“โหวงเหวง” ยกขบวนผู้ประกาศช่องแดง ยื่นหนังสือ กสม. โวย กสทช.- กสท. อยุติธรรม ไม่เปิดช่องให้แจงก่อนถูกปิดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ข้ามขั้นตอนลงโทษจากเบาไปหนัก อ้างตาใสไม่ได้ปลุกปั่น “หมอนิรันดร์” พร้อมสอบละเมิดสิทธิสื่อ เชิญฝ่ายเกี่ยวข้องแจง 20 พ.ค. รับเป็นเรื่องเร่งด่วน แย้ม รธน. 50 ให้ปิดเฉพาะรายการปัญหา
วันนี้ (7 พ.ค.) นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หนึ่งในผู้ดำเนินรายการทางช่องพีซทีวี พร้อมทีมผู้ประกาศ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติผ่าน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิฯ กรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเพิกถอนใบอนุญาตการออกอากาศของช่องพีซทีวี โดย นพ.เหวง กล่าวว่า ได้รับความอยุติธรรมจากภาครัฐ คือการดำเนินการของ คณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ไม่ได้เปิดโอกาสให้เราชี้แจงการดำเนินรายการ ที่ กสท. มองว่าขัดกับข้อตกลง และมีคำสั่งให้ระงับการออกอากาศชั่วคราวในเวลาถัดมา พร้อมกล่าวหาว่าเนื่องจากเราทำการปลุกปั่น สร้างความรุนแรง โดยไม่เปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงเลย และต่อมาเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา กสทช. ก็มีมติ 4:1 สั่งปิดโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเลย จึงเห็นว่าการดำเนินการของ กสท. และ กสทช. ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม ดำเนินการอย่างไม่ชอบธรรม เพราะขนาดนักโทษประหารยังต้องรับรู้โทษของตนเองก่อนเลย
“ช่องพีซทีวีส่วนใหญ่มีผู้รับชมคือคนเสื้อแดง และมีส่วนน้อยที่เป็นคนที่มีความคิดเห็นต่าง การที่ กสทช.อ้างว่าต้องปิดเร่งด่วนเพราะมีเนื้อหาปลุกปั่น สร้างความรุนแรง ทั้งที่ คุณจตุพร (พรหมพันธุ์) พูดไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ว่า ให้คนเสื้อแดงอยู่ในที่ตั้ง ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาของคนเสื้อแดงที่ชัดเจนว่าไม่มีการเคลื่อนไหว แต่ กสทช. กลับมาปิดพีซทีวี โดยใช้ข้ออ้างว่าเป็นเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน โดยไม่ได้แจ้งให้รู้ก่อนเลย ไม่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนำไปสู่การลงโทษตามขั้นตอน และการทำโทษก็ข้ามขั้นตอนจากการลงโทษที่ต้องทำจากเบาไปหาหนัก”
ด้าน นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า กสม. จะตรวจสอบเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน เพราะสิทธิเสรีภาพสื่อเป็นตัวชี้วัดถึงประชาธิปไตย อีกทั้งในรัฐธรรมนูญชั่วคราวก็ระบุสุทธิเสรีภาพสื่อไว้ในมาตรา 4 โดยจะเชิญตัวแทน กสท. มาให้ข้อเท็จจริง รวมทั้งเชิญ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ในฐานะ กสทช. เสียงข้างน้อยมาให้ข้อเท็จจริงด้วย และเชิญตัวแทนพีซทีวี หรือคนจัดรายการที่มีปัญหามาชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง ว่า เหตุผลในการสั่งปิดพีซทีวีคืออะไร และอาจขอดูคลิปรายการที่เป็นสาเหตุให้ปิด นอกจากนั้นก็จะมีการตรวจสอบกระบวนขั้นตอนการดำเนินการ เพราะในรัฐธรรมนูญปี 50 ก็ระบุไว้ว่า การปิดทั้งสถานีเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม ควรจะมีการปิดเฉพาะรายการที่มีปัญหา ซึ่งต้องตรวจสอบเพราะทุกคนต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่ดำเนินการตามอำเภอใจ ทั้งนี้เบื้องต้นได้นัดให้ผู้ร้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 20 พ.ค. นี้ เวลา 10.00 น. เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ทั้งนี้ หากเราตรวจสอบเสร็จแล้ว ก็ต้องทำความเห็นเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน แต่อย่างไรก็ตาม กสม. ไม่มีอำนาจทางกฎหมาย หากเสนอความคิดเห็นไปแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ทำตามก็ไม่สามารถเอาผิดได้ แต่ผู้เสียหายสามารถไปร้องต่อศาลปกครองและนำรายงานของ กสม. เป็นพยานได้