xs
xsm
sm
md
lg

เล่ห์แยกกิจการท่อก๊าซ ปตท. กินรวบ! (อีกแล้ว)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

ในยุคที่ผู้คนกำลังตื่นตาตื่นใจกับการใช้มาตรา 44 เป็นไม้เท้าวิเศษของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี จัดการเรื่องต่างๆ มีประเด็นสำคัญที่กระทบต่อประโยชน์สาธารณะโดยรวมแต่นายทุนได้กินรวบเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่สังคมแทบจะไม่ได้รับรู้เรื่องเหล่านี้เลย

ถ้าจำกันได้เมื่อไม่นานมานี้ ปตท.พยายามที่จะตั้งบริษัทแยกกิจการท่อก๊าซออกมาตั้งบริษัทใหม่โดยเบื้องต้นให้บริษัท ปตท.ถือหุ้น 100% และอ้างว่ารัฐจะเข้าไปเป็นเจ้าของกิจการทั้งหมดในอนาคต แต่ถูกทักท้วงว่าเป็นการยกสมบัติชาติไปให้ ปตท.บริหารจัดการหรือไม่ อีกทั้งการแบ่งแยกทรัพย์สินในเรื่องนี้ยังมีคดีความที่ค้างอยู่ในศาลปกครองสองคดี รวมถึงข้อโต้แย้งจาก สตง.และผู้ตรวจการแผ่นดินด้วย

กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์มีคำสั่งให้ชะลอการแยกบริษัทดังกล่าว และให้ สตง.กับกฤษฎีกาไปหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายซึ่งผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า

ในขณะที่การตั้งบริษัทไม่เกิด แต่กลับก่อกำเนิดการให้บริการท่อก๊าซโดย ปตท.ดำเนินการเองไม่ต้อง “แยกบริษัท” โดยได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานครั้งที่ 15/2558 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 โดย ปตท.ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติบนบกแก่บุคคลที่สามของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เรียบร้อยแล้ว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา

คำถามคือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุญาตให้ดำเนินการเช่นนี้ได้อย่างไร เพราะในขณะที่แยกบริษัทออกมายังเป็นปัญหา แต่นี่กลับให้ ปตท.เป็นผู้บริหารจัดการเอง แล้วปล่อยให้สังคมคิดไปว่าเรื่องแยกกิจการท่อก๊าซจบไปแล้ว

ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏก็จบแล้วจริงๆ คือ จบที่ไม่มีการแยกกิจการท่อก๊าซออกจาก ปตท. แต่ให้ ปตท.บริหารต่อ 100% ทั้งๆ ที่ท่อก๊าซเป็นสาธารณสมบัติของชาติ

ตกลงว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเป็นผู้ดูแลนโยบายพลังงานเพื่อชาติ หรือออกนโยบายพลังงานเอื้อทุนใหญ่ กันแน่?

ตอนที่จะแยกกิจการท่อก๊าซออกมาเพื่อตั้งบริษัทใหม่ให้เหตุผลว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการผูกขาด แต่นี่ยังไม่ได้แยกแล้วให้ ปตท.บริหารจัดการได้เลย เท่ากับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานกำลังส่งเสริมการผูกขาดระบบท่อของ ปตท.ให้บริหารจัดการและได้รับสิทธิประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวใช่หรือไม่

เพราะระบบท่อก๊าซนั้นขณะนี้แบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนที่ ปตท.อ้างว่าเป็นสมบัติของ ปตท.เองกับส่วนที่ ปตท.เช่ากับกรมธนารักษ์ ถ้าให้ ปตท.ไปบริหารทั้งระบบ ก็เท่ากับ ปตท.ได้กินสองต่อคือได้สิทธิจากกรมธนารักษ์มาให้รายอื่นเช่าซึ่งแน่นอนว่าต้องคิดกำไรเพิ่มจากค่าเช่าที่ให้กับกรมธนารักษ์

คำถามคือ เมื่อทรัพย์สินเป็นของกรมธนารักษ์ ทำไมกรมธนารักษ์ไม่บริหารจัดการเอง จากเดิมให้สิทธิขาด ปตท.ก็เปิดให้บุคคลที่สามเข้ามาใช้บริการได้ ซึ่งจะทำให้กรมธนารักษ์มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่น่าแปลกที่ กรมธนารักษ์ยินยอมที่จะส่งรายได้นั้นไปใส่ไว้ในกระเป๋าของ ปตท.แทนที่จะคืนกลับมาสู่รัฐเพื่อพัฒนาประเทศ

ไม่เพียงแต่รัฐเสียประโยชน์จากการให้เช่าบริการ แต่ยังพันไปถึงปัญหาการแบ่งแยกทรัพย์สินที่ยังคาราคาซังอยู่ด้วย การอ้างว่าให้บุคคลที่สามมาใช้บริการเป็นการเปิดเสรีลดการผูกขาดนั้น ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะ ปตท.ซึ่งอยู่ในสถานะทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริ การท่อก๊าซ แต่รายอื่นที่เข้ามาเป็นเพียงแค่ผู้ใช้บริการเท่านั้นซึ่งย่อมเสียเปรียบ ปตท.อยู่วันยังค่ำ

ไม่อยากเชื่อว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รู้เรื่อง

ท่านไม่ทราบจริงๆ หรือว่าเขาหยุดตั้งบริษัทแยกกิจการท่อก๊าซ แต่ให้ ปตท.บริหารกิจการท่อก๊าซทั้งระบบแทน ในขณะที่คำสั่งท่านให้ชะลอเรื่องนี้จนกว่าจะมีบทสรุประหว่าง สตง.กับกฤษฎีกาเกี่ยวกับการแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ที่ สตง.และผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่ายังไม่ครบถ้วน

ถ้าไม่รู้ตอนนี้ก็ควรจะรู้ได้แล้ว และหากมีเจตนาที่จะรักษาสมบัติชาติ ต้องระงับการดำเนินการดังกล่าวทันที อย่าให้ ปตท.ใช้เล่ห์กับประชาชนอย่าเล่นเหลี่ยมกับประเทศชาติ

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เลวร้ายกว่าการแยกไปตั้งบริษัทกิจการท่อก๊าซ เนื่องจากเท่ากับให้ ปตท.เป็นเจ้าของกิจการท่อก๊าซไปโดยปริยาย

นับตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามามีแต่คำถามเรื่องนโยบายพลังงานที่เอื้อทุนมากกว่าดูแลผลประโยชน์ประชาชนมาโดยตลอด กรณีนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า คสช.รัฐประหารเพื่อปฏิรูปประเทศให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างที่คุยไว้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น