ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกเด็ก สนช. แจงหลังที่ประชุมผ่านร่างวานนี้ คาดมีผลใน 90 วัน เตือนชาวบ้านครอบครองคลิปโป๊เด็กต่ำกว่า 18 ปี ในมือถือ-คอมพ์มีความผิด เน้นดูเจตนานำไปแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ ชี้หากมีคนส่งต่อมาในมือถืออย่าเปิดดูหรือเซฟ ให้ลบทันที หากตำรวจตรวจเจอคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน พวกแชร์โดน 7 ปี ปรับ 1.4 แสน พวกจำหน่าย โดย 10 ปี ปรับ 2 แสน แนะชาวบ้านอย่ากังวล บี้ตำรวจอย่าละเมิดสิทธิ อยู่ดีๆ ไปขอค้นไม่ได้
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย (ฉบับที่...) พ.ศ....ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงข่าวทำความเข้าใจแก่สังคมภายหลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในวาระที่ 3 ว่า ภายหลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเษกษา จะมีผลบังคับใช้แก้คนไทยทุกคนในอีก 90 วัน โดยกฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญ เพื่อคุ้มครองเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อไม่ให้บุคคลนำไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย คลิปวิดีโอ เป็นต้น ดังนั้นประชาชนที่ครอบครองคลิปโป๊เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ จะถือว่ามีความผิด โดยจะดูจากเจตนาของบุคคลที่ครอบครองว่าจะนำภาพดังกล่าวไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ทางเพศของเด็กหรือไม่
พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวต่อว่า ดังนั้นทางที่ดีหากมีใครส่งภาพหรือคลิปดังกล่าวเข้ามาในโทรศัพท์มือถือก็ไม่ควรเปิดดูหรือเซฟเก็บเอาไว้ ขอให้ทำการลบทิ้งทันที เพราะหากไม่ปฏิบัติตามและเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในขณะที่ผู้แชร์ข้อมูลหรือส่งภาพลามกของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีส่งต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ก็จะมีโทษเช่นเดียวกัน โดยจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่มีไว้เพื่อจำหน่าย เช่น ซีดี หรือคลิปต่างๆ ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับ 6 หมื่น - 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น
“ขอฝากถึงประชาชนทุกคนว่าไม่ต้องวิตกต่อกฎหมายฉบับนี้ เพราะหากไม่มีเจตนาที่จะครอบครองก็ถือว่าไม่มีความผิด ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องไปทำความเข้าใจของเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ให้ใช้ดุลพินิจไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน โดยเฉพาะอยู่ดีๆ จะไปขอตรวจค้นโทรศัพท์มือถือของประชาชนโดยไม่มีเหตุหรือหลักฐานที่เชื่อได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะครอบครองสื่อลามกจริงนั้น จะทำไม่ได้” ปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าว