ้น 198 รายชื่อ แต่ขณะนี้ตัวเลขดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ เพราะจะมีการคัดรายชื่อผู้ที่เกษียณอายุราชการออกไป ซึ่งการโยกย้ายข้าราชการในส่วนนี้ ทราบว่าสามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ เจ้ากระทรวงสามารถดำเนินการได้เอง หลังจากนายกรัฐมนตรีส่งรายชื่อไปให้กระทรวงต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ที่ตนรับผิดชอบ ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวง ดำเนินการโยกย้ายข้าราชการที่มีรายชื่อตามที่นายกรัฐมนตรีส่งมาแล้ว 5 ราย โดยเป็นข้าราชการในระดับที่สามารถดำเนินการได้ภายในกระทรวงเอง และอีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนที่กระทรวงไม่สามารถดำเนินการได้เอง ต้องอาศัยอำนาจหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ดำเนินการ ซึ่งส่วนนี้จะมีเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตนยังไม่สามารถตอบได้
ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า รายชื่อ 45 ข้าราชการที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 สั่งย้ายนั้น เป็นรายชื่อที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ส่งให้กับนายกรัฐมนตรี ส่วนลอตต่อไปนั้น ทาง พล.อ.ไพบูลย์ ได้ให้นโยบายมาแล้วว่าจะต้องมีการประชุมทุกเดือน เพื่อสรุปรายชื่อข้าราชการที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตส่งให้นายกฯ โดยการประชุมครั้งต่อไปน่าจะประมาณ สัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีกี่คน หรือระดับใดบ้างนั้น ไม่สามารถบอกได้ ต้องแล้วแต่หน่วยงานที่จะเสนอรายชื่อมายัง ศอตช. ก่อนจะสรุปส่งให้นายกฯ ต่อไป
"เรื่องของการทุจริต ถือเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าจะแก้ปัญหาให้หมดเลยไม่ได้ แต่ก็ขอให้เบาลง เราก็ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู แม้ว่าไก่มันจะเยอะก็ตาม ซึ่งการโยกย้ายหากเป็นระดับล่างก็สามารถหมุนในกระทรวงได้ แต่ถ้าเป็นระดับบน แล้วไม่สามารถหาที่ในกระทรวงได้ ก็ค่อยมาพิจารณาตำแหน่งในสำนักนายกฯ ที่ใช้ ม. 44 เปิดรอรับไว้ ซึ่งผมว่าเรื่องอย่างนี้สถานการณ์มันจะบอกเองว่าตำแหน่งที่รองรับนั้นพอหรือไม่พอ” เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าว
สำหรับข้าราชการคนใดที่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาก็ต้องว่ากันไปตามที่หน่วยงานที่ชี้มูลมา ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือ ป.ป.ท. ก็ต้องว่ากันไปตามปกติ
ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า รายชื่อ 45 ข้าราชการที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 สั่งย้ายนั้น เป็นรายชื่อที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ส่งให้กับนายกรัฐมนตรี ส่วนลอตต่อไปนั้น ทาง พล.อ.ไพบูลย์ ได้ให้นโยบายมาแล้วว่าจะต้องมีการประชุมทุกเดือน เพื่อสรุปรายชื่อข้าราชการที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตส่งให้นายกฯ โดยการประชุมครั้งต่อไปน่าจะประมาณ สัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีกี่คน หรือระดับใดบ้างนั้น ไม่สามารถบอกได้ ต้องแล้วแต่หน่วยงานที่จะเสนอรายชื่อมายัง ศอตช. ก่อนจะสรุปส่งให้นายกฯ ต่อไป
"เรื่องของการทุจริต ถือเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าจะแก้ปัญหาให้หมดเลยไม่ได้ แต่ก็ขอให้เบาลง เราก็ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู แม้ว่าไก่มันจะเยอะก็ตาม ซึ่งการโยกย้ายหากเป็นระดับล่างก็สามารถหมุนในกระทรวงได้ แต่ถ้าเป็นระดับบน แล้วไม่สามารถหาที่ในกระทรวงได้ ก็ค่อยมาพิจารณาตำแหน่งในสำนักนายกฯ ที่ใช้ ม. 44 เปิดรอรับไว้ ซึ่งผมว่าเรื่องอย่างนี้สถานการณ์มันจะบอกเองว่าตำแหน่งที่รองรับนั้นพอหรือไม่พอ” เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าว
สำหรับข้าราชการคนใดที่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาก็ต้องว่ากันไปตามที่หน่วยงานที่ชี้มูลมา ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือ ป.ป.ท. ก็ต้องว่ากันไปตามปกติ
