“สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข” ยื่นหนังสือต่อประธาน กมธ.ยกร่างฯ แนะแก้รัฐธรรมนูญ 3 เรื่อง สิทธิพลเมือง แนวนโยบายพื้นฐาน และการปฏิรูปด้านต่างๆ หนุน ประชามติวางกรอบให้ยอมรับ ไม่ใช่กติกาเก่า พร้อมวางแนวปฏิรูปให้รัฐชุดต่อไปสานต่อตามโรดแมป
วันนี้ (15พ.ค.) สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ในฐานะองค์กรตัวแทนสมาชิกและเครือข่ายเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อสนับสนุนร่างธรรมนูญ โดยนายชูชัย ศุภวงศ์ กรรมาธิการฯเป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยสมาคมฯโดยขอให้คณะกรรมาธิการยกร่างฯได้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงและเพิ่มเติมใน 3 เรื่องได้แก่ สิทธิพลเมือง แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และการปฏิรูปด้านต่างๆ คือ ในเรื่องสิทธิพลเมืองเกี่ยวกับการประกอบกิจการ อาชีพ หรือวิชาชีพ มาตรา 56 วรรคสอง เพิ่มเติมการประกันความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน มาตรา 57 เพิ่มเติมพลเมืองที่คงหรือรักษาไว้ซึ่งการมีสุขภาพดี ย่อมมีสิทธิได้รับการสนับสนุนสวัสดิการตามสมควรจากรัฐหรือนายจ้าง ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ และมาตรา 58 เพิ่มเติมบทบาทของชุมชนท้องถิ่น ในข้อ 6 มีส่วนร่วมในการจัดบริการการสาธารณสุขชุมชนในท้องถิ่น
2. แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ในมาตรา 86 วรรคสอง ภายใต้บทบัญญัติของมาตรา 86 การส่งเสริมและสนับสนุนให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดทำบริการและพัฒนาระบบการสาธารณสุข จะต้องไม่ทำให้ประชาชนหรือผู้รับบริการต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเกินควรหรือปิดกั้นโอกาสในการเข้าถึงบริการที่ไม่เป็นธรรม 3. การปฏิรูประบบธรรมาภิบาล ในการกระจายอำนาจ เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารท้อถิ่น ตามมาตรา 212 วรรคสอง การจัดบริการหรือสนับสนุนการจัดบริการการสาธารณสุขชุมชน 3.2 กฎหมาย กฎ ระเบียบ เพิ่มเติมเนื้อหาการปฏิรูปตามมาตรา 294 ดังนี้ 1. รื้อสร้างปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุข เพื่อให้มีการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นและชุมชนรวมถึงองค์กรประชาชนในพื้นที่ที่มีการจัดบริการการสาธารณสุขชุมชนให้มีส่วนร่วมในการใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ 2. รื้อสร้างปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระบบภาษีเพื่อสนับสนุนองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นให้สามารถทำการดูแลระบบส่งเสริมป้องกันสุขภาพของบุคคล ครอบครัว และชุมชนในท้องถิ่นได้อย่างมีมาตรฐาน และ 4. การปฏิรูปการบริหารสาธารณสุข 4.1 ปฏิรูประบบกำลังคนด้านสาธารณสุข เพิ่มเติมเนื้อหาการปฏิรูปตามมาตรา 294
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ยังขอสนับสนุนให้มีการทำประชามติร่วมกันวางกรอบและกติกาจนเป็นที่ยอมรับ ประเด็นสำคัญคือจะต้องไม่ใช่กรอบกติกาเดิม รวมถึงวางกรอบแนวทางการปฏิรูปประเทศให้รัฐบาลชุดต่อไปมาสานต่อ เพื่อให้เป็นไปตามโรดแมปของประเทศต่อไป
